ดร.สันติสุข โฆษิอาภานันท์ เชื่อมโลกด้วย โลจิสติกส์ - Forbes Thailand

ดร.สันติสุข โฆษิอาภานันท์ เชื่อมโลกด้วย โลจิสติกส์

เส้นทางความสำเร็จของธุรกิจ โลจิสติกส์ ครบวงจรที่ใช้ความเป็นไทยสร้างความได้เปรียบชิงส่วนแบ่งน่านน้ำการแข่งขัน พร้อมชูบริการให้คำปรึกษาเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำในเอเชีย

“ผมสนใจงานติดต่อกับต่างประเทศและอยากเข้าวงการนี้ ซึ่งเข้าได้ยากและไม่ค่อยเปิดรับ ช่วงนั้น ‘โหวงฮกเอเยนซี่’ เป็นบริษัทใหญ่ของตัวแทนเรือหลายๆ สายกำลังเปิดรับสมัครผมยื่นวุฒิปริญญาตรีสมัครงาน แต่เขาไม่รับ เพราะกลัวทำได้ไม่นาน ผมจึงใช้วุฒิ ปวช. และยอมลดเงินเดือนแค่ 2,500 บาท” ดร.สันติสุข โฆษิอาภานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความพยายามสร้างโอกาสเริ่มต้นก้าวแรกด้วยตัวเอง กว่า 10 ปีในบริษัทตัวแทนเรือยักษ์ใหญ่ของประเทศ ทำให้สันติสุขได้เรียนรู้และเข้าใจธุรกิจโลจิสติกส์นอกตำรา พร้อมสร้างฐานลูกค้าและเครือข่ายต่างประเทศ กระทั่งสามารถเริ่มต้นธุรกิจให้บริการจัดการระบบโลจิสติกส์การขนส่งทางทะเลในปี 2538 ในจังหวะที่คู่แข่งธุรกิจส่วนใหญ่ยังเป็นบริษัทข้ามชาติ โซนิคอาศัยความได้เปรียบในการเป็นบริษัทท้องถิ่นที่สามารถติดต่อประสานงานได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จากออฟฟิศขนาดเล็กที่ใช้พื้นที่เพียง 45 ตารางเมตร และพนักงาน 7 คนสู่ธุรกิจเกือบพันล้านในปัจจุบัน “ช่วงเริ่มต้นเรามีทุนจดทะเบียนแค่ 1 ล้านบาท แต่เรามั่นใจในตลาดที่มี ขนาดใหญ่ ธุรกิจโลจิสติกส์เมืองไทยเมื่อ 10 ปีที่แล้วยังไม่ตื่นตัว และเราได้เปรียบที่ติดต่อกับต่างประเทศได้ในลักษณะซื้อมาขายไปแบบโบรกเกอร์ เรามีประสบการณ์ ลูกค้าและเอเยนต์ต่างประเทศรู้จักเรา” สำหรับจุดเปลี่ยนทางธุรกิจสำคัญเกิดขึ้นในปี 2551 หลังจากบริษัทเตรียมความพร้อมเดินหน้าทางธุรกิจอย่างเต็มที่ด้วยการเปิดสำนักงานสาขากิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางในการรวบรวม กระจายสินค้า และอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า รวมถึงให้บริการขนส่งทางบก เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในระยะยาวให้ครอบคลุมการบริการครบวงจร และเพิ่มความน่าเชื่อถือของบริษัท ซีอีโอวัย 54 ปีฉายภาพการให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรให้ชัดเจนขึ้นว่าปัจจุบันบริษัทดำเนินการเป็นตัวแทนผู้รับจัดการขนส่งสินค้าทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ (International Logistics Service Provider) โดยมีการให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลแบบเต็มตู้ (FCL: Full Container Load) และการขนส่งสินค้าทางบก ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการขนส่งสินค้าจากบริษัทลูกค้าไปยังท่าเรือหรือท่าอากาศยานสำหรับสินค้าขาเข้าและขาออก ด้วยจำนวนรถหัวลากและหางลากที่ให้บริการขนส่งสินค้าทางบกจำนวน 68 คัน และ 147 คัน นอกจากนั้น โซนิคยังได้ควบรวมบริษัทในเครือเพื่อจัดตั้ง บริษัท แกรนด์ลิงค์ ลอจิสติคส์ จำกัด ในปี 2558 สำหรับให้บริการจัดการขนส่งสินค้าประเภทไม่เต็มตู้คอนเทนเนอร์ (LCL: Less than Container Load) และงานนายหน้าในการหาสินค้ามาบรรจุตู้ (Agent) โดยเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีสัญญาให้บริการ (Service Contract) และเส้นทางประเทศไทย-ทวีปอเมริกาเป็นเส้นทางหลัก

