เกริก ลีเกษม ซีอีโอเจนใหม่สปีด SE ด้วยเทคโนโลยี - Forbes Thailand

เกริก ลีเกษม ซีอีโอเจนใหม่สปีด SE ด้วยเทคโนโลยี

คนหนุ่มวัยไม่ถึง 30 ปี ก้าวสู่ตำแหน่งบริหารระดับสูงในองค์กรที่มั่นคง แน่นอนย่อมมีที่มาน่าสนใจ แม้ว่าส่วนหนึ่งมาจากการเป็นทายาทธุรกิจ แต่มากกว่านั้นคือ ไอเดียและความสามารถ เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ เกริก ลีเกษม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามอีสต์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SE ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริหารรุ่นบุกเบิก เปิดโอกาสให้เขาได้นำพาองค์กรไปตามทิศทางของคนรุ่นใหม่


    “ปีนี้อายุ 28 ผมรับช่วงธุรกิจต่อจากคุณแม่ ท่านค่อนข้างเปิดโอกาสให้ผมได้ทำตามแนวทางที่อยากทำ เช่น การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการขับเคลื่อนธุรกิจ” รองซีอีโอหนุ่มเริ่มต้นบอกเล่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ท่าทางกระตือรือร้นแบบคนรุ่นใหม่ คิดเร็วทำเร็ว และบอกเล่าทุกอย่างโดยไม่ติดขัด เพราะได้รับโอกาสในการทำงานอย่างเต็มที่ โดยมารดาเขายินดีและเปิดทางสะดวกให้เกริกได้ปรับโครงสร้างองค์กรตามต้องการ


นักวางแผน

    ดีกรีบัณฑิตวิศวกรรมเครื่องกล Queen Mary University of London และอีกหลายแขนงความรู้เฉพาะด้าน หล่อหลอมให้คนหนุ่มไฟแรงวางแผนอนาคตไปกับเทรนด์ของโลกและแนวทางการขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี เกริกเล่าว่า นิสัยส่วนตัวของเขาเป็นคนที่ชอบวางแผนชีวิต มีแพลนในการเติบโตและก้าวย่างต่างๆ ล่วงหน้าเสมอ เช่น อายุ 28 จะแต่งงานมีครอบครัว และอายุ 30-31 ต้องการก้าวสู่ตำแหน่งซีอีโอเต็มตัว หรือแม้กระทั่งบริษัทที่เขาดูแลอยู่ปัจจุบัน

    SE ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ mai มีเป้าหมายว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้าจะขยับเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อเพิ่มโอกาสในการระดมทุน เพื่อการเติบโต สร้างความเชื่อมั่นดึงดูดนักลงทุนกลุ่มสถาบันเข้ามา จากที่ปัจจุบันมีเฉพาะนักลงทุนรายบุคคล

    ในฐานะรองซีอีโอภารกิจหลักของเกริกคือ การบริหาร SE ให้เติบโตในปัจจุบันซึ่งเขาบอกว่า มีหลายอย่างที่เปลี่ยนไปจากเดิม ทั้งวัฒนธรรมองค์กร เทรนด์ของธุรกิจ และโครงสร้างการบริหารจัดการ ซึ่งเขายอมรับว่าได้ปรับเปลี่ยนหลายอย่าง มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยในการทำงาน และรื้อโครงสร้างแบบเดิมไปบางส่วนเพื่อให้งานเดินหน้าเร็วขึ้น แต่คงไว้ซึ่งจุดแข็งเดิมของบริษัท โดยเน้นต่อยอดเพื่อสร้างการเติบโต

    เกริกอธิบายว่า “เรื่องเทคโนโลยีนำมาใช้พัฒนาระบบขาย ออกแบบให้การทำงานเป็น web-based มากขึ้น ให้คนทำงานได้ทุกที่โดย login จากที่ไหนก็ได้ เราเปลี่ยนก่อนโควิดพอดีทำให้ทำงานที่บ้านได้” ทำให้ช่วงโควิดที่ผ่านมา SE ได้เปลี่ยนรูปแบบการทำงานเข้ากับสถานการณ์พอดี เมื่องานทั้งกระบวนการสามารถทำออนไลน์ได้จากทุกที่ช่วยลดข้อจำกัดเรื่องสถานที่ และการเซ็ตระบบบนเว็บเบสที่ติดตามงานได้ทุกขั้นตอนทำให้บริษัทลดการพึ่งพาตัวบุคคลลง

    “แนวคิดคือ ไม่อยากฝากทุกอย่างไว้กับเซลส์ พยายามลดการพึ่งพาตัวบุคคล แล้วเอาเทคโนโลยีมาอยู่ในธุรกิจ ขายและเดินหน้าด้วยเทคโนโลยี”

    นอกจากนี้ยังเน้นการเก็บดาต้าต่างๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์ให้มากขึ้น เป็นการทำงานบนฐานข้อมูล ใช้ข้อมูลในการขับเคลื่อนธุรกิจ


ขยายฐานลูกค้าเดิม

    “SiamEast ธุรกิจหลักคือ ขายอุปกรณ์สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม มีฐานลูกค้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในมือกว่า 4,000 ราย เป็นฐานลูกค้าหลักที่ร่วมธุรกิจกันมายาวนาน” เกริกย้ำ เขาให้ความสำคัญกับฐานลูกค้านี้และเชื่อว่าหากค้าขายกับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมทั้ง 4,000 รายได้อย่างต่อเนื่องสามารถทำรายได้และเติบโตได้แน่นอน

    “คิดง่ายๆ ลูกค้า 4,000 ราย ถ้าเราขายสินค้าได้รายละ 1 ล้านก็ทำรายได้ 4 พันล้านบาท ถือเป็นฐานที่ค่อนข้างดี” ดังนั้น แนวคิดของเขาจึงเน้นการจัดหาอุปกรณ์และสินค้ามาตอบโจทย์ฐานลูกค้าที่มีอยู่เป็นหลักก็สามารถสร้างยอดขายและเติบโตได้

    รองซีอีโอ SE เผยว่า สถานการณ์ขณะนี้ลูกค้าใหม่ชะลอตัว ลูกค้าเก่ามีสินค้าป้อนมากขึ้น ทำให้เขาเน้นที่ลูกค้าเดิม ไม่ต้องวิ่งหาลูกค้าใหม่ ทำให้ต้นทุนการตลาดต่ำกว่า ไม่เสียเวลา ไม่ต้องทำความรู้จักใหม่ แนวคิดคือ เพิ่ม product line ในฐานลูกค้าที่มีอยู่แล้วก่อน และยังได้ลูกค้าต่อเนื่องมาจากฐานลูกค้าเดิม ทำให้มีรายได้หมุนเวียนดีขึ้น ได้เพิ่มลูกค้าใหม่เข้ามา



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : พิชิต จันทรเสรีกุล KCAR สปีดรถเช่าบริการไฮบริด

​​คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนตุลาคม 2566 ในรูปแบบ e-magazine