Blancpain ศาสตร์และศิลป์แห่ง “กาลเวลา” - Forbes Thailand

Blancpain ศาสตร์และศิลป์แห่ง “กาลเวลา”

เรื่อง: สุทธาสินี จิตรกรรมไทย ภาพ: ทวีศักดิ์ ภักดีหุ่น และ Blancpain Alain Delamuraz ผู้เป็น Vice President และ Head of Marketing ของ Blancpain แบรนด์นาฬิการะดับไฮเอนด์สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ รอต้อนรับ Forbes Thailand อยู่แล้ว ที่ L’Atelier de Joël Robuchon ร้านอาหารฝรั่งเศสชั้นนำเลื่องชื่อ บนชั้น 5 ของมหานคร คิวบ์ ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อนาฬิกาและการปรุงอาหารมีจุดร่วมเดียวกันคือ “ศิลปะ” จึงเกิดเป็นความร่วมมือระหว่าง Blancpainกับ Joël Robuchon ผู้ก่อตั้งร้าน ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น “เชฟแห่งศตวรรษ” และเป็นเชฟเพียงคนเดียวในโลกที่คว้ามิชลินสตาร์มาครองถึง 25 ดวง ด้วยการมีนาฬิกาแขวนของ Blancpain ประดับตกแต่งอยู่ภายในร้านดังกล่าวทั่วโลก
Blancpain Ocean Commitment Bathyscaphe Chronographe Flyback ผลิตขึ้น 250 เรือนใช้งานระบบ Chronograph ได้ถึงระดับดำน้ำลึก 300 เมตร
รวมถึงเป็นสถานที่จัดมื้ออาหารแสนพิเศษแก่แขกของแบรนด์ และนี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ Delamuraz นัดพบกับเราที่ร้าน เพื่อพูดคุยถึงประวัติความเป็นมาของ Blancpainรวมถึงความสำเร็จของเรือนเวลาคอลเล็คชั่นเด่น กว่าจะเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงขจรขจายในกลุ่มผู้รักนาฬิกาเช่นทุกวันนี้ต้นกำเนิดจากปีค.ศ.1735 Jehan-Jacques Blancpain ครูผู้ผันตัวมาเป็นช่างทำนาฬิกา สร้างสรรค์เรือนเวลาของเขาบนชั้น 2 ของบ้านที่ตั้งอยู่ใน Villeret ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จุดกำเนิดของแบรนด์ Blancpain ทำให้กลายเป็นแบรนด์นาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกไปโดยปริยาย จุดหักเหของตระกูล Blancpain ก็มาถึงในปี ค.ศ.1932 เมื่อ Berthe-Nellie ผู้ล่วงลับ ไม่ต้องการสานต่อกิจการนาฬิกาของครอบครัวอีกต่อไป กระทั่งปัจจุบันอยู่ภายใต้ Swatch Group โดยมี Marc A. Hayek ดำรงตำแหน่ง Chairman และ CEO ของ Blancpain “สิ่งที่ทำให้ Blancpain คงอยู่มาถึงทุกวันนี้คือวิสัยทัศน์ เราไม่ต้องการความสำเร็จอันรวดเร็ว เพราะอาจเป็นสิ่งที่มาไวไปไว เราไม่ตามทิศทางลมหรือเกาะกระแสความนิยม แต่เราปรับตัวและมองไปข้างหน้า โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่เราสั่งสมมาตั้งแต่แรก คือ การให้ความสำคัญกับการพัฒนาตัวเองและคุณค่าของความเป็นศิลปะ” Delamuraz เอ่ยอย่างภาคภูมิใจ จุดเด่นของ Blancpain คือนวัตกรรมและความงามอันล้ำค่าของศิลปะบนตัวเรือนปีค.