กาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา ประกายความหวังชุบพลัง KTMS - Forbes Thailand

กาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา ประกายความหวังชุบพลัง KTMS

การเบนเข็มเส้นทางพยาบาลดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาลสู่การนำความเชี่ยวชาญเฉพาะทางไตเทียมเริ่มต้นธุรกิจให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมครบวงจรยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้สามารถเข้าถึงมาตรฐานด้านสุขภาพทั่วประเทศ พร้อมสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงอนาคต


    รายงานภาวะสังคมของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเปิดเผยข้อมูลสถานการณ์โรคไตเรื้อรังปี 2567 มีจำนวนคนไทยป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 980,000 คน ในปี 2565 เป็น 1.13 ล้านคน ในปี 2567 รวมถึงการก้าวสู่สังคมสูงอายุเต็มรูปแบบ (aged society) จากประชากรสูงวัยที่มีสัดส่วนมากกว่า 20% ได้ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงหลากหลายมิติและความท้าทายสำคัญด้านการบริหารจัดการระบบสุขภาพส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขครอบคลุมทั้งประเทศ

    อย่างไรก็ตาม โจทย์ใหญ่ของความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั่วโลกมาพร้อมโอกาสทางธุรกิจและสร้างแรงบันดาลใจการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตจากความหวังในคอนเซ็ปต์ Inspiration from Hope และส่งเสริมกำลังใจให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสู้ร่วมกัน ภายใต้ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมประสบการณ์พยาบาลเฉพาะทางโรคไตเทียมของ กาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ KTMS

    “หลังจบพยาบาลวิชาชีพและทำงานพยาบาลแผนกอายุรกรรมทั่วไปที่โรงพยาบาลพระราม 9 ประมาณ 1 ปี จึงตัดสินใจศึกษาต่อเรื่องการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมปี 2550 และทำงานกับอาจารย์สง่า นิลวรางกูร ที่คลินิกของอาจารย์ย่านพรานนก 3-4 ปี ซึ่งช่วงนั้นเราได้พบกับคุณวิจิตร เตชะเกษม (กรรมการผู้จัดการ บมจ. ฟิลเตอร์ วิชั่น ในปัจจุบัน) และแต่งงานปี 2553 ออกมาเป็นแม่บ้านเต็มตัวจนถึงจังหวะที่พร้อมก่อตั้งบริษัทในปี 2558 เพราะเราเป็นพยาบาลและทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคไตทำให้เห็นความลำบากของคนไข้ในการฟอกเลือด และเกิดแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจที่สามารถดูแลผู้ป่วยให้สามารถฟอกเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความสุข และอายุยืนยาว”



    กาญจนากล่าวถึงความมุ่งมั่นหลังสำเร็จการศึกษาปริญญาตรี พยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ และประกาศนียบัตรการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม รวมถึงประกาศนียบัตรพยาบาลผู้เชี่ยวชาญการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลราชวิถี ด้วยความมั่นใจในประสบการณ์เฉพาะทางมากกว่า 15 ปี เดินหน้าก่อตั้งธุรกิจให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (hemodialysis) รูปแบบคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางไตเทียม และหน่วยไตเทียมในโรงพยาบาล ระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม รวมทั้งการขายและการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อย่างครบวงจร (one-stop services) ซึ่งอยู่ในกลุ่ม บมจ. ฟิลเตอร์ วิชั่น หรือ FVC

