ทุกรสความอร่อยของเบเกอรี่ในประเทศเปรียบได้กับรางวัลความสำเร็จของ KCG ยักษ์ใหญ่ผู้เปิดโลกวัตถุดิบพรีเมียมจากทั่วสารทิศเสิร์ฟถึงมือคนไทย ด้วยความเพียรพยายามบุกเบิกเส้นทางและพัฒนาด้านการผลิตอย่างต่อเนื่องตลอด 60 ปี พร้อมเดินหน้าทศวรรษแห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมอาหารสู่การขยายอาณาจักรในต่างแดนอย่างเต็มภาคภูมิ
ผลิตภัณฑ์ที่วางเรียงรายอยู่ในร้านกาแฟขนาดย่อมย่านสุขุมวิททั้งคุกกี้กล่องแดงในตำนาน เนยยอดนิยม น้ำผลไม้รสชาติเข้มข้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบริษัทผู้ผลิตและนำเข้าผลิตภัณฑ์นม เนย ชีส วัตถุดิบเบเกอรี่ และอุปกรณ์สำหรับทำเบเกอรี่รายใหญ่ของไทยที่ดำเนินธุรกิจเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 6 ทศวรรษ “เราสามพี่น้องช่วยกันบุกเบิกธุรกิจ ซึ่งสืบเนื่องจากพี่ชายมีประสบการณ์ในธุรกิจนี้ เมื่อคิดทำธุรกิจของตัวเองจึงสามารถนำประสบการณ์ที่มีมาพัฒนาต่อ ผมทำงานตั้งแต่อายุ 17 ปีจนถึงวันนี้อายุ 76 ปี ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตในการสร้างชื่อให้องค์กรและผลิตภัณฑ์ ทำทุกอย่างตั้งแต่ติดต่อหน่วยงานราชการในประเทศ ต่างประเทศ นำเสนอสินค้า หรือช่วงเริ่มตั้งโรงงานก็ศึกษาค้นคว้า และสอบถามพูดคุยเองจนได้ know-how” ตง ธีระนุสรณ์กิจ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด เล่าถึงหน้าแรกของตำนานการสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการเบเกอรี่ไทย

มหาชนเสริมแกร่งต่างแดน
ทศวรรษใหม่ของอาณาจักรเคซีจีพร้อมปรับตัวตามความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทระดับอินเตอร์ที่สามารถสร้างการเติบโตในต่างประเทศ และจัดทัพธุรกิจเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย “ที่ผ่านมาเป็นช่วงบุกเบิกและถางทาง จนมีแพลตฟอร์มที่มั่นคงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งการก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 7 ต่อจากนี้เราต้องมองธุรกิจเป็นอินเตอร์” ตงกล่าว
การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาปรับใช้กับสินค้าเพื่อสร้างคุณภาพสินค้าและเพิ่มมูลค่า เช่น การพัฒนา ข้าวไรซ์เบอร์รี่ เป็นสินค้าขนมอบกรอบและคุกกี้ ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการผลิตแป้งเอแคลร์จากข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่ได้รับรางวัลจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติในปี 2558 “เทรนด์อนาคตเรายังต้องเน้นเรื่องสุขภาพตามกระแสความต้องการ ซึ่งสอดคล้องกับทุกเพศ ทุกวัย ยกตัวอย่างเช่น เนยไขมันต่ำ ชีสไขมันต่ำ เป็นกลุ่มคุกกี้ไขมันต่ำ เนยน้อยแต่คงความหอมอร่อย หรือหวานน้อย โดยยังให้ความสำคัญกับสินค้าที่หลากหลายครอบคลุมกลุ่มผู้บริโภค ไม่เน้นเฉพาะเจาะจงที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่มุ่งตอบโจทย์ตลาดกว้าง และการส่งออกรวมๆ 20-30 ประเทศ” ตงกล่าว “นม เนย ที่เรานำเข้าครอบคลุมแบรนด์ทั่วโลกเกิน 80% เพราะฉะนั้น เราจึงให้ความสนใจกับการมองเข้าไปในแต่ละ category มากกว่า ไม่ใช่การพัฒนาเพื่อให้ไปไกลหรือหนีจากคู่แข่ง แต่เป็นการต่อยอดกลุ่มสินค้า ไม่ใช่แค่ นม เนย แป้ง แต่เป็นสินค้าที่เพิ่มความหลากหลายให้ห้องครัว”View this post on Instagram
สำหรับการทำตลาดนั้นจะทำตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น โดยเฉพาะในแถบเอเชีย “จากนี้เราต้องการขยายธุรกิจส่งออกให้มากขึ้น ซึ่งเรายังมีโอกาสเติบโตด้านการส่งออกอีกมาก โดยเรามองในภูมิภาคหรือ regional base ก่อนขยายออกไปต่างประเทศ ส่วนใหญ่เป็นคุกกี้ที่ส่งออกและยังคงเป็นเรือธงเหมือนเดิม ซึ่งเราอยู่ระหว่างการพัฒนาเนยทั้งอิมพีเรียลและอลาวรี่” ตงกล่าวถึงเป้าหมายการเติบโตที่วางไว้เฉลี่ยทุกปีมากกว่า 10% หรือเติบโต 2 หลักจากปี 2560 ที่มีรายได้ 5 พันล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนมาจากสินค้าผลิตเอง 60% และสินค้านำเข้า 40%
ขณะที่เป้าหมายสำคัญอยู่ที่การเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจและลงทุนในต่างประเทศ โดยเริ่มต้นบันไดขั้นแรกด้วยการเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ภาพ: กิตติเดช เจริญพร
คลิกอ่านฉบับเต็มของ “ตง ธีระนุสรณ์กิจ KCG เปิดฉากทศวรรษนวัตกรรม” ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ มกราคม 2562 ในรูปแบบ e-Magazine



