กลางแดดจ้า ณ ร้านกาแฟที่เป็นเสมือนโค-เวิร์กกิ้งสเปซเล็กๆ ตั้งอยู่ภายในโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพฯ หรือ SISB ใกล้กับแยกเหม่งจ๋าย สถานที่นัดพบเพื่อพูดุคยกับ Kelvin Koh Yew Hock ซีอีโอ ชาวสิงคโปร์ที่อยู่อาศัยในประเทศไทยและบริหาร SISB นานกว่า 20 ปี
(Singapore International School of Bangkok-SISB) ที่นี่เป็นวิทยาเขตใหญ่สุดของ SISB โรงเรียนนานาชาติที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งผู้บริหารหลักเป็นทั้งเจ้าของที่ถือหุ้นใหญ่ในปัจจุบัน (32.8%) และเป็นซีอีโอที่บริหารโรงเรียนแห่งนี้ให้เติบโตหลังจากเริ่มกิจการครั้งแรกเมื่อปี 2544 ชายวัยกลางคนอายุ 54 ปี บุคลิกใจดีใบหน้าเจือด้วยรอยยิ้มตลอดเวลา เขาชื่อ Kelvin Koh Yew Hock ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) เป็นชาวสิงคโปร์ที่มาอยู่เมืองไทยนานกว่า 20 ปี พูดไทยได้อย่างคล่องแคล่ว รักเมืองไทยและผูกพันกับโรงเรียนนานาชาติอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่พื้นเพเขาเป็นวิศวกร เปิดบริษัทค้าขาย อุปกรณ์อุตสาหกรรม แต่ด้วยโชคชะตาและเงื่อนไขเรื่องลูกทำให้ชีวิตหักเหมาสู่เส้นทางธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ แม้ไม่ได้ตั้งใจ แต่เขาก็อยู่กับมันและสร้างการเติบโตมาตลอด 10 ปี (เริ่มบริหารเมื่อปี 2552) แต่โรงเรียนเริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2544 วิทยาเขตแรกอยู่ในซอยเอกมัย 14 มีนักเรียน 35 คน สอนเฉพาะอนุบาลและป.1 ปัจจุบันขยายเป็น 5 วิทยาเขตสอนตั้งแต่อนุบาล-เกรด 12 มีนักเรียนกว่า 2,600 คน ครูกว่า 400 คน กลายเป็นโรงเรียนนานาชาติชื่อดังที่สอนด้วยหลักสูตรสิงคโปร์รายใหญ่ที่สุดในเมืองไทย “ตอนแรกผมลังเลว่าจะทำดีไหม เพราะธุรกิจของตัวเองก็ยังอยู่ด้านเทรดดิ้งอุตสาหกรรม แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจทำ เพราะมองว่าเป็นธุรกิจที่เปิดโอกาสพัฒนาเด็กไทยให้มีทางเลือกในการเรียนโรงเรียนนานาชาติอีกหลักสูตรที่นอกเหนือไปจากอังกฤษและอเมริกา” นี่เป็นจุดพลิกผันชีวิตของ Kelvin เพราะหลังจากนั้นเขาคลุกคลีและผูกพันกับธุรกิจโรงเรียนนานาชาติแห่งนี้มากกว่าที่คิดไว้เขาทำงานเกือบทุกวันให้เวลากับธุรกิจนี้เต็มที่และมีความสุขกับมัน เขาทำหน้าที่บริหารโดยแวะเวียนไปวิทยาเขตต่างๆ ที่มีอยู่ 5 แห่ง จุดเริ่มต้นการบริหารโรงเรียนนานาชาติ ธุรกิจที่ Kelvin ไม่คุ้นเคยมาก่อน เขามีเพียงทักษะการบริหารธุรกิจและการบริหารจัดการเบื้องต้น แต่ไม่มีความรู้เชื่อมโยงเรื่องการศึกษาเลย เขาจึงเริ่มด้วยการกลับไปที่สิงคโปร์เพื่อควานหาผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา โชคดีได้อาจารย์ท่านหนึ่งที่เพิ่งเกษียณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาและหลักสูตรสิงคโปร์มาเป็นผู้อำนวยการให้ จากนั้นก็พัฒนาทีมงานครูและบุคลากรอื่นๆ ตามการเติบโตของโรงเรียนโดยเน้นหนักด้านการศึกษาและคุณภาพการเรียนการสอน โดยเฉพาะการยึดหลักสูตรสิงคโปร์แบบต้นฉบับอัปเดตตามหลักสูตรตลอดเวลา ซึ่งจุดเด่นข้อหนึ่งที่ทำให้ SISB ได้เปรียบโรงเรียนนานาชาติอื่นคือ หลักสูตรสิงคโปร์จะสอน 3 ภาษา โดย 75% เป็นภาษาอังกฤษ 20% เป็นภาษาจีนกลาง และอีก 10% เป็นภาษาไทย เด็กนักเรียนที่นี่จะได้ฝึก 3 ภาษาได้เปรียบกว่าโรงเรียนนานาชาติอื่นที่เน้นเฉพาะภาษาอังกฤษและภาษาไทยตามข้อบังคับของกระทรวงศึกษาเท่านั้น และแม้ในระดับมัธยมต้นและมัธยมปลาย(เกรด 8-12) SISB ได้ปรับมาใช้หลักสูตรอังกฤษเพราะเป็นมาตรฐานสากลเพื่อเตรียมความพร้อมเด็ก โดยเทียบเคียงให้ได้มาตรฐานมหาวิทยาลัย Cambridge