การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย นอกจากกรุงเทพฯ แล้ว ภาคเหนือถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญในการสร้างรายได้ให้ประเทศจำนวนไม่น้อยในแต่ละปี เม็ดเงินเหล่านี้มาจากหลายธุรกิจโดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว ซึ่งหนึ่งในแรงผลักดันสำคัญของการท่องเที่ยวภาคเหนือมาจากตระกูล “จิตรสกุล”
อาณาจักรธุรกิจใหญ่แห่งเมืองล้านนา ที่ครอบครองธุรกิจดีลเลอร์โตโยต้ารายใหญ่ในภาคเหนือมาอย่างยาวนานเกินกึ่งศตวรรษ ด้วยเม็ดเงินลงทุนสะสมกว่า 2 พันล้านบาท พร้อมยอดขายในยุครุ่งเรืองของตลาดรถยนต์ไทยที่สูงแตะหลักหมื่นคันต่อปี พร้อมอาณาจักรโรงแรมหรูหลายแห่งในเชียงรายและเชียงใหม่ ปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารของ สุธาสินี จิตรสกุล ทายาทรุ่นที่ 4 ของครอบครัว “จิตรสกุล” เธอเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ถูกจับตามอง ไปพร้อมๆ กับการขยับตัวของโตโยต้าเชียงรายกรุ๊ปที่ไม่ว่าจะเคลื่อนทัพไปทางใดล้วนแต่ได้รับความสนใจในแวดวงธุรกิจ หลังผ่านหลักสูตร Master of Business Administration International Hospitality and Service Industries Management with Leadership จาก Glion ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สุธาสินีในฐานะลูกสาวคนโตก็กลับมาช่วยครอบครัว โดยนั่งเก้าอี้ผู้บริหารธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าที่มีโชว์รูมกว่า 14 แห่งในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และพะเยา รวมถึงธุรกิจกลุ่มโรงแรมเวียงอินทร์โดยล่าสุดรับไม้ต่อจากคุณพ่อ (เรืองชัย จิตรสกุล) ปรับเปลี่ยนโฉมโรงแรมสุขนิรันดร์โรงแรมเก่าแก่อายุเกือบ 60 ปี และปักหมุดเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ สัญลักษณ์แห่งเชียงรายอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาตำนานโตโยต้าเชียงรายกรุ๊ป
“เริ่มแรกจากอาเหล่ากงมาตั้งรกรากที่เมืองไทย ก็ทำธุรกิจหลากหลายอย่างมากและขายทุกอย่างที่ขายได้ แต่มาชัดเจนและให้น้ำหนักกับธุรกิจรถยนต์ ด้วยการขยายเครือข่ายการขายรถโตโยต้ามาที่เชียงราย” นั่นคือจุดกำเนิดของโตโยต้าเชียงรายกรุ๊ป สุธาสินีเล่าต่อว่า “จากนั้นอากงก็ได้ขยายไลน์มาสู่ธุรกิจโรงแรมด้วยนั่นคือ โรงแรมสุขนิรันดร์ ซึ่งถือเป็นโรงแรมแห่งแรกในจังหวัดเชียงราย ยุคนั้นไม่ว่าใครที่มาเยือนเชียงรายก็ต้องมาพักที่โรงแรมแห่งนี้ แล้วก็ขยายไปที่โรงแรมเวียงอินทร์ ที่บ้านเราตระกูลเราแยกกันบริหารงาน จะไม่ได้ทำเป็นกงสี คืออาเหล่ากงมีลูกชาย 2 คน น้องชายของคุณปู่ดูแลที่แพร่ ส่วนคุณปู่บริหารที่เชียงราย เรามีโชว์รูมที่เชียงราย พะเยา ทั้งหมดรวม 13 สาขา ครอบคลุมภาคเหนือตอนบน ณ วันนี้คุณพ่อคุณแม่ยังเป็นผู้บริหารหลักอยู่” วันนี้โตโยต้าเชียงรายกรุ๊ปเป็นฐานธุรกิจใหญ่ของแบรนด์โตโยต้าในพื้นที่เขตภาคเหนือตอนบน