นพวรรณ จุลกนิษฐ ปั้น จ๊อบส์ ดีบี ดาวเด่นคู่ตลาดงานไทย - Forbes Thailand

นพวรรณ จุลกนิษฐ ปั้น จ๊อบส์ ดีบี ดาวเด่นคู่ตลาดงานไทย

สตรีวัย 44 ปีที่ปรากฏตัวเบื้องหน้าคือ นพวรรณ จุลกนิษฐ ผู้หลงใหลสีสันของโลกออนไลน์ถึงแม้ว่าเธอจะเติบโตในยุคที่สิ่งพิมพ์เฟื่องฟูก็ตามที และนี่คือเหตุผลที่ทำให้เธอตัดสินใจร่วมงานกับ www.jobsdb.com เว็บไซต์จัดหางานชื่อดังระดับประเทศเมื่อ 13 ปีที่แล้ว เพื่อหาความท้าทายใหม่ จนกระทั่งก้าวขึ้นนั่งในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ของบริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อ 4 ปีที่แล้ว

Forbes Thailand พบกับ นพวรรณ ในบ่ายวันหนึ่งบนชั้น 26 ของตึก Empire Tower ซึ่งเป็นฐานที่ตั้งของบริษัท ที่นี่ เธอออกแบบบรรยากาศการทำงานให้ดูผ่อนคลายและทันสมัย เพื่อสอดคล้องกับธุรกิจที่ทำและความเป็นตัวตนของผู้ร่วมงานกว่า 80 ชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ ผู้มีอิสระทางความคิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแต่งตัวในแบบสบายๆ หรือความสัมพันธ์แบบฉันพี่น้องจุดประสงค์ก็เพื่อให้ทุกคนรู้สึกสบายใจในการทำงาน และในที่สุดสามารถถ่ายเท “พลัง” เพื่อสร้างสรรค์งานได้อย่างเต็มที่ “โดยปกติแล้ว การอยู่ที่ไหนนานๆ มักจะมี comfort zone แต่สำหรับที่นี่ ไม่มีวันไหนที่ไม่ต้องปรับตัว เพราะธุรกิจ dynamic จึงทำให้ต้องเรียนรู้ตลอดเวลาและท้าทาย” เธอเกริ่นกับทีมงาน นพวรรณ นับเป็นบิ๊กบอสที่เป็นสตรีคนที่ 2 ของจ๊อบส์ ดีบี ประเทศไทย ต่อจาก สาธินี โมกขะเวส โดย www.jobsdb.com เปิดตัวในเมืองไทยเมื่อ 17 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเครือข่ายของเว็บไซต์ จ๊อบส์ ดีบี 12 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย ก่อตั้งโดยชาวฮ่องกงรุ่นใหม่ไฟแรง 2 คน ที่คร่ำหวอดในวงการไอทีและการตลาด ซึ่งในเวลาต่อมาบริษัท SEEK สัญชาติออสเตรเลีย บริษัทจัดหางานออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ประเทศออสเตรเลีย ได้เข้าซื้อกิจการ ปัจจุบันเครือข่ายของจ๊อบส์ ดีบีเหลือเพียง 7 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงฮ่องกง สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย เธอตัดสินใจเข้าร่วมงานกับ จ๊อบส์ ดีบี ประเทศไทย ในตำแหน่งเซลล์ เนื่องจากมีความสนใจในบริษัทที่ “ล้ำหน้า” บริษัทอื่นๆ อย่างไรก็ตาม เธอบอกว่าเมื่อ 13 ปีที่แล้ว www.jobsdb.com ยังไม่เป็นที่รู้จักในสังคมมากนัก เนื่องจากหนังสือพิมพ์ยังเป็นสื่อหลักที่ใช้ในการโฆษณาหางานในตำแหน่งต่างๆ ขณะที่สื่ออินเทอร์เน็ตยังมีคนจำนวนน้อยที่เข้าถึง ในเวลาต่อมา เธอได้รับโอกาสจากสาธินีผู้เป็นนายใหญ่ ให้รับผิดชอบในการจัดงาน Job Fair ของบริษัท โดยจุดประสงค์ของการจัดงานคือ เพื่อให้ลูกค้าซึ่งเป็นบริษัท องค์กร และหน่วยงานต่างๆ ได้พบกับผู้หางานโดยตรง “งานนี้เป็นงานที่ท้าทายมาก เนื่องจากต้องรับผิดชอบงานด้านการตลาดควบคู่กันไปด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดความรู้มาก่อน ช่วงนั้นจึงถูกลูกค้าตำหนิค่อนข้างมาก” เธอเล่า ทว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ทำให้เธอเสียขวัญกำลังใจ แต่กลับผลักดันให้เธอมุ่งมั่นเรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุด เธอจึงตัดสินใจเรียนรู้งานด้านอื่นๆ งานด้านบุคคล ไอที และการเงิน จนเมื่อเรียนรู้ครบทุกด้าน ทางบริษัทจึงเลื่อนตำแหน่งให้เธอนั่งในเก้าอี้ผู้จัดการทั่วไปและก้าวขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการในที่สุด ตลอดช่วง 13 ปีที่ผ่านมา เธอพบว่า www.jobsdb.com ของบริษัทมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับได้รับการยอมรับสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเธอมีเป้าหมายที่จะให้เว็บไซต์นี้เป็นที่ “หนึ่ง” ในใจของทั้งบริษัทที่ลงโฆษณาหางานและผู้หางานทั้งหลาย เธอโชคดีที่โลกออนไลน์มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมไทย เธอจึงพยายามออกแบบเว็บไซต์ เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานและให้มีการใช้งานง่ายมากที่สุด โดยจะเห็นได้ว่าหน้าเว็บไซต์ของจ๊อบส์ ดีบีได้รับการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงเสมอ ปัจจุบันมีผู้เข้าชมเว็บไซต์เฉลี่ยเดือนละกว่า 3 ล้านครั้ง มีตำแหน่งงานราว 19,000 ตำแหน่งให้เลือก ตั้งแต่ระดับ CEO จนถึงเด็กจบใหม่ เธอเล่าว่า ช่วงกลางและปลายปีหลังมีการจ่ายโบนัส จะเป็นช่วงเวลาที่มีคนเข้ามาหางานจากเว็บไซต์มากที่สุด ขณะที่จำนวนบริษัทที่หางาน ที่มีอยู่ราว 4 หมื่นบริษัทจะสลับกันลงโฆษณาเมื่อต้องการหาตำแหน่งงานว่าง รายได้ของบริษัทส่วนใหญ่มาจากการใช้บริการของลูกค้าองค์กร ประกาศหาตำแหน่งงานว่าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ โดยเฉพาะบริษัทต่างชาติที่เข้ามาตั้งสาขาที่เมืองไทย “ถ้าวัดจาก database หรือวัดจากงาน เราอาจไม่ได้มีจำนวนงานเยอะที่สุด หรือไม่ได้เป็นเว็บไซต์ที่คนใช้บริการมากที่สุด แต่เราเป็นเบอร์ 1 ด้านคุณภาพ บริษัทใหญ่ๆ มักใช้บริการเรา” เธอกล่าว