    “คลินิกแรกของเราอยู่ที่พัฒนาการ เริ่มจาก 12 เตียงเป็น 15 เตียง 4 รอบตั้งแต่ตี 5-5 ทุ่ม และวางแผนขยายเพิ่มเป็น 24 เตียง โดยความยากช่วงก่อตั้งอยู่ที่การทำทุกอย่างให้ได้ตามมาตรฐาน ซึ่งเราตรวจผ่านทุกข้อตั้งแต่ครั้งแรก โดยเราลงมือทำทุกอย่างเอง ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสารที่ต้องศึกษาข้อกำหนด กฎหมายต่างๆ การออกแบบ การคุมงานก่อสร้างให้ได้มาตรฐานคลินิกไม่ให้เกิดความผิดพลาด รวมถึงความท้าทายในการทำให้คนรู้จัก KTMS ซึ่งขณะนั้นเรามีคนไข้เงินสดเพียง 1 คน เราใช้วิธีเดินหาอาจารย์ทุกโรงพยาบาลเหมือนเซลส์ยืนรอนำเสนอการให้บริการของเรา พร้อมรักษามาตรฐานการดูแลคนไข้ให้เขาได้เห็นสุขภาพที่ดีขึ้นและสร้างความเชื่อมั่นส่งเคสให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”

    สำหรับปัจจุบันบริษัทสามารถขยายสาขาให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมครอบคลุมทั่วประเทศ 36 สาขา และจัดตั้ง 3 บริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ดำเนินธุรกิจหลักการให้บริการออกแบบ ติดตั้งระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ ระบบบำบัดน้ำเสียสำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมและการบำรุงรักษาระบบ การผลิตและจัดจำหน่ายน้ำยาไตเทียม การให้บริการออกแบบและตกแต่งสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม การออกแบบประกอบและจัดจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์สำหรับสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม


    ขณะเดียวกันยังขยาย บริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด ให้บริการออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์ท่อลมรับ-ส่ง สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์ รวมถึงบริการดูแลรักษาระบบ และ บริษัท เนโฟร วิชั่น จำกัด ให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมทั้งรูปแบบคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางไตเทียมและหน่วยไตเทียมในโรงพยาบาลซึ่งมุ่งเน้นความร่วมมือกับอายุรแพทย์โรคไตในพื้นที่หลัก เช่น คลินิกเวชกรรมเฉพาะทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีจำนวนเครื่องไตเทียม 4 เครื่อง

    “เรามั่นใจในพื้นฐานของบริษัทเดิมที่เรามีเออร์วิงและทีมงาน ซึ่งเชี่ยวชาญระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์สำหรับฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม รวมถึงเราเป็นพยาบาลเฉพาะทางเกี่ยวกับไตเทียม ทำให้รู้ทุกอณูเกี่ยวกับมาตรฐานการบริการที่ดีและเชื่อมั่นในความสำเร็จเกิดขึ้นได้จากคุณภาพ ด้วยความพยายามนำเสนอบริการทุกที่ทั้งขึ้นเหนือล่องใต้ เพราะเป็นน้องใหม่เวลาคุยกับผู้ใหญ่ต้องให้เขาสนใจเรา และทุกอย่างต้องพร้อมจบในครั้งเดียว โดยจุดเปลี่ยนเกิดจากการบอกต่อมาตรฐานของเราจากวันแรกที่ไม่มีใครรู้จัก KTMS เราสามารถสร้างการเติบโตเฉลี่ย 30% ทุกปี และเป็นบริษัทฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมบริษัทแรกที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์”


รุกขยายศูนย์ฟอกไตคตอบดีมานด์

    พัฒนาการทางธุรกิจสำคัญหลังบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในปี 2565 และระดมทุนขยายศูนย์ให้บริการฟอกไตเทียม รวมถึงโรงงานผลิตน้ำยาไตเทียมและศูนย์บริการวิศวกรรม พร้อมสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยประมาณ 30% ต่อปี ซึ่งสอดคล้องกับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงการทำงานของไตเสื่อมลงและแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังเพิ่มขึ้น

