เมื่อยังเด็ก Drew McElroy เรียนรู้เรื่องการเป็นตัวแทนขนส่งสินค้า เมื่ออายุ 36 ปี เขากำลังทำสิ่งที่ Uber ทำในธุรกิจรถแท็กซี่ กับธุรกิจ รถบรรทุก มูลค่า 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
ตอนอายุ 12 ปี Drew McElroy อยู่ในธุรกิจรถบรรทุกขนส่งแล้ว พ่อแม่เขาดำเนินงานเป็นตัวแทนขนส่งสินค้าจากห้องพักแขกที่เมือง Milltown รัฐ New Jersey ที่เชื่อมโยงเจ้าของรถบรรทุกกับบริษัทที่ต้องการขนย้ายสินค้า โดยเขาก็ช่วยทำงานผ่านโทรศัพท์ อีก 15 ปีต่อมา ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมา นายหน้าจัดหารถบรรทุกไม่ได้ทำสิ่งเดียวกับที่ Uber และ Lyft กำลังทำหรอกหรือ พวกเขาจับคู่เที่ยวรถกับยานพาหนะ ลดระยะทางที่เสียไปลงให้ได้มากที่สุด และใช้อัลกอริทึมตั้งราคาอ้างอิงตามอุปสงค์และอุปทาน “ผมเองเพิ่งจะคิดได้ว่า ให้ตายสิ ไม่มีใครทำอะไรแบบนี้เลย” McElroy กล่าว “มันมีหนทางเปิดโล่งสู่การเปลี่ยนแปลงภาคอุตสาหกรรมนี้ทั้งหมด และไม่ได้ซับซ้อนมากมายเลย” สี่ปีหลังเกิดความคิดบรรเจิดดังกล่าว McElroy ร่วมก่อตั้ง Transfix ตลาดขนส่งสินค้าออนไลน์ที่ใช้อัลกอริทึมและเทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่องจักรเสนอราคาที่ดีกว่าให้ผู้ขนส่งสินค้าเต็มคันรถและหาเส้นทางที่ดีกว่าให้เจ้าของรถบรรทุก นอกจากบริษัทใหญ่ที่มีขบวนรถบรรทุกของตัวเองแล้ว การขนส่งส่วนใหญ่ดำเนินการโดยบริษัทสัญญาจ้าง และในจำนวนมากนั้นเป็นผู้ดำเนินการรายเล็กๆ ซึ่งพยายามอย่างมากในการรักษาระดับการขนส่งเต็มคันรถ เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เสียไปกับรถบรรทุกเหล่านั้น แอพพลิเคชั่นอย่าง Transfix จึงมีโอกาส ด้วยเงินทุนสนับสนุนกิจการเกิดใหม่ 78 ล้านเหรียญจากบริษัทอย่าง New Enterprise Associates และ Canvas Ventures ทำให้ธุรกิจพนักงาน 140 คน มูลค่าราวๆ 800 ล้านเหรียญ ชิงพื้นที่ในการจัดอันดับ Next Billion-Dollar Startups ประจำปี 2018 ของ Forbes มาได้ McElroy เชื่อว่าบริษัทสามารถทำรายได้ถึง 1 พันล้านเหรียญ มีกำไรจากการดำเนินงานแตะ 2 หลักภายในปี 2021 ด้วยการช่วยลูกค้าต่างๆ อย่าง AnheuserBusch และ Unilever บริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ ขณะที่ยังช่วยให้คนขับรถบรรทุกทำเงินได้มากขึ้นด้วยการลดระยะเวลาการวิ่งรถเปล่า นับตั้งแต่ธุรกิจรถบรรทุกขนส่งไม่ได้อยู่ภายใต้ระเบียบข้อบังคับในทศวรรษปี 1980 บริษัทตัวแทนขนส่งผุดขึ้นมาราว 18,000 ราย ผู้เล่นรายใหญ่สุดคือบริษัทมหาชน C.H. Robinson มีส่วนแบ่งตลาดไม่ถึง 3% โอกาสในการนำเทคโนโลยี มายกระดับประสิทธิภาพงานนี้อธิบายได้ว่าทำไมธุรกิจตัวแทนขนส่งดิจิทัลจึงยากต้านทานได้สำหรับเหล่านักลงทุนธุรกิจสตาร์ทอัพ แน่นอนว่านั่นหมายความว่า Transfix ต้องเผชิญหน้ากับการแข่งขัน ไม่ใช่แค่จาก Robinson แต่จากผู้เล่นหน้าใหม่ๆ อย่าง Convoy และ Uber Freight ด้วยสองคนที่แตกต่างอย่างลงตัว
McElroy เอาแผนธุรกิจ 50 หน้าไปยังเมือง San Francisco และนอนบนโซฟาบ้านเพื่อน ขณะที่เรียนรู้แนวทางการเริ่มต้นบริษัทเทคโนโลยี “ผมว้าวุ่น” เขากล่าว “นั่นเป็นปริญญา MBA ในโลกความเป็นจริงของผม” ในปี 2013 นักลงทุนในกิจการเงินร่วมลงทุน (VC) ที่ Venrock ซึ่งไปเรียนที่ Georgetown เช่นกันแนะนำให้เขารู้จัก Jonathan Salama ที่ปรึกษาชาวปารีส ของบริษัทและเป็นซีทีโอคนปัจจุบัน Salama ซึ่งขณะนี้อายุ 32 ปี เคยทำงานที่ Gilt บริษัทค้าปลีกออนไลน์ และ Cherry สตาร์ทอัพให้บริการล้างรถแบบออนดีมานด์ (ซึ่งต่อมา Lyft ซื้อธุรกิจไป) ในที่สุดพวกเขาก่อตั้งบริษัทโดยแบ่งความเป็นเจ้าของกัน 50-50 หลังเจรจากันแค่ครั้งเดียว McElroy อัพเดทประวัติใน LinkedIn เพื่อบอกว่าเขาเป็นประธานบริหาร Transfix บริษัทยังไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าแค่แนวคิด