แนวโน้มตลาดงานไทย

ในหลายๆ คราว เว็บไซต์ จ๊อบส์ ดีบี ไทย เป็นดั่งดัชนีเศรษฐกิจส่องตลาดงานในประเทศ นพวรรณกล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา การหางานผ่านเว็บไซต์ของบริษัทสะท้อนให้เห็นภาพเศรษฐกิจ โดยดูจากอัตราการจ้างงานของฝั่งนายจ้าง เช่นปัจจุบัน อัตราการจ้างงานที่ปรากฏบนเว็บไซต์ไม่ได้ลดลง ขณะที่จำนวนคนหางานก็ไม่ได้ลดลงเช่นกันทั้งสองขายังรักษาความสมดุลไว้ได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจของไทยยังขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อยู่ ในปัจจุบัน สายงานที่ขาดแคลนสูงในตลาดคือ การตลาดดิจิทัล (digital marketing) เนื่องจากประเทศมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีที่ค่อนข้างเร็ว จึงทำให้ขาดคนตามมา บางที่แก้ปัญหาคือ ซื้อตัวคนจากที่อื่นและสาขาที่มีความต้องการมากในตลาดคือ ไอที วิศวกร แพทย์ พยาบาล และการบัญชี สำหรับอาชีพที่ลดความสำคัญไป เธอบอกว่า จะเป็นงานที่ไม่มีทักษะเฉพาะ ซึ่งความต้องการจะค่อยๆ หายไปจากตลาดเนื่องจากมีเทคโนโลยีมาทดแทน สำหรับอาชีพแขนงสื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งมีแนวโน้มขาลงมาโดยตลอด เธอบอกว่า อุตสาหกรรมนี้จึงจำเป็นต้องปรับตัว ซึ่งจะเห็นได้ว่าหลายค่ายให้ความสำคัญกับดิจิทัลคอนเทนท์มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ ทุกเดือนบริษัทจะมีการพูดคุยกันซึ่งเรียกว่า “Town Hall” ที่เปิดโอกาสให้แผนกต่างๆ ได้เล่าถึงงานที่ตนเองรับผิดชอบ หรือความคืบหน้าของโครงการต่างๆ เพื่อให้ทุกคนในบริษัทได้รับรู้ร่วมกัน นพวรรณย้ำว่าในปัจจุบัน จ๊อบส์ ดีบี จะมุ่งเน้นการให้บริการเพียงอย่างเดียว คือ เว็บไซต์หางาน ถึงแม้ว่าในอดีตเคยผลิตและขายซอฟต์แวร์บริหารเรซูเม่ “2-3 ปีที่จะถึงนี้ จ๊อบส์ ดีบี ไทย ก็จะพัฒนาต่อไป จะมีสินค้าที่จะออกมาตอบโจทย์คนใช้งานมากขึ้น ทั้งผู้บริโภคและบริษัท บริษัทก็จะหาคนได้ง่ายขึ้น ส่วนในแง่คนหางานก็จะหางานได้ตรงกับตัวเองมากขึ้น” เธอกล่าวทิ้งท้าย  
คลิ๊กอ่านฉบับเต็ม "นพวรรณ จุลกนิษฐ ปั้น จ๊อบส์ ดีบี ดาวเด่นคู่ตลาดงานไทย" ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ NOVEMBER 2016 ในรูปแบบ e-Magazine