    “การเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นความท้าทายสำหรับพยาบาลที่เริ่มต้นธุรกิจด้วยความตั้งใจทำให้ดีที่สุด แต่เมื่อเราเติบโตในระดับหนึ่งก็สนใจและเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ตามขั้นตอน โดยนำเงินระดมทุนมาขยายสาขาและผลิตน้ำยาไตเทียมเพิ่มเพื่อรองรับแนวโน้มคนไข้ที่เพิ่มขึ้นในอนาคตจากข้อมูลผู้ป่วยโรคไตในไทยปี 2567 ประมาณ 11-12 ล้านคน และสังคมผู้สูงอายุที่มีสัดส่วน 20% ของประชากรทั้งหมด รวมถึงโรคเบาหวาน ความดันโลหิต ซึ่งถ้าดูแลไม่ดีอาจจะกลายเป็นไตวายเรื้อรังและถ้าเข้าสู่ระยะที่ 5 ก็ต้องฟอก 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ตลอดชีวิต เพื่อกำจัดของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย โดยคนไข้โรคไตต้องฟอกเลือดตลอด ทำให้ธุรกิจมีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอ”

    สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2567 ของบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น 30.86% หรือ 140.96 ล้านบาทเป็น 597.69 ล้านบาท และกำไรในส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น 19.99% อยู่ที่จำนวน 17.05 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากกลุ่มธุรกิจการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมเพิ่มขึ้น 36.33% หรือ 128.93 ล้านบาท เป็น 483.82 ล้านบาท เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับบริการมากขึ้น และการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง


    ส่วนกลุ่มธุรกิจการให้บริการออกแบบ ติดตั้งระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ ระบบบำบัดน้ำเสีย สถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และการบำรุงรักษาระบบมีรายได้เพิ่มขึ้น 11.51% อยู่ที่จำนวน 87.76 ล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายได้การผลิตและจัดจำหน่ายน้ำยาไตเทียมจากคำสั่งซื้อของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรับรู้รายได้จากการให้บริการออกแบบและตกแต่งสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมจากการได้รับงานปรับปรุงหน่วยไตเทียมเข้ามาภายในปี 2567 และรับรู้รายได้จากการจัดจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์สำหรับสถานพยาบาลศูนย์ไตเทียมเพิ่มขึ้น 

    ด้านกลุ่มธุรกิจการให้บริการออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์ท่อลมรับ-ส่งสิ่งส่งตรวจทางการแพทย์ของบริษัทมีรายได้ 26.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.97 ล้านบาท คิดเป็น 12.83%  เนื่องจากงานโครงการติดตั้งอุปกรณ์ท่อลมรับ-ส่งสิ่งส่งตรวจทางการแพทย์ที่ได้รับในปี 2567 ซึ่งมีจำนวนงานและมูลค่างานมากกว่างานโครงการในปี 2566

    “รายได้หลักของเรามาจากการฟอกเลือดมากกว่า 80% จาก 36 สาขา ซึ่งเราต้องการให้รายได้รวมเติบโตเฉลี่ย 30% ทุกปี ด้วยการขยายสาขาเพิ่มปีละประมาณ 5-6 สาขา ทั้งการขยายตามโรงพยาบาลและคลินิกทั่วประเทศตามความเหมาะสม โดยเฉพาะต่างจังหวัดหรือพื้นที่ห่างไกล เพราะคนไข้อาจจะไม่ได้อยู่ในเมืองหรือไม่สามารถเดินทางเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ เราจึงพยายามนำบริการของเราเข้าไปใกล้เขาให้มากที่สุด ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักของเราในการขยายสาขาและการเน้นขายอุปกรณ์ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมให้หน่วยอื่นๆ โรงพยาบาลรัฐหรือเอกชนที่ยังมีตลาดให้เราทำได้ รวมถึงการขยายกำลังการผลิตน้ำยาไตเทียมให้เพียงพอสำหรับการเติบโตของ KTMS และการจำหน่ายทั่วประเทศ”



