“สักวันหนึ่งเราต้องสืบทอดกิจการของครอบครัว และหวังว่าจะสามารถพัฒนาธุรกิจของครอบครัวเราให้เติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคต”
เมื่อ 26 ปีก่อน ริมถนนสุขุมวิท โรงแรมหรูความสูง 31 ชั้น ในชื่อ Landmark ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวสิหนาถกถากุลปรากฎขึ้น อย่างโดดเด่นเป็นสง่า และต่อมาได้ขยายการลงทุนไปยังอังกฤษ โรงแรมหรู Landmark London มีลูกค้าระดับราชวงศ์อังกฤษ และโรงแรม Lancaster London รับแขกระดับสปอนเซอร์กีฬาโอลิมปิก 2012 มาแล้ว ในวันนี้ธุรกิจถูกส่งผ่านมาสู่รุ่นลูก “ทศพร สิหนาทกถากุล” หนุ่มมาดผู้ดีอังกฤษวัย 31 ปี เป็นนักเรียนประจำที่เมืองผู้ดีตั้งแต่ 12 ปี ที่โรงเรียนชายล้วน Tonbridge School จากนั้นต่อระดับปริญญาที่ London School of Economics and Political Science เพียงปีแรกเท่านั้นที่ชายหนุ่มอาศัยในหอพัก แต่หลังจากนั้นใช้ชีวิตในห้องพักโรงแรม ซึมซับกับธุรกิจโรงแรมมาตั้งแต่หนุ่มรุ่น ปลูกฝังว่าสักวันเขาจะต้องก้าวมารับดูแลธุรกิจของครอบครัว แม้ว่าจะเป็นลูกคนสุดท้องก็ตาม ทศพร หรือ “ตั้ง” ดำรงตำแหน่ง Executive Director กลุ่มโรงแรม Landmark Lancaster รับผิดชอบงานของ Landmark ต่างประเทศ และรับหน้าที่ปรับปรุง Landmark ประเทศไทยอีกด้วย นักธุรกิจหนุ่มอธิบายเพิ่มเติมถึงโรงแรมในอังกฤษว่า Landmark London เป็นโรงแรมระดับไฮเอนด์มีชื่อเสียงมากในอังกฤษ จัดเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในโลก และเป็นโรงแรมที่มีห้องพักขนาดใหญ่สุดใน London รวม 309 ห้อง ส่วนโรงแรม Lancaster London เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ห้องพัก 418 ห้อง ห้องจัดเลี้ยงสามารถจุได้ถึง 2,500 คน และได้รับรางวัลโรงแรมด้านการจัดเลี้ยงดีที่สุดสองปีซ้อน รวมทั้งได้รับการยอมรับว่าเป็นเป็นหนึ่งในโรงแรมที่ดีที่สุดในอังกฤษ ขณะที่โรงแรม K West เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ใสสไตล์บูติคโฮเต็ลร่วมสมัย เจ้าของรางวัลโรงแรมกลุ่มระดับ 4 ดาว และรางวัลด้านการออกแบบ “รายได้หลักของครอบครัวมาจากโรงแรม และส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ เทียบสัดส่วนในประเทศคิดเป็น 10-15% ของต่างประเทศ เพราะการลงทุนและสินทรัพย์ส่วนใหญ่ของเราอยู่ที่อังกฤษ และการมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายช่วยให้เรากระจายความเสี่ยงได้ เช่นช่วงเกิดวิกฤติซัพไพร์ม เรายังมีลูกค้าเข้าพักที่โรงแรม K West ช่วยเพิ่มรายได้” สำหรับแผนธุรกิจในอนาคต ทศพรย้ำว่า กลุ่ม Landmark ปฏิเสธการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากต้องการรักษาความเป็นธุรกิจของครอบครัว ถ่ายทอดไปยังทายาทรุ่นต่อไป “ผมเชื่อเสมอว่า ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม ถ้าเราไม่ได้วางเป้าหมายต้องเป็นเจ้าของอาณาจักรใหญ่โตมโหฬาร ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเข้าตลาด เราเน้นพัฒนาแบบทำเท่าที่จะทำได้ ทำให้ดี ให้มั่นคง ไม่ใช่แค่รุ่นผมหรือรุ่นต่อไป แต่ต้องรุ่นต่อๆ ไปเรื่อยๆ”สรุปและเรียบเรียงจาก “The Landmark’s Lad: ทศพร สิหนาทกถากุล”, Forbes Thailand ฉบับ JULY 2014