กลยุทธ์สู้ยักษ์ข้ามชาติ

แม้น่านน้ำทางธุรกิจจะแปรเปลี่ยนสู่ red ocean แต่สันติสุขยังคงมั่นใจในข้อได้เปรียบ และกลยุทธ์ที่ใช้ขับเคลื่อนธุรกิจโลจิสติกส์สัญชาติไทย โดยเฉพาะความสามารถในการให้บริการครบวงจร “ธุรกิจโลจิสติกส์ทุกคนเคลมว่าครบวงจรหมด ถึงไม่มีก็สามารถเอาต์ซอร์สได้ แต่ธุรกิจนี้มาร์จิ้นบางมาก และความรับผิดชอบสูง ซึ่งมูลค่าสินค้าแต่ละลอตของลูกค้าจำนวนมากกว่าค่าขนส่ง ถ้าผิดพลาดหรือเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง ความเสียหายมหาศาล ความท้าทายจึงอยู่ที่การบริหารจัดการและควบคุมให้เกิดประสิทธิภาพ” ขณะเดียวกัน บริษัทยังมุ่งเน้นคุณภาพการให้บริการที่เป็นหัวใจหลักของธุรกิจโลจิสติกส์ ด้วยการจัดตั้งฝ่ายดูแลลูกค้าเพื่อแยกแผนกการบริการออกจากส่วนงานปฏิบัติการ เพื่อให้สามารถพัฒนาและติดตามคุณภาพการบริการได้เฉพาะเจาะจงขึ้น   โลจิสติกส์

ปักหมุดผู้นำ โลจิสติกส์ เอเชีย

เมื่อโลกแห่งการขนส่งไร้พรมแดนและความต้องการด้านโลจิสติกส์มีความหลากหลาย พร้อมต้องการการตอบสนองที่สะดวกรวดเร็วขึ้น ดร.สันติสุขจึงเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาขีดความสามารถทางธุรกิจ โดยใช้ตลาดทุนเป็นเครื่องมือเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัท ด้วยการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ชื่อ SONIC เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมของปี 2561 “ธุรกิจต้องใช้ทุน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ สามารถช่วยทำลายข้อจำกัดเดิมได้ เมื่อมีทุนมากขึ้น เราจะสามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น โดยเฉพาะการขนส่งทางอากาศซึ่งใช้ทุนมาก รวมถึงการเพิ่มความน่าเชื่อถือเพราะการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งต้องผ่านกฏเกณฑ์ต่างๆ สามารถรับประกันความเป็นมาตรฐานของเราได้ และทำให้ตัวแทนต่างประเทศมั่นใจเรามากขึ้น” สำหรับแผนการดำเนินงานที่วางไว้ยังคงเน้นการลงทุนเพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพการดำเนินงาน รวมถึงคุณภาพของการให้บริการ ตลอดจนการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับธุรกิจขนส่งทางบก พัฒนาศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าให้ทันสมัย ให้สามารถอำนวยความสะดวกในการให้บริการลูกค้าได้อย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการจัดหาระบบสารสนเทศรูปแบบใหม่ เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศให้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น “รายได้หลักของเรายังมาจากทางทะเลแม้จะปรับแผนรุกการขนส่งทางอากาศมากขึ้นจากทุนที่เพิ่มขึ้น แต่สัดส่วนรายได้ยังคงไม่เปลี่ยนเพราะเติบโตพร้อมกันทุกด้านโดยเฉลี่ยรายได้รวมเพิ่มขึ้น 20% ต่อปีเป็นเรื่องธรรมดา” ดร.สันติสุขมั่นใจในการเติบโตของรายได้รวม 1 พันล้านบาทในปีนี้จากจำนวน 964 ล้านบาทในปี 2560 ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้อยู่ที่ 549 ล้านบาทหรือมากกว่าครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมาที่มีจำนวน 472 ล้านบาท ภาพ: กิตติเดช เจริญพร
คลิกอ่านฉบับเต็มของ “ดร.สันติสุข โฆษิอาภานันท์ เชื่อมโลกขนส่งข้ามพรมแดน” ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ มกราคา 2562 ในรูปแบบ e-Magazine