    กาญจนากล่าวถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจที่ยังคงเดินหน้าขยายสาขาและเครื่องไตเทียมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมภายใต้บริษัทย่อย เนโฟร วิชั่น และบริษัทย่อย เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น ซึ่งได้รับคำสั่งซื้องานติดตั้งระบบน้ำจากลูกค้าแล้ว 5 โครงการมูลค่ารวม 6.77 ล้านบาท พร้อมทั้งงานปรับปรุงหน่วยไตเทียม 2 โครงการ มูลค่า 2.16 ล้านบาท โดย บริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด ยังได้รับคำสั่งซื้องานติดตั้งท่อลมรับ-ส่ง สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์จากลูกค้าแล้ว 3 โครงการ มูลค่ารวม 7 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปีนี้

    นอกจากนั้น บริษัทยังกำหนดแนวทางการดำเนินงานธุรกิจหลักที่มุ่งเน้นการเป็นผู้นำการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมอย่างครบวงจร (one-stop services)ภายใต้การรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง โดยมีสถานพยาบาลให้บริการกระจายครอบคลุมทุกภูมิภาคในประเทศไทย รวมถึงศูนย์การกระจายสินค้าช่วยลดค่าใช้จ่ายการจัดส่งน้ำยาไตเทียม พร้อมทั้งให้บริการที่เกี่ยวข้องกับระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม การบำรุงรักษาระบบการให้บริการออกแบบและตกแต่ง การจัดจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์สำหรับสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมและการผลิตหรือจัดจำหน่ายน้ำยาไตเทียม

    ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการวางกลยุทธ์ด้านราคาที่สมเหตุสมผลและได้รับการสนับสนุนจากโครงการสวัสดิการด้านสุขภาพภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ (กรมบัญชีกลาง) สิทธิขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สิทธิสำนักงานประกันสังคม (สปส.) รวมทั้งผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ชำระเป็นเงินสด

    “คีย์สำคัญอยู่ที่มาตรฐานและการบริการ one-stop services ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งเรามีทีมวิศวกรของเราเองในการเขียนแบบแนบเอกสารส่งยื่นอนุมัติให้ผ่านมาตรฐาน และระบบทำ e-bidding พร้อมทุกอย่าง รวมถึงด้านการบริหารจัดการโดยพยาบาลเฉพาะด้านไตเทียม ทำให้เข้าใจทุกรายละเอียดและสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ด้วยมาตรฐานที่เราให้คนไข้ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่เราเลือกเครื่องของญี่ปุ่นที่คนไข้โรคไตมีอายุยืนยาวที่สุด การบริการ และการดูแลคุณภาพชีวิต ซึ่งถ้าเขาอยู่นานรายได้เราก็เพิ่มขึ้น โดยลูกค้าเราถ้าดูตามสิทธิมาจากสปสช. มากที่สุด เพราะเราเริ่มต้นธุรกิจกับคนที่ไม่มีและตั้งใจให้ทุกคนมีสิทธิได้รับมาตรฐานการฟอกเลือด เพื่อให้คนไข้สุขภาพดีและเราสามารถดำเนินธุรกิจได้ในระยะยาว”



    กาญจนาตอกย้ำถึงความไว้วางใจในการให้บริการและคุณภาพของกลุ่มบริษัทที่ได้รับจากกลุ่มโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน กลุ่มผู้ป่วยโรคไต กลุ่มอายุรแพทย์โรคไต คู่ค้าทางธุรกิจ ด้วยการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อพันธมิตรทางธุรกิจและความเชื่อมั่นในผู้บริหารที่เป็นพยาบาลระดับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไตเทียมที่มีประสบการณ์เป็นเวลานานรวมถึงบริษัทย่อยที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมมากกว่า 20 ปี การออกแบบและตกแต่งสถานพยาบาลให้บริการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานระดับสากล

    สำหรับมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ได้แก่ มาตรฐานของสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย ข้อแนะนำเวชปฏิบัติการล้างไตโดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องฟอกเลือด ฉบับปี 2557 เช่น ขั้นตอนการเตรียมหลอดเลือดเพื่อใช้ในการฟอกเลือด เครื่องไตเทียมและตัวกรอง คุณภาพของระบบน้ำบริสุทธิ์ ขั้นตอนการให้บริการฟอกเลือดและการควบคุมป้องกันการติดเชื้อ รวมถึงแนวทางปฏิบัติเรื่องการเตรียมน้ำบริสุทธิ์เพื่อการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ฉบับปี 2564 ซึ่งเป็นมาตรฐานการออกแบบ ติดตั้งระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม การบำรุงรักษาระบบ และมาตรฐานน้ำยาไตเทียม

