GC Group ร่วมสู้ภัย COVID-19 สนับสนุนเสื้อกาวน์ให้กับ 12 โรงพยาบาล พร้อมมอบกลีเซอรีนสำหรับทำเจลแอลกอฮอล์แก่กองเรือยุทธการ - Forbes Thailand

GC Group ร่วมสู้ภัย COVID-19 สนับสนุนเสื้อกาวน์ให้กับ 12 โรงพยาบาล พร้อมมอบกลีเซอรีนสำหรับทำเจลแอลกอฮอล์แก่กองเรือยุทธการ

กลุ่มบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC Group มีความห่วงใยในสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของคนในสังคม เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำหน้าที่ในการรักษา  ผู้ป่วย ซึ่งมีความสำคัญในการรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นอย่างยิ่ง GC Group    จะมอบเสื้อกาวน์เพื่อป้องกันการติดเชื้อสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 41,000 ชุด เพื่อใช้ใน      โรงพยาบาลและสถานประกอบการที่ให้การรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ทั้งหมด 12 แห่ง ได้แก่

  1. โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จำนวน 5,000 ชุด
  2. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จำนวน 4,000 ชุด
  3. โรงพยาบาลศิริราช จำนวน 4,000 ชุด
  4. โรงพยาบาลรามาธิบดี จำนวน 4,000 ชุด
  5. โรงพยาบาลวชิรพยาบาล จำนวน 4,000 ชุด
  6. โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จำนวน 4,000 ชุด
  7. โรงพยาบาลราชวิถี จำนวน 4,000 ชุด
  8. สถาบันบำราศนราดูร จำนวน 4,000 ชุด
  9. โรงพยาบาลตำรวจ จำนวน 3,000 ชุด
  10. โรงพยาบาลระยอง จำนวน 2,000 ชุด
  11. โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ จำนวน 2,000 ชุด
  12. โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระยอง          จำนวน 1,000 ชุด

โดยเสื้อกาวน์ที่ส่งมอบจะเป็นเสื้อกาวน์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Disposable Gown) ผลิตจากเม็ดพลาสติกชนิดโพลีเอทิลีนคุณภาพดีจาก GC อุปกรณ์ชุดตรวจเหล่านี้จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ตลอด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อของคนไข้ ยิ่งในสถานการณ์ที่มีจำนวนยอดผู้ป่วยสูงขึ้นทุกวัน รวมถึงเราต้อง  คัดแยกและทิ้งให้ถูกต้อง เสื้อกาวน์นี้ออกแบบตัดเย็บให้สวมใส่ง่าย ปลายแขนยาว น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ช่วยให้มีความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน สวมใส่เพื่อป้องกันการปนเปื้อนสารคัดหลั่งและลดความเสี่ยง      ในการติดเชื้อจากผู้ป่วยสู่บุคลากรทางการแพทย์ ณ จุดคัดกรอง ซึ่งถือเป็นด่านแรกรับผู้ป่วยของ          โรงพยาบาลและมีคุณลักษณะเฉพาะ คือผลิตภัณฑ์ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์กันน้ำ น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี มีความเหนียว และยืดหยุ่นสูง สามารถป้องกันเชื้อโรค เลือด และสารคัดหลั่ง ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า รวมทั้งบริเวณคอ และบ่าด้านหลังมีรอยบาก สามารถกระตุกเพื่อให้เสื้อฉีกขาดหลังการใช้งานได้เลย สามารถอ้อมเอวมาผูกด้านหน้าได้ เพื่อลดการปนเปื้อนหลังใช้งาน

พร้อมกันนี้ ในฐานะองค์กรที่เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม GC Group จะมอบกลีเซอรีนคุณภาพสูง จำนวน 1,250 กิโลกรัม ภายใต้โครงการ Green Health Project ของบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ซึ่งเป็นบริษัทใน GC Group ให้แก่กองเรือยุทธการ (กร.) เพื่อใช้เป็นส่วนผสมในการจัดทำ      เจลแอลกอฮอล์เพื่อทำความสะอาดมือ เพื่อแจกจ่ายให้กับกำลังพลและครอบครัว รวมถึงประชาชนในพื้นที่  เพื่อใช้สำหรับดูแลสุขอนามัยและป้องกันการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ทั้งนี้ GGC ได้ดำเนินโครงการ Green Health Project ร่วมกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และลูกค้า ซึ่งเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์          Healthcare & Personal Care และเป็นลูกค้ารับจ้างผลิตสินค้า (OEM) ของ GGC ในการผลิต        เจลแอลกอฮอล์เพื่อทำความสะอาดมือ โดยการใช้กลีเซอรีนเป็นส่วนผสม ซึ่งได้นำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนทั่วไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ GC ยังได้ร่วมกิจกรรมโครงการให้ความรู้    และป้องกันโรค COVID-19 และร่วมเป็นผู้ช่วยวิทยากรสอนการทำหน้ากากอนามัย เพื่อส่งเสริมการป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัส COVID-19 ณ จังหวัดระยอง ในเดือนมีนาคมอีกด้วย

GC Group มีความห่วงใยในสุขภาพและความปลอดภัยของบุคคลากรและพนักงานเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ดำเนินมาตรการจัดการในองค์กรและบริษัทในกลุ่ม เพื่อป้องกัน ควบคุม และพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ การฆ่าเชื้อทำความสะอาดสำนักงานใหญ่ สถานที่ประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทใน GC Group ทุกแห่ง การให้พนักงานใส่หน้ากากอนามัย เมื่อมีการประชุมหรือรวมตัวกัน การให้พนักงานหมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ การหลีกเลี่ยงการเดินทางไปประชุมหรือปฏิบัติการข้างนอก โดยมีการสนับสนุนด้านไอทีเพื่อการปฏิบัติงานนอกสถานที่ การคัดกรองผู้ที่จะเข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่บริษัทฯ รวมถึงงดการเดินทางหรือผ่านประเทศกลุ่มเสี่ยงตามประกาศกรมควบคุมโรคอย่างเด็ดขาด โดยพนักงานทุกคนต้องแจ้งสถานะของตนเองต่อ      ผู้บังคับบัญชา รวมถึงแจ้งทุกครั้งเมื่อมีการเดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดหรือเดินทางมาจาก          ต่างประเทศ การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาด การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ต้องสงสัยการติดเชื้อไวรัส COVID-19 หรือมีอาการป่วย มีไข้ ไอ หายใจเหนื่อยหอบ เป็นต้น