ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัย ปี 2567 ชะลอตัว 3 ไตรมาส ทั้งด้านยอดโอนบ้าน อาคารชุดพักอาศัย เรียกว่ามรสุมมาเต็มทุกรูปแบบ เศรษฐกิจชะลอตัว หนี้ครัวเรือนพุ่งไม่หยุด สินเชื่อที่อยู่อาศัยฝืด (mortgage loan) การปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 70% ขณะที่สินเชื่อโครงการใหม่ (project loan) กำหนดต้องมียอดจองไม่น้อยกว่า 50% กระทบยอดโอนที่อยู่อาศัยใหม่ 9 เดือนแรกลดลง 8.02% อยู่ที่ 705,387 ล้านบาท เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2566 โดยยอดโอนกรรมสิทธิ์บ้านพักอาศัยลดลง 9.18% ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุดพักอาศัยลดลง 5.24%
ขณะที่ผลประกอบการ 40 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 9 เดือนแรกปี 2567 รายได้และกำไรปรับตัวลดลง 0.22% และ 24.90% (YoY) ตามลำดับ เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2566 โดยมีรายได้รวมที่ 234,206.34 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 20,987.91 ล้านบาท ตัวเลขเหล่านี้คือบิ๊กดาต้าที่ LWS หนึ่งในบริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จัดทำเพื่อเผยแพร่ต่อเนื่องในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังสถานการณ์โควิด-19
Forbes Thailand ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ LWS เปิดมุมมองบทบาทของงานวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่มีส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทาง แผนและกลยุทธ์องค์กรของบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน เรียกว่ายิ่งมีข้อมูลอยู่ในมือมากเท่าไร บวกกับความเชี่ยวชาญของทีมวิจัยและวิเคราะห์ก็จะยิ่งเกิดผลดีต่อองค์กร
“LWS เราเป็นบริษัทด้านการวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เราเก็บ data จากทุกแหล่งที่เกี่ยวข้องกับตลาดอสังหาฯ เก็บสถิติต่างๆ ข้อมูลด้านการเงิน นโยบายภาครัฐ สถาปนิก เทรนด์การพัฒนาที่อยู่อาศัย ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม กฎระเบียบใหม่ๆ และใช้ big data เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญในการวิจัยและวิเคราะห์ทิศทาง”
อสังหาฯ ปี 2567 วิกฤตรุมเร้า ขายได้แต่กำไรลด
ตลาดอสังหาฯ ทั้ง 3 ไตรมาสของปี 67 เรียกว่าสาหัส ประเด็นใหญ่สุดคือ การปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยชะลอตัวอย่างแรง จากลูกค้าที่เข้าจอง 100 คน สินเชื่อผ่านแค่ 30 คน ต้องเปิดการขายกันใหม่หลายรอบ งัดกลยุทธ์การตลาดครบเครื่อง กระทุ้งยอดขายด้วยแคมเปญแรงๆ ทั้งกลยุทธ์ลดราคา “อยู่ก่อนผ่อนทีหลัง” ซึ่งแต่ละแคมเปญส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไร ขณะที่ในช่วงโค้งสุดท้ายปี 2567 เริ่มมีสัญญาณดีขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากภาคการส่งออกและการลงทุนภาครัฐ
“กำไรเฉลี่ยอสังหาฯ ในปี 2567 ลดลง 24.90% เทียบกับระยะเดียวกันปี 2566 และความสามารถในการทำกำไรเฉลี่ยของ 40 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ 9 เดือน ปี 2567 อยู่ที่ 8.96% ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันปี 2566 ที่ 11.90% เรียกว่า ขายได้แต่กำไรลด”
ในปี 2568 คาดว่าภาคอสังหาฯ จะกระเตื้องขึ้นจากการเปิดตัวของโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ในหลายทำเล และเริ่มมีสัญญาณการปล่อยสินเชื่อบ้าง เห็นได้จากการปฏิเสธสินเชื่อในไตรมาส 3 ปี 2567 ลดลงมาอยู่ที่ 62% เมื่อเทียบกับ ไตรมาส 2 ปี 2567 ที่อยู่ในระดับ 70% อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังต้องระมัดระวังในการเปิดตัวโครงการใหม่ เนื่องจากยังมีสินค้าคงเหลือและสินค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในมูลค่าที่สูง จากข้อมูลสินค้าคงเหลือและสินค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนาทั้ง 40 บริษัทอสังหาฯ ในช่วง 9 เดือนของปี 2567 มีมูลค่าถึง 704,935.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.29% เทียบกับระยะเดียวกันปี 2566 มีมูลค่า 663,188.48 ล้านบาท
อสังหาฯ Go Green
งานวิจัยของ LWS ยังครอบคลุมการวิเคราะห์ทิศทางและการปรับตัวของภาคอสังหาฯ ทุกมิติ โดยเฉพาะการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงในลำดับต้นๆ เพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจสู่ Sustainable Model เร่งลดก๊าซเรือนกระจก ตามพันธะสัญญาข้อตกลงปารีส พ.ศ. 2558 (Paris Agreement 2015) ที่ประเทศไทยได้ลงนามให้สัตยาบันเข้าร่วมเป็นภาคีเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2559 การรักษาอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้ต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งไทยต้องเพิ่มแหล่งกักเก็บและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 120 ล้านตัน หรือเทียบเท่า ภายในปี พ.ศ.2580
เราได้เห็นการเปิดตัวของโครงการใหม่ๆ ของดีเวลลอปเปอร์ภายใต้คอนเซ็ปต์ธุรกิจสีเขียวที่เริ่มตั้งแต่กระบวนการก่อสร้าง การลดขยะจากการก่อสร้าง มากถึง 75% นำกลับมาใช้ใหม่และรีไซเคิล อาทิ การนำเทคโนโลยีบดย่อยเศษขยะคอนกรีตจากหัวเสาเข็มไปสร้างผนังอาคารในโครงการที่ช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 5.94 ตัน หรือเทียบเท่ากับปริมาณการผลิตก๊าซออกซิเจนจากต้นไม้ 540 ต้น การนำเศษอิฐมวลเบาที่เหลือใช้จากการก่อสร้างมาผลิตเป็นแผ่นผนังกันเสียงในอุโมงค์ทางลอดเข้าโครงการ
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ 41 ปี Motor Expo 1 ล้านล้าน
![https://www.mebmarket.com/ebook-341111-Forbes-Thailand-January-2025](https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/TiSgitPhLCqbswRCCKqQ.jpg)