    นอกจากนั้น บริษัทยังมีมาตรฐานการรักษาโดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมปี 2557 โดยคณะอนุกรรมการตรวจรับรองมาตรฐานการรักษาโดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (ตรต.) จากราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย และมาตรฐานการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในสถานพยาบาลตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เช่น คุณสมบัติผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมสัดส่วนของผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลไม่น้อยกว่า 1 คนต่อผู้ป่วย 4 คน การจัดสถานที่สิ่งแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกในการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม เป็นต้น

    “เราต้องการให้ภาพลักษณ์เราโดดเด่นด้านคุณภาพการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมและฝันให้กลุ่มบริษัท KTMS เติบโตถึงพันล้านบาทไม่เกิน 5 ปี โดยวางเป้าหมายรายได้ไว้ 800 ล้านบาทในปีนี้ ด้วยแผนการเพิ่มสาขาประมาณ 6 สาขา และเครื่องฟอก 60 เครื่องต่อปี ซึ่งปัจจุบันเราดูแลคนไข้ทั้งหมด 3,000 คน เจ้าหน้าที่ประมาณ 400 คน โดยตามแผนขยายศูนย์เราต้องเพิ่มพยาบาล 30-40 คนต่อปี หรือประมาณ 600 คน ซึ่งการเพิ่มบุคลากรเป็นปัญหาหลักขณะนี้ เพราะการเรียนเฉพาะทางต้องใช้เวลา 6-8 เดือน และสถาบันผลิตพยาบาลน้อยมากเมื่อเทียบกับคนไข้ที่เพิ่มขึ้น โดยเรามีการจับมือกับสถาบันผลิตพยาบาลเพื่อส่งเจ้าหน้าที่ของเราไปเรียนและส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร”



    ซีอีโอผู้ก่อตั้งธุรกิจวัย 42 ปี ปิดท้ายถึงหลักการบริหารที่มุ่งเน้นความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐานสำคัญ ซึ่งส่งเสริมทีมงานให้เห็นความสำคัญในการทำงานและดูแลคนไข้ด้วยความซื่อสัตย์ เพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและสุขภาพโดยตรง รวมถึงการให้ความจริงใจกับพนักงานและเชื่อในการลงมือปฏิบัติทุกขั้นตอนการทำงาน เพื่อให้เข้าใจกระบวนการทั้งหมดและสามารถบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    “พื้นฐานเราเป็นพยาบาล ซึ่งความซื่อสัตย์สำคัญเป็นอันดับแรก เพราะถ้าเราทำงานผิดพลาดกับคนไข้และไม่ซื่อสัตย์อาจจะทำให้คนไข้ติดเชื้อถึงชีวิตได้ ทำให้เราต้องมีความซื่อสัตย์ระหว่างกัน การทำงานกับโรงพยาบาลก็ต้องซื่อสัตย์เช่นเดียวกับคนทำงาน รวมถึงความจริงใจที่เรามีให้ทีมงาน ความยุติธรรม และเราเน้นการลงมือทำให้เห็นว่าทำได้ ทุกตำแหน่งเราทำมาก่อนจึงเข้าใจและช่วยกันทำได้ ซึ่งเราเชื่อว่าการบริหารจัดการต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์ในการดูแลให้ทีมทำงานตามมาตรฐานหรือนโยบายของเรา”


ภาพ: วรัชญ์ แพทยานันท์



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : นฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ สร้างสมการใหม่ให้ GUNKUL

อ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤษภาคม 2568 ในรูปแบบ e-magazine