ความยั่งยืน หรือ Sustainability คือหนทางสู่การรักษาสมดุลโลกและสมดุลการใช้ชีวิตท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็ว ทั่วโลกต่างตื่นตัว และให้ความสำคัญเรื่องนี้ รวมถึงองค์กรค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ของไทยอย่างบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ต่างมีแผนงาน เป้าหมายที่ชัดเจนในการวางรากฐานธุรกิจบนแนวทางความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม
ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้องค์กรต้องให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ประการแรก คือ ข้อจำกัดของทรัพยากรธรรมชาติ เช่น แหล่งน้ำดิบ คุณภาพดิน ความหลากหลายทางชีวภาพ แหล่งอาหารตามธรรมชาติ และบางประเภทอยู่ในเกณฑ์วิกฤต ประการที่สอง หน่วยงานระดับสากลมีการออกกฎหมาย ระเบียบ กติกาต่างๆ มากขึ้น บังคับทั้งทางตรงทางอ้อมให้องค์กรปฏิบัติตาม และประการที่สาม คือความต้องการของตลาด ทั้งผู้บริโภค ภาคธุรกิจ ผู้ลงทุน รวมถึงตลาดเงิน ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวตามเพื่อลดความเสี่ยง ในขณะเดียวกันก็ถือเป็นโอกาสในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
"ยั่งยืน หมายความว่าการทำอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นประโยชน์กับคนรุ่นปัจจุบัน แต่อย่าเบียดเบียนคนรุ่นอนาคต อย่าคิดแค่ผลประโยชน์ระยะสั้น ให้คิดถึงระยะยาว อย่าคิดเฉพาะประโยชน์ของเราคนเดียว ให้คิดถึงคนอื่นและผู้มีส่วนได้เสีย (stakeholders) เวลาขยายธุรกิจอย่าคิดเฉพาะเชิงปริมาณ ต้องคิดเชิงคุณภาพด้วย นี่คือแนวคิดใหม่ของ sustainability" ดร.ประสาร กล่าว
CRC วางวิสัยทัศน์สู่ความยั่งยืน
"ความสำเร็จของธุรกิจไม่ใช่โฟกัสอยู่ที่กำไรเพียงอย่างเดียว ควรจะดูเรื่องความยั่งยืนในการทำธุรกิจด้วย สิ่งสำคัญ ต้องดูที่ brand purpose ว่า แบรนด์เกิดมาเพื่อสิ่งใด และจะสร้างอะไรให้กับสังคมบ้าง ในส่วนของเซ็นทรัล รีเทล มีเป้าหมายชัดเจนว่า Central Retail "Central to Life" หมายความว่า เซ็นทรัลต้องการเป็นจุดศูนย์กลางชีวิตของทุกคน ทั้งลูกค้าคู่ค้า สังคม และชุมชน" ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวถึงความมุ่งมั่นในฐานะซีอีโอที่จะนำพา CRC ไปสู่ความยั่งยืน
บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ CRC อาณาจักรค้าปลีกค้าส่งที่มีเครือข่ายทั้งในไทยและต่างประเทศ ธุรกิจหลักของตระกูล "จิราธิวัฒน์" มหาเศรษฐีอันดับ 4 ของไทย ที่วันนี้ได้จัดวางทีมผู้บริหารมืออาชีพเข้ามานำทัพเต็มตัว เพราะเชื่อว่าธุรกิจต้องกระชับฉับไว ก้าวทันกับความเป็นไปของสังคมและโลก ด้วยวิสัยทัศน์ที่เปิดกว้างนี้ทำให้ CRC เติบโตอย่างโดดเด่นในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกค้าส่งอันดับ 1 ของไทย ทั้งในแง่ขนาด โดยเป็นผู้บริหารพื้นที่ค้าปลีกค้าส่งทั้งในไทยและต่างประเทศมากกว่า 4 ล้านตารางเมตร และเป็นอันดับ 1 ในการวางกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจที่ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางยุทธศาสตร์การเติบโตของธุรกิจควบคู่ไปกับสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นแนวทางที่ตอบโจทย์ในเรื่องความยั่งยืนได้อย่างชัดเจน