เพื่อให้เด็กมีโอกาสในการไปศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยนานาชาติในประเทศต่างๆ ซึ่งเด็กที่จบจาก SISB จะได้ภาษาจีนกลางติดตัวไปด้วย วิสัยทัศน์สู่พันธกิจ คุณภาพการศึกษา ซีอีโอ SISB เล่าว่าเมื่อตั้งใจทำโรงเรียนแล้วเขาก็เดินหน้าอย่างเต็มที่ สรรหาผู้เชี่ยวชาญมาเป็นผู้อำนวยการ สรรหาครูคุณภาพจากหลากหลายชาติมาเป็นทีมงาน พร้อมเดินหน้ากิจการ SISB ด้วยเป้าหมายที่วางไว้ชัดเจนมีวิสัยทัศน์และพันธกิจที่สอดคล้องกันคือ “เราอยากเป็นโรงเรียนนานาชาติชั้นนำ ที่เด่นเรื่องคุณภาพการศึกษา” ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่วันแรกของการเข้ามาบริหารซึ่ง Kelvin บอกว่า เขาพัฒนาโรงเรียนตามพันธกิจนี้ตลอดเวลา เพราะการศึกษาต้องพัฒนาตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป สภาพแวดล้อมเปลี่ยนการศึกษาก็ต้องเปลี่ยน “ถ้าคุณไม่ตามยุคสมัย คุณอาจจะตกขบวน วันนี้พรุ่งนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ และเดี๋ยวนี้มีโซเชียลมีเดียผู้ปกครองเข้าถึงข้อมูล เราต้องตื่นตัว พัฒนาให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง” นอกจากพัฒนาและอัปเดตให้เท่าทันสภาพแวดล้อมและหลักสูตรต้นฉบับแล้ว Kelvin บอกว่า สิ่งหนึ่งที่ต้องทำควบคู่กันไปคือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของเครือข่าย ได้แก่โรงเรียน ผู้บริหาร ครู ผู้ปกครอง ซึ่งถือว่าเป็นคนที่ต้องเข้าใจและสื่อสารกันได้ชัดเจนเพราะต่างเป็นฟันเฟืองที่ยึดโยงการเติบโตและการพัฒนาของเด็กๆ ให้ก้าวไปด้วย เข้าตลาดฯ เพิ่มโอกาสระดมทุน ส่วนการนำกิจการโรงเรียนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย Kelvin บอกว่า เป็นสิ่งที่ไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน แต่เนื่องจากที่ผ่านมาในช่วงที่สร้างวิทยาเขตใหญ่ที่ถนนประชาอุทิศ ต้องใช้เงินทุนกว่า 100 ล้านบาท “ผมไม่ได้คิดจะขยายกิจการใหญ่โตอะไรการเข้าตลาดฯ ก็เพื่อเพิ่มช่องทางด้านเงินทุนมาเป็นอีกทางเลือกเท่านั้น เรายังคงเน้นคุณภาพการศึกษาเป็นหลัก” Kelvin ย้ำและว่าไม่อยากให้คนมอง SISB ว่า จะขยายกิจการใหญ่โตหรือทำธุรกิจหวือหวา เพราะมันจะไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน “เราอยากจะเป็นโรงเรียนชั้นนำในระบบการศึกษาของไทยและภูมิภาคที่พัฒนาหลักสูตรตลอด up-to-date เด็กจบแล้วไปเรียนต่อได้ตามต้องการ เป็นเป้าหมายที่วางไว้ อยากให้เขาเข้าถึงสิ่งที่อยากได้ อยากให้เด็กเป็นผู้นำได้ และเป็นพลเมืองดีของสังคม” ตลอดเวลา 1 ชั่วโมงที่พูดคุยกัน Kelvin แสดงถึงพลังที่ซ่อนอยู่ภายในผ่านคำพูดที่มุ่งมั่นของเขา มันทำให้รู้สึกว่าเขามีใจให้กับธุรกิจการศึกษามากจริงๆ ซึ่งเขาก็ยอมรับว่ามันเป็น passion ที่มีเต็มเปี่ยมในตัว “ผมยังมี passion อยู่เยอะ กำลังใจมาจากเด็กๆ จากเด็กที่พูดภาษาอะไรไม่ได้ เห็นเขาเติบโตและเรียนรู้ มันทำให้เรามีพลัง อยากส่งเสริมพวกเขา เราจึงทุ่มเทตลอดเวลาและเต็มที่ใช้เวลาคิดพัฒนาโรงเรียนตลอด ซึ่งถ้าไม่มี passion เราก็คงไม่เดินมาถึงวันนี้” Kelvin สรุปก้าวย่าง 18 ปีของ SISB กับภารกิจซีอีโอ ของเขา 10 ปีแห่งการสร้างเสริมเขายังไม่หมดไฟ โดยมีเด็กๆ เป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่คอยเติมพลังให้เขาก้าวไปข้างหน้ากับเป้าหมายสร้าง SISB ให้เป็น world class school ที่พัฒนาต่อเนื่อง และก้าวทันทุกการเปลี่ยนแปลง ภาพ: API, SISBคลิกอ่านฉบับเต็ม "Kelvin Koh สร้าง SISB โต้คลื่นธุรกิจการศึกษานานาชาติ" ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับมกราคม 2563 ได้รูปแบบ e-magazine