Hitachi Energy กับภารกิจขับเคลื่อนอนาคตพลังงานที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน - Forbes Thailand

Hitachi Energy กับภารกิจขับเคลื่อนอนาคตพลังงานที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน

หนึ่งใน Global Mega Trends ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คือ พลังงานสะอาดหรือ Clean Energy ที่ผ่านมาจะเห็นว่า ทุกประเทศต่างให้ความสำคัญและร่วมมือกันด้านพลังงาน เพื่อก้าวสู่ยุคเปลี่ยนผ่านจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลไปสู่การผลิตและการใช้พลังงานสะอาดผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยี พร้อมพัฒนารูปแบบพลังงานให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการพลังงานทั้งในด้านอุตสาหกรรมและความต้องการของภาคประชาชน ซึ่งการใช้เทคโนโลยีผลิตพลังงานสะอาด เป็นพลังงานหลักจำเป็นต่อการดำรงชีวิตในอนาคต เพื่อลดปัญหามลพิษและปัญหาสิ่งแวดล้อม ทั้งยังช่วยขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ด้วยเหตุนี้ “Hitachi Energy” จึงมุ่งมั่นขับเคลื่อนอนาคตพลังงานที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน พร้อมเป็นพันธมิตรที่ดีในการสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายความยั่งยืน รวมถึงเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ซึ่งเป็นทิศทางที่ประชาคมโลกให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
ดร.วรวุฒิ วรุตตมพรสุ Country Managing Director บริษัท ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด
รู้จัก “Hitachi Energy” ดร.วรวุฒิ วรุตตมพรสุ Country Managing Director บริษัท ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เผยถึงความเป็นมาของบริษัทว่า Hitachi Energy มีรากฐานมาจากการผนวกบริษัท เอบีบี จำกัด กับฮิตาชิเอง ซึ่งต่างเป็นบริษัทมีรากฐานมามากกว่า 100 ปี เมื่อปี 2563 โดยในตอนนั้นใช้ชื่อว่า Hitachi ABB Power Grids จนในปี 2564 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Hitachi Energy เพื่อสร้างแบรนด์ให้ครอบคลุมในแง่ของพลังงานมากยิ่งขึ้น มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับประเทศได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จํากัด ในปี 2564 เช่นกัน เพื่อสนับสนุนและร่วมพัฒนาอนาคตพลังงานอย่างยั่งยืนในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ พม่า ลาว กัมพูชา โดยอาศัยนวัตกรรมและความร่วมมือจากทีมงานระดับโลกและภูมิภาคที่มีความเชี่ยวชาญและมีความหลากหลายมาช่วยสนับสนุนการดำเนินงาน ทั้งนี้ Hitachi Energy ได้ให้คำมั่นว่าทีมงานทุกคนจะช่วยสนับสนุนและสามารถจัดการกับความท้าทายระดับโลก รวมถึงความท้าทายด้านพลังงาน ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าในอนาคตความต้องการใช้ไฟฟ้าทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าภายในปี พ.ศ. 2593 และไฟฟ้าจะกลายเป็นองค์ประกอบหลักของระบบพลังงานทั้งหมด โดย Hitachi Energy พร้อมเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการก้าวไปสู่อนาคตด้านพลังงานที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน อย่างไรก็ตาม แม้การให้คำมั่นสัญญาถึงอนาคตเกี่ยวกับความเป็นกลางทางคาร์บอนจะต้องอาศัยความ    มุ่งมั่น ความน่าเชื่อถือ และนวัตกรรม แต่เมื่อมองถึงประโยชน์ที่จะส่งผลกระทบอย่างมหาศาล ทั้งสำหรับคนรุ่นปัจจุบันและคนรุ่นต่อไปในอนาคต ทำให้ Hitachi Energy เชื่อมั่นว่า ด้วยประสบการณ์และชื่อเสียงของ Hitachi Energy จะสามารถขยายขอบเขตพันธกิจที่ตั้งใจไปได้กว้างขวางขึ้น เพื่อการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีอย่างแท้จริงให้กับลูกค้า พนักงาน และประเทศชาติ “บริษัทพร้อมให้บริการลูกค้าครบทุกภาคส่วน ทั้งในส่วนระบบสาธารณูปโภค, อุตสาหกรรม และระบบโครงสร้างพื้นฐาน