ซึ่งประกอบด้วย เครือข่ายโชว์รูมโตโยต้าริช (ชื่อการค้าในจังหวัดเชียงใหม่) ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เมื่อ 4 ปีก่อน มี 1 โชว์รูม และอีก 1 โชว์รูมโตโยต้า ชัวร์ (ยูสคาร์) จังหวัดพะเยา 2 โชว์รูมที่เหลือคือเชียงราย ซึ่งโตโยต้าเชียงรายกรุ๊ปได้สิทธิ์ดูแลการขายครอบคลุมทั้งจังหวัดพร้อมกับโชว์รูมโตโยต้า ชัวร์อีก 2 แห่ง ส่งให้พื้นที่ในเชียงรายสร้างยอดขายได้ 50% ของยอดรวมของบริษัทในแต่ละปี และโตโยต้า เชียงรายกรุ๊ปยังได้รับสิทธิ์การขายในพื้นที่จังหวัดลำพูนและแม่ฮ่องสอนด้วย ซึ่งไม่ได้มีการเปิดโชว์รูม แต่ใช้การแต่งตั้งทีมบริหารการขายจากโตโยต้าริชไปประจำการแทนความท้าทายของทายาทรุ่นที่ 4
สุธาสินีเล่าว่า “แรกเริ่มนั้นอาจจะเป็นความคิดที่มันหลุดไปจากกิจกรรมเดิม เป็นรูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อาจจะแหวกแนวไป ซึ่งเราต้องพิสูจน์ว่ามันเป็นการสร้างสีสัน แต่ท้ายสุดมันมีอิมแพ็กต์ มีผลกับยอดขายได้มากขึ้น” การคิดและทำอะไรใหม่ๆ คือจุดเด่นของสุธาสินี “จำได้ว่าเป็นงานเปิดตัวรถเก๋งรุ่นหนึ่ง ตอนนั้นเราจัดรูปแบบเป็นการดริฟต์รถกลางกว๊านพะเยา ซึ่งผลตอบรับดีมาก มันเกิดจากการที่เราพยายามตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้มากที่สุด” สิ่งที่เธอได้รับการสอนมาตลอดคือ ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ไม่ว่าจะอย่างไรลูกค้าคือคนสำคัญเราต้องดูแล “ลูกค้าในธุรกิจโรงแรมก็เช่นกัน เมื่อลูกค้ามาเยือนเขาก็ต้องได้รับความสุขความคุ้มค่ากลับไป เราจะจัดหาสิ่งเหล่านั้นให้อย่างดีที่สุด ซึ่งคุณพ่อคุณแม่พูดเสมอว่า ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นจากเราคนเดียว แต่จะมาจากทีมงานด้วย ดังนั้น เราต้องดูแลเสมือนเขาเป็นคนในครอบครัว เพราะเขาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามายืนที่จุดนี้”ลุยธุรกิจรถ สู้การแข่งขันสูง
วันนี้รูปแบบการทำธุรกิจเปลี่ยนไปมากมีระบบออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง มีกระแสดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งค่อนข้างแรงเข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค สุธาสินีบอกว่า “การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องที่เราต้องกลัว แต่การบริหารงานต้องมีแผนรองรับ นี่คือโจทย์การตลาดที่เราเบรนสตอร์มกับทีมงานอยู่เสมอ” ความต่างของโตโยต้าเชียงรายกรุ๊ปกับดีลเลอร์ค้ารถรายอื่นที่สัมผัสได้คือ ความใส่ใจด้านการพัฒนาบุคลากร สุธาสินีกล่าวว่า นี่เป็นอีกหัวใจหลักขององค์กร เพราะเธอมองว่าธุรกิจรถยนต์การแข่งขันกันสูงเป็น aggressive business บางทีก็แทบจะเฉือนกันนาทีต่อนาที เพราะเป้าต้องได้มาร์เก็ตแชร์ต้องได้ พอมาทำธุรกิจโรงแรมก็อีกแบบ เป็นเรื่องของ soft skill ต้องมีทักษะการบริการที่นุ่มนวล ทำอย่างไรให้ลูกค้าประทับใจแล้วอยากกลับมาอีกเป้า 5 ปีรักษามาร์เก็ตแชร์