"เราต้องการสร้างให้เซ็นทรัล รีเทลเป็น The First Green and Sustainable Retail in Asia เป็น The First Mover ในเรื่องความยั่งยืน" ญนน์ กล่าวถึงทิศทางการลงทุนของ CRC ที่จะให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนในระยะยาว และเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต ที่เป็นสัญลักษณ์ของความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการค้าปลีกค้าส่งของไทย ที่จะมีปัจจัยสำคัญ 4 ด้าน คือ
หนึ่ง การลดและหยุดทำลายสิ่งแวดล้อมต่างๆ สอง หันมาใช้พลังงานแบบใหม่ สาม การเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คนที่อยู่ในอีโคซิสเต็มก้าวเข้าสู่ Green Energy ได้ทั้งหมด และสี่ การทำเรื่อง Sustainability เป็นแผนงานที่ต่อเนื่องจากคำมั่นสัญญาไปสู่แนวทางปฏิบัติอย่างมั่นคงและถาวรร่วมกับพนักงานทั้งกลุ่มกว่า 80,000 คน เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงชัดเจนว่าเซ็นทรัล รีเทล จะก้าวไปสู่ Green and Sustainable Retail ในอนาคต
CRC ReNEW กลยุทธ์เติบโตคู่สังคม
ที่ผ่านมา "เซ็นทรัล รีเทล" ได้ริเริ่มการพัฒนาธุรกิจบนแนวทางของความยั่งยืน เพื่อสร้างธุุรกิจให้เติบโตควบคู่ไปกับสังคม ด้วยกลยุทธ์ CRC ReNEW โดยการลดใช้ทรัพยากรสิ้นเปลืองเพิ่มการใช้ซ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่ และร่วมชี้นำสังคมให้ก้าวสู่ความยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน อย่างที่ทราบกันดีว่า โลกกำลังส่งสัญญาณความผิดปกติผ่านปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่รุนแรงมากขึ้น สะท้อนว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกองค์กรทุกภาคส่วนต้องรวมพลังมาช่วยกันหยุดและแก้ปัญหาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมด้วยวิธีคิดแบบใหม่ Redefine การทำธุรกิจ และลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง
"ความยั่งยืนในการทำธุรกิจ (Business Sustainability) แน่นอนว่าเราต้องโฟกัสไปที่เรื่องยอดขาย รายได้และกำไร แต่ยิ่งไปกว่านั้น คือการให้ความใส่ใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและสังคม ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ถือเป็นวาระสำคัญระดับโลก CRC ตระหนักถึงความจำเป็นนี้ และยินดีที่จะปรับเปลี่ยนและพัฒนาธุรกิจให้เป็นมิตรกับโลกด้วยวิถีของความยั่งยืน โดยมองว่าการลงทุนเพื่อ Sustainability เป็นหน้าที่ไม่ใช่ภาระ และมองว่าทุกองค์กรควรใส่ใจเรื่องนี้เป็นหน้าที่เช่นเดียวกัน" ญนน์ กล่าว
CRC ได้ตั้งเป้าหมาย ภายในปี 2573 จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ประมาณ 50% และก้าวสู่ Net Zero ในปี 2593 และจากการเริ่มต้นมาประมาณ 1 ปี ถือว่ามีสัญญาณที่ดีและคืบหน้าได้ตามเป้าหมาย ซึ่งการขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าว CRC ได้วางทิศทางการดำเนินงาน โดยอาศัยความร่วมมือทั้งภายในและภายนอกองค์กร ทั้งพนักงาน คู่ค้า พันธมิตร และลูกค้า ให้ก้าวสู่เป้าหมายเรื่องความยั่งยืนไปด้วยกัน
ตอบโจทย์ทุกชีวิตเพื่อความยั่งยืน
CRC มุ่งหน้าสู่เป้าหมาย The First Green and Sustainable Retail in Asia โดย ญนน์ ยกตัวอย่างการเปิดสาขา Tops Green ที่เชียงใหม่ ซึ่ง CRC ได้พัฒนาโมเดลท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ในรูปแบบท็อปส์ กรีน ที่เป็นคอนเซ็ปต์ใหม่หมด และนำสินค้าทุกอย่างที่ผ่านขั้นตอนเรื่อง Sustainability มาขาย ท็อปส์ กรีน โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์สีเขียว มีสินค้าออร์แกนิกต่างๆ ไว้เสิร์ฟลูกค้า ซึ่งเป็นเทรนด์ในอนาคต