ศ.1953 Blancpain ออกคอลเล็คชั่น Fifty Fathoms ที่ผลิตตามความต้องการของ "Combat Swimmers"แห่งกองทัพเรือฝรั่งเศส สำหรับใช้ปฏิบัติภารกิจใต้น้ำ Fifty Fathoms จากนั้น Blancpain ได้ผลิตนาฬิกา Bathyscaphe โดยมีขนาดเล็กกว่า Fifty Fathoms เพื่อส่วนใสในชีวิตประจำวันจนกลายเป็นสัญญาณของแบรนด์ในเวลาต่อมา  Blancpain พัฒนานวัตกรรมสำหรับ Bathyscaphe อย่างไม่หยุดยั้ง กระทั่งปลายปี 2014 ได้เปิดตัว Ocean Commitment Bathyscaphe Chronographe Flyback นาฬิกาดำน้ำรุ่น limited edition ตัวเรือนผลิตจากเซรามิกสีเทา ขนาด 43 มิลลิเมตร สามารถใช้งานระบบ Chronograph ได้ขณะดำน้ำลึกถึงระดับ 300 เมตร ผลิตขึ้นจำนวน 250 เรือน แต่ละเรือนมีหมายเลขกำกับ นับเป็นรุ่นแรกในโครงการ Blancpain Ocean Commitment ที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ท้องทะเล โดย Blancpain จะมอบเงิน 1 พันยูโรจากการจำหน่ายนาฬิกาแต่ละเรือนของรุ่นนี้ รวมทั้งหมด 2.5 แสนยูโร เพื่อสนับสนุนคณะสำรวจการวิจัยทางทะเล “เราผลิตนาฬิการุ่นพิเศษขึ้นเพื่อจุดประสงค์ที่พิเศษจริงๆ ไม่ใช่ผลิตเพื่อจำหน่ายในราคาที่สูงขึ้น” Vice President ของแบรนด์ย้ำ
Blancpain les Métiers d’Art Shakudō
อัตลักษณ์อีกประการของแบรนด์คือการสร้างสรรค์เรือนเวลา ซึ่งเปรียบดังผลงานศิลปะอันวิจิตร นอกจากจะเลื่องชื่อด้านเทคนิคการแกะสลักและการลงยา Blancpain ยังนำเทคนิค Shakudō ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่นมาใช้ โดยนำสารละลายทาลงบนพื้นผิวของโลหะผสม ซึ่งมีส่วนประกอบของทองคำและทองแดงเป็นหลัก เพื่อให้พื้นผิวปรากฏคราบสีน้ำเงินอมดำ ยิ่งทาสารละลายมากเท่าไร สีก็จะยิ่งชัดและแน่นขึ้นเท่านั้น เกิดเป็น Blancpain les Métiers d'Art Shakudō จำนวน 4 รุ่น ที่มีความแตกต่างกันไปในคอลเล็คชั่น Villeret ซึ่งเปิดตัวในปี 2015 รุ่นที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงอย่างมาก คือ เรือนเวลารูปพระพิฆเนศ สะท้อนถึงการเคารพคุณค่าแห่งโลกตะวันออก ทำขึ้นด้วยการใช้เทคนิคเซาะร่องบนผิวหน้าปัด จากนั้นนำเส้นทองคำมาทุบให้เข้าที่ แล้วแกะสลักด้วยมือ ความงดงามของเรือนเวลารุ่นนี้ ส่งให้ได้รับรางวัลสาขา Artistic Crafts จากงาน The Grand Prix d'Horlogerie de Genève เมื่อปีที่ผ่านมา นับเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ส่งตรงจากสวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนแห่งนาฬิกาคุณภาพ ที่เข้ามาครองใจนักสะสมนาฬิกาชาวไทยผู้ชื่นชอบนวัตกรรมและผลงานศิลปะในคราวเดียวกัน Blancpain les Métiers d’Art Shakudō หน้าปัดเป็นรูปพระพิฆเนศ
คลิ๊กอ่าน "Blancpain ศาสตร์และศิลป์แห่ง “กาลเวลา”" ฉบับเต็มได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ FEBRUARY 2016 ในรูปแบบ E-Magazine