สุธาสินีกล่าวว่า นับจากนี้ไปอีก 5 ปี เป้าหมายของโตโยต้าเชียงรายกรุ๊ปคือ การรักษาฐานลูกค้าและสัดส่วนการถือครองตลาดไว้ให้เหนียวแน่นที่สุด ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าในธุรกิจรถหรือโรงแรม ทำให้ลูกค้าแฮปปี้มีความพึงพอใจสูงสุด และกลับมาใช้บริการคนแล้วคนเล่า และผลแห่งความตั้งใจนี้จะเป็นการสร้างงานสร้างเงินให้ประชาชนที่มีภูมิลำเนาในพื้นถิ่น อีกทั้งสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับภาคเหนือตอนบนได้อีกยาวไกล “วันนี้ลูกค้าไม่ได้มีโซนนิ่งว่าเขาจะต้องซื้อรถที่ไหน แต่โตโยต้ามีขอบเขตในการขาย ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือ ทำอย่างไรให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับการดูแลที่ดีเมื่อมาที่เราเรื่องราคาคงไม่ต้องพูดถึง เพราะมีราคากลางเป็น one price policy จากโตโยต้าอยู่แล้ว รวมทั้งมีแคมเปญกลางจากบริษัทแม่ แต่ดีลเลอร์ก็สามารถออกแคมเปญโฟกัสกรุ๊ปที่มัดใจลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ขึ้นอยู่กับว่าใครจะทำหรือไม่ มีหลายกิจกรรมหลายอีเวนต์ที่มีความต่างเช่นเดียวกับกิจกรรมลงพื้นที่ กิจกรรมขอบคุณลูกค้าประจำปีในทุกโชว์รูม ทั้งลูกค้าใหม่และเก่า เวลคัมโฮม สร้างความอบอุ่น มีคอนเสิร์ตจับรางวัล โดยเฉพาะครบรอบ 50 ปีที่เราเป็นออเทอไรซ์ดีลเลอร์ เราจัดใหญ่มาก” ในส่วนของโรงแรมก็ต้องมีการเติบโตเช่นกัน ภายใน 5 ปีนับจากนี้ “คุณพ่อมีแผนจะปรับปรุงโรงแรมเวียงอินทร์ ริเวอร์ไซด์ ให้เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว และอีกหลายแผนการ โดยหลักแล้วตระกูลของเราก็เน้นไปที่ธุรกิจยานยนต์และโรงแรม” หลักคิดของครอบครัวคือ “ยิ่งให้ยิ่งได้ยิ่งคืนกำไรให้สังคม อาณาจักรธุรกิจยิ่งยั่งยืน” ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม สำเร็จไปแค่ไหนต้องไม่ลืมตอบแทนลูกค้า ไม่ลืมสังคม ที่ผ่านมาทางกลุ่มจึงมีกิจกรรมต่อเนื่องมากว่า 20 ปี ไม่ว่าจะเป็นการไปแจกผ้าห่มให้ชาวบ้านที่ขาดแคลนบนดอย ไปยังหมู่บ้านที่ผู้คนไปไม่ค่อยถึง นอกจากนี้ยังมีการแจกเครื่องกรองน้ำ สร้างห้องสมุดบนดอยให้เด็กเล็กๆ “เราไม่ต้องการแค่โยนเงินเข้าไปอย่างเดียวแล้วไม่เกิดประโยชน์ที่ยั่งยืน เรามีหลายโครงการ” เป้าหมายของโตโยต้าเชียงรายกรุ๊ป และสุธาสินีในฐานะทายาทรุ่นที่ 4 ยังมีความท้าทายอีกมากมายที่ต้องก้าวข้าม ทั้งการขยายไลน์ธุรกิจ และเคลื่อนทัพสู่อินเตอร์ เพราะโลกธุรกิจวันนี้ไร้พรมแดนคลิกอ่านฉบับเต็ม "สุธาสินี จิตรสกุล" ความท้าทายรุ่นที่ 4 ขับเคลื่อนอาณาจักรธุรกิจล้านนา ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมิถุนายน 2563 ในรูปแบบ e-magazine