ด้วยการใช้นวัตกรรมและบริการที่ครอบคลุมทั้งห่วงโซ่คุณค่า นอกจากนี้บริษัทยังโฟกัสธุรกิจใหม่ๆ โดยแต่ละธุรกิจจะสนับสนุนงานด้าน Digital Transformation, Energy Transition อย่างต่อเนื่อง พร้อมให้ความสำคัญกับเรื่อง Carbon Neutrality ควบคู่กับการขยายพอร์ตโฟลิโอเพื่อให้ลูกค้าบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ลูกค้าต้องการ เพราะนอกจากลูกค้ากลุ่มไฟฟ้าทั้ง 3 การไฟฟ้า ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ยังมีลูกค้าภาคเอกชนที่ได้มีการแบ่งออกเป็นภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Oil & Gas ปิโตรเคมี กลุ่มก่อสร้าง กลุ่มอุตสาหกรรม ประเภทอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ กลุ่มรถไฟฟ้า กลุ่มยานยนต์ ซึ่งในปัจจุบันแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมมีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้นและมีการเจริญเติบโตของการใช้ไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว โดย Hitachi Energy พร้อมที่จะเข้าไปเติมเต็มให้ทุกภาคส่วนดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ดร.วรวุฒิ กล่าว พลังงานที่ยั่งยืนในอนาคต ดร.วรวุฒิยังเสริมด้วยว่า บริษัทฯ ยังให้บริการลูกค้า ผ่านความสามารถระดับโลกและการจัดตั้งบริษัทอยู่ในแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นแนวทางในการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานและส่งมอบความสำเร็จให้กับลูกค้า “เราเป็นผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยีพลังงานและระบบพลังงานด้วยโซลูชั่นต่างๆ ที่ตอบสนองความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และต้องการความมีเสถียรภาพ ความมั่นคง เชื่อถือได้ ยั่งยืนและในรูปแบบที่ทันสมัย ด้วยโซลูชันที่มีประสิทธิภาพ ผสานกับทีมงานที่มีคุณภาพ โดยทีมงานของเราจะช่วยวางแผนตั้งแต่เริ่มดำเนินการ แนะนำการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ในขณะเดียวกันทีมงานจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นโดยรวม มีเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะช่วยการส่งเสริมและการกระจายพลังงานจากแหล่งทั่วไปและแหล่งพลังงานหมุนเวียนได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันบริษัท ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด แบ่งออกเป็น 4 ธุรกิจหลักประกอบด้วย 1.Grid Automation ซึ่งมีโซลูชั่นที่ครอบคลุมในการจัดการเชื่อมต่อกับระบบพลังงาน การผลิต การ  กระจายการส่ง ภาคอุตสาหกรรม การขนส่ง และโครงสร้างพื้นฐาน โดยหน่วยธุรกิจ Grid Automation ของ Hitachi Energy สนับสนุน 50% ของระบบสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้า 250 อันดับแรกของโลก นอกจากนี้บริการ Grid Automation ยังรวบรวมความรู้เชิงลึก และเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกสามารถเพิ่มประสิทธิภาพระบบที่สำคัญที่ขับเคลื่อน ย้าย และเชื่อมต่อถึงกัน 2.Grid Integration ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ได้ส่งมอบโครงการไปแล้วมากกว่า 4,000 โครงการ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ Grid Integration จะครอบคลุมแอปพลิเคชั่นการส่ง การจำหน่ายและสถานีไฟฟ้าย่อยที่หลากหลาย ซึ่งอำนวยความสะดวกในการจัดการรวบรวมระบบที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพรองรับเครือข่ายไฟฟ้าดิจิทัลในอนาคตโดยมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด 3.High Voltage Products นวัตกรรมที่สำคัญในกลุ่มผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแรงสูงของ Hitachi Energy ได้แก่ เทคโนโลยีคุณภาพไฟฟ้า และแบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน สวิตช์เกียร์ที่ประหยัดพลังงาน, เซอร์กิตเบรกเกอร์เครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบดิจิทัล รวมถึงสวิตช์เกียร์แบบไฮบริดและแบบรวม ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของ Hitachi Energy ยังคงมีส่วนช่วยนวัตกรรมในด้านต่างๆ เช่น การส่งกำลังไฟฟ้าแรงสูงพิเศษ การใช้งานสมาร์ทกริดที่ยืดหยุ่น และการเพิ่มประสิทธิภาพเชิงนิเวศน์ 4.Transformers ด้วยการเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยี นวัตกรรม ผสานความหลากหลายของทีมงาน Transformers ทำให้ Hitachi Energy สามารถเปลี่ยนพลังงานเพื่อเพิ่มมูลค่าทางสังคม ทางสิ่งแวดล้อม และทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดอนาคตด้านพลังงานที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นปัจจุบันและคนรุ่นต่อไป Transformers ของ Hitachi Energy มีเครือข่ายการขายทั่วโลกประมาณ 100 ประเทศ ครอบคลุมการใช้งานสำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้า การส่งและการจำหน่าย โลหะและเหมืองแร่ น้ำมันและก๊าซ โครงการเชิงพาณิชย์และโครงสร้างพื้นฐาน และการคมนาคม ด้วยความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นในกริด Transformers ยังถูกใช้มากขึ้นเพื่อปรับปรุงคุณภาพไฟฟ้าและการจัดการเครือข่าย ซึ่ง TXpert™ ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญที่เปิดตัวมาเพื่อรองรับการแปลงเป็นดิจิทัลของ Transformers อนาคตพลังงานคาร์บอนเป็นกลาง 3 ปัจจัยหลักที่มีส่วนส่งเสริมให้เกิดการส่งมอบพลังงานไฟฟ้าที่คาร์บอนเป็นกลางในอนาคต คือ การเชื่อมต่อขุมพลังงานของพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์และพลังน้ำในปริมาณที่มากขึ้นเข้ากับกริด การเติบโตของการใช้ไฟฟ้าจากภาคการขนส่ง อาคาร อุตสาหกรรมของโลก และ “ไฮโดรเจนสีเขียว” (Green Hydrogen) เชื้อเพลิงทางเลือกที่เป็นพลังงานสะอาด กำลังเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ถูกจับตามอง ในฐานะหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับอนาคต ทั้ง 3 ปัจจัยดังกล่าว เมื่อรวมกันแล้วจะทำให้เรามีรากฐานที่ไฟฟ้าจะกลายเป็นกระดูกสันหลังของระบบพลังงานทั้งหมด และสังคมที่ยั่งยืนสามารถก้าวหน้าต่อไปได้ และด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด สะอาดที่สุด คุ้มค่าที่สุดในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน การควบคุมพลังงานจากลม แสงแดด และน้ำที่ธรรมชาติมีอย่างไม่จำกัด ทำให้โลกมีกระแสไฟฟ้าใช้ได้อย่างยั่งยืน ด้วยเหตุนี้ Hitachi Energy คาดว่ากำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10 เท่าจนถึงปี 2593 ที่น่าสนใจ คือ ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกได้กำหนดเป้าหมายเพื่อก้าวสู่ Carbon Neutrality ภายในปี 2593 สำหรับประเทศไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญในการลดใช้คาร์บอนไดออกไซด์เช่นกัน โดยมีเป้าหมายสนับสนุนมุ่งสู่พลังงานสะอาด และลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2608–2613 ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่ง ดร.วรวุฒิ ทิ้งท้ายว่า Hitachi Energy กำลังร่วมมือกับเหล่าลูกค้า และเหล่าพันธมิตรในการค้นหาโซลูชั่นระดับโลก เพื่อแก้ไขปัญหาความท้าทายทั่วโลกที่เกี่ยวกับอนาคตของ Carbon Neutrality อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา Hitachi Energy ได้มีการเปิดตัว EconiQ™ ซึ่งเป็นพอร์ตโฟลิโอที่มีประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถลดการเกิดคาร์บอนฟุตพรินต์ตลอดวงจรชีวิตทั้งหมดได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ Hitachi Energy กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลและพลังงานร่วมกับเหล่าลูกค้าและพันธมิตร เพื่อช่วยให้ลูกค้าของ Hitachi Energy สามารถเอาชนะความซับซ้อนและความท้าทายในทุกขีดความสามารถ ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ Carbon Neutrality อย่างมีประสิทธิภาพ