“คาร์สัน” แบรนด์ที่ไม่ได้มีดีแค่ “ถุงเท้า” - Forbes Thailand

“คาร์สัน” แบรนด์ที่ไม่ได้มีดีแค่ “ถุงเท้า”

มากกว่า 4 ทศวรรษของสโลแกนโฆษณา “ถุงเท้าที่ทุกๆ คนใส่กัน” ไม่มีนักเรียนไทยคนไหนในยุคนั้นไม่รู้จักถุงเท้าคาร์สัน (Carson) จากความเพียรพยายามต่อยอดธุรกิจยาจุดกันยุงตราห่านฟ้าและเสื้อยืดตราลูกไก่ของครอบครัว สู่การสร้างแบรนด์ถุงเท้าคาร์สันของ สุพจน์และสุภาภรณ์ ศรีโรจนันท์ สามีภรรยานักธุรกิจที่เริ่มตั้ง บริษัท สหไทยพัฒนภัณฑ์ จำกัด ในวัยเพียง 26 ปี และ 22 ปี ที่ก่อร้างสร้างตัว

ด้วยหลักการทำธุรกิจ “ช้าแต่ชัวร์” เติบโตแบบไม่เสี่ยงได้รับการถ่ายทอดถึงลูกไม้ใกล้ต้น นำโดยทายาทคนโต เอกพงศ์ ศรีโรจนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหไทยพัฒนภัณฑ์ จำกัด ในวัย 43 ปี ซึ่งยังคงระลึกถึงโจทย์ในวันแรกที่นั่งเก้าอี้บริหารธุรกิจของครอบครัวเมื่อปี 2545 หลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านการตลาดและการบริหารจัดการจากการทำงาน head hunter ที่สหรัฐอเมริกาเป็นเวลากว่า 4 ปี “ผมเป็นคนคิดการใหญ่ และ aggressive กว่าคุณพ่อคุณแม่ ขณะที่ท่านจะเน้นการทำธุรกิจให้ปลอดภัย ท่านผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่า คอยดูทิศทางเศรษฐกิจของประเทศและเศรษฐกิจโลกทั้งปีนี้และปีหน้า เราต้องฟังและกลับมาคิด อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจในแนวทางที่ไม่เสี่ยงมีทั้งข้อดีข้อเสีย บางโอกาสมันต้องใช้เงินมหาศาลทำให้ธุรกิจก้าวกระโดด” ท่ามกลางการแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรงขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีตที่คาร์สันครองตลาด ความท้าทายของสายเลือดใหม่อยู่ที่การผสมผสานประสบการณ์ทางธุรกิจของคนรุ่นก่อนเข้ากับการสร้างระบบบริหารจัดการฉบับคนรุ่นใหม่ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป พร้อมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขัน ด้วยการพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ระยะเวลากว่า 13 ปี เอกพงศ์ผนึกกำลังกับน้องชาย ได้แก่ เฉลิมชัย ซึ่งนั่งเก้าอี้กรรมการบริหาร และ รัตนพงษ์ ดำรงตำแหน่ง Executive Director ดูแลด้านการตลาด พี่น้องศรีโรจนันท์ร่วมกันฝากผลงานขับเคลื่อนอาณาจักรคาร์สันให้เป็นมากกว่าถุงเท้าที่ทุกๆ คนใส่กัน นอกจากรองเท้านักเรียนแล้วการเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความหลากหลายและขยายฐานลูกค้ามากยิ่งขึ้น อาทิ ถุงเท้าทำงานและถุงเท้าลำลอง ซึ่งสามารถจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี การซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูน เพิ่มลวดลายบนถุงเท้ามากขึ้น เพื่อมัดใจฐานลูกค้าวัยเยาว์ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ Carson Collection กลุ่มชุดชั้นในชายคุณภาพสูงและกลุ่มสินค้าสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน