ชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ ยกระดับ "แม็ค" เทียบชั้นอินเตอร์แบรนด์ - Forbes Thailand

ชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ ยกระดับ "แม็ค" เทียบชั้นอินเตอร์แบรนด์

ชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ เข้ารับตำแหน่งซีอีโอของ บมจ.แม็คกรุ๊ป ในปี 2562 ท่ามกลางภาวะดิสรัปในอุตสาหกรรมค้าปลีก ส่งผลให้รายได้และกำไรของบริษัทลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จากฉายาเจ้าแม่เทิร์นอะราวนด์ที่ถูกเรียกขานในวงการ เธอกำลังพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งที่จะนำความแข็งแกร่งกลับคืนสู่ตำนานยีนส์สัญชาติไทยที่มีอายุกว่า 4 ทศวรรษ

บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศแต่งตั้ง ชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ ให้ดำรงตำแหน่งซีอีโอ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ชนัญญารักษ์ผู้ที่ได้ฉายาว่าเจ้าแม่เทิร์นอะราวนด์ในวัยเตรียมตัวเกษียณ จึงต้องแสดงฝีมืออีกครั้งในการเข้ามาพลิกฟื้นธุรกิจของแม็คกรุ๊ป หลังได้รับการร้องขอจากสุณี เสรีภาณุรองประธานกรรมการบริษัท ที่เป็นทั้งเจ้านายและเพื่อนสนิท ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าศึกนี้ใหญ่หลวงนัก

สำหรับฉายาเจ้าแม่เทิร์นอะราวนด์นั้น เกิดจากประสบการณ์การทำงานตลอด 30 ปีของชนัญญารักษ์ที่ผ่านการถูกซื้อตัวจากองค์กรชั้นนำหลายแห่ง โดยเฉพาะบริษัทต่างชาติในการเข้าไปเปลี่ยนเกมธุรกิจ เพื่อฟื้นศักยภาพขององค์กรและก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาด ไม่ว่าจะเป็นบริษัท Oracle Corporation Thailand บริษัท SAS International Software บริษัท โมโตโรล่า ประเทศไทย และบริษัท DHL Express International ประเทศไทย

ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกของเธอที่จะได้ใช้ประสบการณ์ในการฟื้นศักยภาพธุรกิจให้กับบริษัทคนไทย ซึ่งหากทำได้จริงไม่เพียงแต่สร้างความยั่งยืนให้องค์กรไทย แต่โดยส่วนตัวนั่นคือการจบหลักสูตรขั้นสูงสุดจากทุกสำนักที่ได้ร่ำเรียนมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิของ Berkeley Executive Coaching Institute

เป้าหมายในการเข้ารับตำแหน่งซีอีโอที่แม็คกรุ๊ปครั้งนี้ หากทำสำเร็จจะเป็นการบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม เป็นเป้าหมายในการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ที่จะเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน และเป็นการสร้างการเรียนรู้ที่จะเกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติต่อไปชนัญญารักษ์ในวัย 57 ปีกล่าวอย่างมุ่งมั่นและฮึกเหิม ตามสไตล์ภรรยานายทหาร บวกกับประสบการณ์กว่า 30 ปีในการบริหารองค์กรชั้นนำ

 

ค้าปลีกเผชิญภาวะดิสรัปชั่น

บมจ.แม็คกรุ๊ปอยู่ในธุรกิจผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าภายใต้แบรนด์แม็ค” (Mc) ที่มีมูลค่ากว่า 3.3 หมื่นล้านบาท เป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมค้าปลีกที่มีมูลค่ากว่า 2.6 ล้านล้านบาท ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีทำให้ตลาดชะลอตัวลงในปี 2562 คาดว่าตลาดจะหดตัว 3-5%

ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลให้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาผลประกอบการของ บมจ. แม็คกรุ๊ป ลดลงอย่างต่อเนื่อง และทำให้ผู้บริหารคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปลี่ยนแปลง ซึ่งขณะนั้นชนัญญารักษ์นั่งเป็นกรรมการบริษัทอยู่แล้ว จึงตัดสินใจรับบริหารในตำแหน่งซีอีโอ

ธุรกิจค้าปลีกเป็นธุรกิจที่ยากกว่าธุรกิจอื่น เพราะปรับเปลี่ยนเร็วตามไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ขณะที่มีการแข่งขันสูงและกำลังถูกดิจิทัลดิสรัปชั่น การขยายตัวของอี-คอมเมิร์ซที่เข้ามาแทรกแซงค้าปลีกแบบเดิมอย่างรวดเร็ว ดังนั้นในแง่การบริหารองค์กรค้าปลีกจะต้องตัดสินใจให้เร็วและพร้อมตั้งรับผลที่จะตามมาชนัญญารักษ์กล่าว

ด้วยพื้นฐานของชนัญญารักษ์ที่อยู่ในอุตสาหกรรมด้านไอทีมานานตั้งแต่จบการศึกษาปริญญาโทด้าน MIS บวกกับประสบการณ์ที่ออราเคิล SAS และโมโตโรล่า และตอนที่อยู่ DHL ก็มีแรงบันดาลใจอย่างแรงกล้าที่จะใช้ออนไลน์เป็นเครื่องมือในการขยายธุรกิจให้เข้าถึงลูกค้าอย่างสะดวกและรวดเร็วด้วยปลายนิ้ว