แต่ภายในเวลา 30 นาที โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ที่ปลายสายคือ Angelo Ventrone ซึ่งตอนนั้นเป็นหัวหน้าฝ่ายโลจิสติกส์ระดับโลกให้ Barnes & Noble Ventrone กล่าวว่า ทันทีที่พวกเขาคุยกัน เขาก็พร้อมเป็นลูกค้ารายแรกของ Transfix “นั่นเป็นยุคไดโนเสาร์อันยาวนานที่สุด” เขากล่าว “ผมบอกว่า นั่นสามารถแก้ปัญหาใหญ่ที่ Barnes & Noble ได้ เราจะเริ่มกันได้เมื่อไหร่” Transfix ได้รับคำสั่งขนส่งหนังสือเป็นประจำจากแท่นพิมพ์ในเมือง Indianapolis ไปยังคลังสินค้าที่รัฐ New Jersey คิดเป็นเงิน 1,700 เหรียญต่อเที่ยวเป็นจำนวน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ แม้ยังไม่มีซอฟต์แวร์ใช้งานก็ตาม Salama กำลังแก้ปัญหานั้น ด้วยการขลุกอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ของเขาเพื่อเขียนโค้ดโปรแกรม 10,000 บรรทัด “การสร้างอะไรหลายๆ อย่างไม่ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว” Salama กล่าว “ต้องใช้ความอดทนอย่างมากและเวลาหลายชั่วโมง แต่หากคุณมีภาพชัดเจนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ มันก็ราบรื่น” McElroy ระดมเงินได้ 250,000 เหรียญจากเพื่อนๆ และครอบครัว ในเดือนมกราคม 2014 Salama ก็ทำผลิตภัณฑ์เวอร์ชั่นแรกเสร็จ ในการให้เจ้าของรถบรรทุกเข้ามาสมัครนั้น McElroy ออกไปพบปะพูดคุย ที่จุดพักรถบรรทุกหลายแห่ง และไปงานประจำปีชื่อ Truckers Jamboree ที่ Iowa 80 Truckstop เขายังเลี้ยงสเต็กหมูและเบียร์แก่คนขับ ถ้าพวกเขาดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Transfix มีอยู่ปีหนึ่งบริษัทตั้งแทงก์น้ำสำหรับเล่นเกมนายหน้าตกน้ำด้วย ซึ่งเป็นวิธีสนุกๆ เพื่อล้อเลียนนายหน้าที่เชื่อถือไม่ได้ในอุตสาหกรรม จนถึงขณะนี้มีคนขับสมัครแล้ว 56,000 คน จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา การตั้งราคาค่าขนส่งมีทั้งความซับซ้อนและคลุมเครือ ซึ่งทำให้นายหน้าบีบผู้ขนส่งรายเล็กกว่าและคนขับรถบรรทุกได้ และทำกำไรจากช่วงราคาที่กว้างขึ้น ในทางตรงข้าม อัลกอริทึมกำหนดราคาของ Transfix บอกเรทราคาโดยปราศจากอคติของมนุษย์ ซึ่งอิงตามข้อมูลจากจุดข้อมูลหลายพันจุด ซึ่งรวมถึงประวัติการณ์ขนส่ง เวลาขนถ่ายสินค้า และพยากรณ์อากาศ บริษัทรับความเสี่ยงที่เรทราคาจะต่ำกว่าจุดคุ้มทุนเป็นครั้งคราว และใช้ข้อมูลชิ้นใหม่แต่ละอย่างเกี่ยวกับต้นทุนเพื่อพัฒนาสูตรการกำหนดราคา ขณะเดียวกัน สูตรการจับคู่ของบริษัทยังคาดการณ์ว่าคนขับคนไหนมีแนวโน้มอยากส่งสินค้ามากที่สุดอ้างอิงตามตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบัน บ่งชี้ความต้องการพิเศษและประวัติรูปแบบการขับ บรรดานายหน้าต่างทำเงินจากส่วนต่างระหว่างเงินที่ได้จากผู้ขนส่ง และเงินที่จ่ายให้คนขับรถบรรทุก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วอยู่ที่ราว 16% Transfix เชื่อว่าอาจสามารถใช้เทคโนโลยีของบริษัทหั่นส่วนต่างนี้ลงครึ่งหนึ่งได้ในที่สุด การขยายธุรกิจของ McElroy จะพุ่งเป้าไปที่การเติบโตระหว่างประเทศก่อน ในภายหลังบริษัทหวังมุ่งไปที่การขนส่งขนาดเล็กมากกว่าการขนส่งเต็มคันรถ (การสลับสับเปลี่ยนและการจัดเรียงการขนส่งบางส่วนจะเป็นความท้าทายในอนาคต แม้กระทั่งสำหรับ Salama) หลังใช้เวลา 1 ปีเน้นสร้างผลกำไร McElroy กล่าวว่า เขาสามารถเบนความสนใจของเขาไปที่การเติบโต “ผมเชื่อว่าผมเป็นชายโชคดีที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่” เขากล่าว “แม่คงตบผม ถ้าผมเลิกมองว่าตัวเองโชคดีแค่ไหน” เรื่อง: Amy Feldman เรียบเรียง: ชูแอตต์ติดตามอ่านฉบับเต็มของ "Transfix แอพพลิเคชั่นจัดหารถบรรทุก" ได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ มีนาคม 2562 หรือคลิกอ่านในรูปแบบ e-Magazine