ท็อปส์ กรีน ถือเป็นโมเดลทดลองในโครงการแรกที่จะตอบโจทย์สังคมและชุมชนในเรื่องความยั่งยืน โครงการที่ 2 เป็นเรื่องตลาดจริงใจ หรือ จริงใจ ฟาร์มเมอร์ มาร์เก็ต เซ็นทรัล รีเทล ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรทำการเกษตรให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นโดยใส่ใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อม และนำผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ทำได้มาอยู่ที่ตลาดจริงใจ ซึ่งล่าสุดเปิดไปแล้วเกือบ 40 แห่ง สามารถสนับสนุนชุมชนมากกว่า 100,000 ครัวเรือน สร้างรายได้กว่า 1.5 พันล้านบาท พร้อมตั้งเป้าหมายในปี 2573 จะมีรายได้ 5.4 พันล้านบาทต่อปี
"ตลาดจริงใจเป็นตลาดที่ช่วยชุมชนและปลูกฝังเรื่องความยั่งยืน การทำแบบนี้ช่วยลดการทำลายสภาพแวดล้อม และยังช่วยพัฒนาให้สินค้ามีมูลค่าเพิ่มขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้และมีกำไรมากขึ้น นโยบายเรื่องการช่วยเหลือชุมชนนี้ เราใช้กับทุกที่ เรามีนโยบายที่ชัดเจน อย่างเช่นที่เวียดนาม CRC มีการลงทุนเรื่องของ CSV เยอะมาก เพราะถือว่านี่เป็นสิ่งสำคัญ” ซีอีโอเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า "ทุกครั้งต่อจากนี้ เวลาจะไปลงทุน เราจะพยายามเข้าไปสื่อสารกับชุมชนก่อนแล้วค่อยลงทุนธุรกิจตาม แม้จะใช้งบในการพัฒนาค่อนข้างสูง แต่ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำ"
นอกจากนี้ CRC ยังมุ่งมั่นในเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมทุกๆ ด้าน โดยมีการจ้างงานคนพิการกว่า 412 คน สนับสนุนทุนการศึกษาให้กับนักเรียนผู้ยากไร้ รวมทั้งให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนและช่องทางการจำหน่าย ตัวอย่างเช่น โครงการจริงใจ ฟาร์มเมอร์ มาร์เก็ต ที่เซ็นทรัล รีเทล ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง
แนวทางเพื่อความยั่งยืนนี้ CRC ไม่ได้ทำโดยลำพัง แต่พยายามสื่อสารให้เป็นวาระของทั้งอุตสาหกรรม และชักชวนเพื่อนร่วมวงการเดินในแนวทางเดียวกัน "ในอีกมุม ผมเป็นประธานสมาคมค้าปลีก เราก็เชิญชวนให้สมาชิกของเราทุกคนทำเรื่องความยั่งยืนเช่นกัน ก็เริ่มกันทุกองค์กร แต่ Central Retail เป็นองค์กรใหญ่เริ่มก่อนเป็นแบบอย่าง"
ในฐานะซีอีโอ CRC ญนน์ บอกว่า วาระสำคัญที่สุดของเขาในวันนี้ คือเรื่อง Sustainability เพราะเป็นสิ่งที่เซ็นทรัล รีเทล ให้ความสำคัญและได้ลงมือทำอย่างจริงจัง แม้จะยอมรับว่าความยั่งยืนไม่ใช่สิ่งใหม่เป็นเรื่องที่คนพูดถึงอยู่แล้ว โดยเฉพาะความยั่งยืนในการทำธุรกิจ แต่เขาต้องการสื่อความหมายที่มากกว่านั้น คือความยั่งยืนของการทำธุรกิจที่เดินควบคู่ไปกับทุกคนและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในทุกบริบทไม่ว่าจะเป็นธุรกิจครอบครัวที่กำลังจะส่งให้เจเนอเรชันต่อไป หรือธุรกิจที่บริหารโดยมืออาชีพเพื่อส่งต่อให้กับซีอีโอคนต่อไป
"Sustainability is not a choice; it’s an imperative to ensure a brighter future for generations to come" และนี่คือความมุ่งมั่นของ ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมค้าปลีกค้าส่งในประเทศไทย และก้าวสู่ความยั่งยืนในอนาคต