โดยกลยุทธ์หลักของคาร์สันจึงอยู่ที่การตอกย้ำความแตกต่างของแบรนด์ด้านคุณภาพและความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ที่ครองความเป็นเจ้าตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นคีย์สำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโต และได้รับความสนใจจากต่างประเทศ โดย บริษัท WARDCO DESIGN PTY. LTD. ประเทศออสเตรเลียสนใจในคุณภาพและการออกแบบในสไตล์เฉพาะตัว จนกระทั่งติดต่อขอเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายในลักษณะพันธมิตรทางธุรกิจ ไม่เพียงธุรกิจคาร์สัน เอกพงศ์ ยังให้ความสำคัญต่อยอดความแข็งแกร่งผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมของครอบครัว ยาจุดกันยุงตราห่านฟ้า ที่ครองความเป็นอันดับ 1 อย่างต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน และเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 อีกทั้งผลิตภัณฑ์เสื้อยืดและเสื้อกล้ามตราลูกไก่ เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงาม อาทิ ครีม UB ผลิตภัณฑ์คอลลาเจนสดผสมเมือกหอยทากแบรนด์ แม้การต่อยอดธุรกิจของทายาทจะขยายขอบเขตสู่หลากหลายผลิตภัณฑ์ หากแต่หลักการดำเนินธุรกิจยังคงอยู่บนพื้นฐานการสร้างความยั่งยืนและมั่นคง พร้อมดำเนินรอยตามแนวทางและความเห็นของผู้ก่อตั้งในฐานะเจ้าของแบรนด์ตัวจริง “ความมั่นคงต้องมาก่อน คุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ธุรกิจอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ภายใต้การบริหารความเสี่ยงอย่างปลอดภัยที่สุด บริษัทเราจึงไม่มีการกู้เงิน และไม่ทำอะไรมากเกินไป ท่านดำเนินธุรกิจแบบพอเพียง และ conservative พอใจกับสิ่งที่มี ขณะที่ถ้าเราเห็นตรงไหนมีช่องทางให้บริษัทพัฒนา เราก็เสนอและถามความเห็น เพราะท่านเป็นผู้สร้างแบรนด์นี้” หมุดหมายต่อไปของครอบครัวศรีโรจนันท์ก้าวไกลเกินกว่าธุรกิจผู้ผลิตและจัดจำหน่าย จากโอกาสที่มองเห็นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ทายาทคาร์สันมุ่งเสาะหาที่ดินทำเลน่าสนใจเพิ่มเติมจากที่ดินเดิมที่มีอยู่ พร้อมรอเวลาและสภาวะเศรษฐกิจที่เหมาะสมร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจนำเสนอโครงการคอนโดมิเนียมขนาดเล็ก โดยเฉพาะทำเลในเมืองท่องเที่ยว เช่น เขาใหญ่ และหัวหิน รวมถึงรีสอร์ทและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เอกพงศ์ปิดท้ายถึงเป้าหมายที่วางไว้ในวันแรกที่รับไม้ต่อทางธุรกิจ “เราอยากเห็นภาพบริษัทโตกว่านี้อีกมาก เพราะเราเป็นธุรกิจครอบครัว เมื่อเวลาผ่านไปสมาชิกแต่ละคนต่างมีครอบครัวของตัวเอง ธุรกิจควรขยายในอัตราส่วนที่เท่าเทียมกับครอบครัวของเรา ในอนาคตเราวางเป้าหมายร่วมกันกับพี่น้องว่า ต้องการให้ธุรกิจขยายตัวแบบก้าวกระโดด”   เรื่อง: พรพรรณ ปัญญาภิรมย์ ภาพ: เอกพงศ์ ตันติผลประเสริฐ
คลิ๊กอ่าน "“คาร์สัน” แบรนด์ที่ไม่ได้มีดีแค่ “ถุงเท้า”" ฉบับเต็มได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ DECEMBER 2015 ในรูปแบบ E-Magazine