คิดว่าถ้าทำโมเดลที่แม็คประสบความสำเร็จ จะสามารถช่วยเถ้าแก่ไทยได้ โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอีในตลาดหลักทรัพย์มีจำนวนมาก หากสามารถผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้จะทำให้ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

 

ปรับพื้นฐานแกร่ง

สำหรับเป้าหมายแรกหลังจากเธอเข้ามาบริหารงานเต็มตัวคือ ทำในสิ่งที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ นั่นก็คือการทำให้ผลตอบแทนในตลาดหลักทรัพย์ดีขึ้น จากราคาหุ้นเฉลี่ย 7 บาท ขยับขึ้นมาเป็น 9 บาท

และล่าสุดเมื่อวันที่ 2 .. 2563 Mc ขายหุ้นล็อตใหญ่ 10 ล้านหุ้นให้กับ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนหุ้นคุณค่าที่ให้ความสำคัญกับการเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีสามารถลงทุนได้ในระยะยาว และส่วนหนึ่งเป็นความเชื่อมั่นที่เกิดจากการวางกลยุทธ์การบริหารองค์กรใหม่ของชนัญญารักษ์ด้วย โดย วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 ราคาหุ้นของ Mc ปิดอยู่ที่ 10.70 บาท

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของธุรกิจ ซึ่งหลังจากเข้ารับตำแหน่ง ชนัญญารักษ์ ได้วางกลยุทธ์ใหม่ให้กับแม็คกรุ๊ป

กลยุทธ์ที่ชนัญญารักษ์วางไว้คือ “Make our customers & employees happier” ซึ่งต้องทำควบคู่กันไปทั้งลูกค้าและพนักงาน ต้องสร้างมาตรฐานองค์กรและรักษาไว้ และต้องแน่ใจว่าลูกค้ามีความสุขมากขึ้น รวมถึงพนักงานที่ทำงานก็มีความสุขมากขึ้น ทำให้เห็นว่าทุกประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับนั้นมาจากความตั้งใจอย่างดีที่สุด จึงเน้นการพัฒนา customer experience ให้ดีขึ้นในทุกจุดที่ลูกค้าสัมผัสเรา ตั้งแต่พนักงานขาย call center การจัดส่งสินค้า รวมถึงช่องทางการขาย online ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและมีมาตรฐานเสมอ

สำหรับการสร้างความสุขให้ลูกค้ามีหลายปัจจัย มีทั้งการทำ retail optimization เพื่อให้ตามทันกระแสและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างดีที่สุด การพัฒนาสินค้าใหม่ๆ (new product development) ให้ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า การสร้าง seamless shopping experience ให้การช็อปปิ้งออนไลน์และออฟไลน์เชื่อมต่อกันอย่างไม่สะดุด การสร้าง brand experience ใหม่ๆ เป็นต้น

 

เชื่อมต่อทุกจุด “Connect the Dots”

สำหรับกลยุทธ์ที่เธอวางไว้เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้แม็คกรุ๊ปคือ “Con-nect the Dots” และ Culture Is Your Own Destiny” นี่คือความท้าทายในเชิงธุรกิจคือการที่เราจะต้องสร้าง Value Creation ให้เกิดขึ้นกับองค์กรด้วยการ “Connect the Dots” หรือการเชื่อมโยงทุกหน่วยงานให้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายสูงสุดที่ตั้งไว้ เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

พร้อมกับย้ำอย่างมั่นใจกับพนักงานว่า เรื่องวัฒนธรรมองค์กรสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทุกอย่างเริ่มต้นที่ตัวเรา “Believe makes action” ถ้าคุณเชื่อในทัศนคติแง่บวกที่คุณมีความเชื่อนั้นจะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นได้

สำหรับชนัญญารักษ์แล้ว เธอมีความกระตือรือร้นในการทำให้แม็คกรุ๊ปบรรลุเป้าหมายในการเป็นแบรนด์ไทยที่เทียบชั้นอินเตอร์ และก้าวไปสู่การเป็นองค์กรที่มีอายุ 100 ปี นี่คือแรงบันดาลใจอันแรงกล้าของผู้บริหารไทยวิสัยทัศน์อินเตอร์ ที่สร้างความเข้มแข็งให้กับบริษัทข้ามชาติมาแล้ว

และเมื่อเธอจบหลักสูตรที่แม็คกรุ๊ปแล้วจะถือว่าได้ปริญญาขั้นสูงสุดในการเป็นผู้บริหารองค์กร พร้อมถ่ายทอดความรู้ที่มีสู่องค์กรไทยอื่นๆ เพื่อช่วยยกระดับบริษัทคนไทยให้เติบโต

    ภาพ: กิตติเดช เจริญพร
คลิกอ่านฉบับเต็ม ชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ ยกระดับ "แม็ค" เทียบชั้นอินเตอร์แบรนด์ ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนเมษายน 2563 ในรูปแบบ e-magazine