PROUD เปิดตัว VI ARI (วี อารีย์) อย่างเป็นทางการ บ้านเดี่ยวระดับ Ultra Luxury โครงการใหม่แห่งแรกและแห่งเดียวใจกลางอารีย์อย่างแท้จริง เขย่าตำนานย่านธุรกิจสำคัญ ทำเลทองที่หายากมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ผสานนิยามใหม่ของบ้านใจกลางเมืองกับความเป็นที่สุดในทุกมิติที่หาจุดเทียบได้ยาก ออกแบบโดยสุดยอดดีไซเนอร์ระดับโลก P49 Deesign ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ระดับท็อปจากยุโรป ถือเป็น Ultra Luxury Rare Item มีจำนวนจำกัดเพียง 6 หลังเท่านั้น ราคาเริ่มต้น 82 ล้านบาท พิเศษเฉพาะผู้สนใจสามารถเลือกออกแบบพื้นที่ภายในบ้านและการตกแต่งเพิ่มเติมได้อีกด้วย
พสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บมจ.พราว เรียล เอสเตท (PROUD) กล่าวว่า บริษัทเปิดตัว VI ARI (วี อารีย์) โครงการแนวราบแห่งแรกของบริษัทอย่างเป็นทางการ บ้านเดี่ยวระดับอัลตร้าลักชัวรี 3.5 ชั้น บนที่ดิน 53-56.4 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 550 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 3-5 ห้องนอน 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ พร้อมสระว่ายน้ำและลิฟต์ส่วนตัวทุกหลัง ราคาเริ่มต้น 82 ล้านบาท สุดเอกคลูซีฟความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนเพียง 6 หลัง มูลค่าโครงการรวม 495 ล้านบาท
ออกแบบพื้นที่ผ่านนิยามใหม่ของการใช้ชีวิตวิถีคนเมืองอย่างสุนทรียภาพ กลมกลืนวัฒนธรรมเก่า-ใหม่ที่ลงตัว จากการศึกษาค้นคว้าวิจัย เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมและความต้องการสำหรับการอยู่อาศัยในอนาคตของกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี เพื่อใช้ชีวิตในย่านและในบ้านที่ดีที่สุดที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ระดับโลกอย่าง P49 Deesign ผสานต่อแนวคิดออกแบบตกแต่ง พร้อมด้วย stu/D/O architects และ TK Studio บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบงานสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์ชั้นนำ
นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถปรับเปลี่ยนและเลือก Theme การตกแต่งภายในบ้านและปรับเปลี่ยนฟังกชันภายในบ้านได้ตามความต้องการ พร้อม Private Courtyard พื้นที่สีเขียวและพันธุ์ไม้นานาชนิดภายในตัวบ้านที่จะทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น
โครงการ VI ARI (วี อารีย์ ) ยกระดับความพิเศษอีกขั้นด้วย Luxury Furniture แบรนด์ชั้นนำจากยุโรปโดย Euro Creations พร้อมเสริมฟังก์ชัน VI CARE - Smart Home โดยนำนวัตกรรม ส่งเสริมเรื่อง Net Zero ให้บ้านเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยี Solar Cell, Food Waste Composting Machine และ Food Waste Disposer , ระบบ Home Automation ที่ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเชื่อมต่อกับระบบต่างๆ ภายในบ้านแบบออนไลน์ได้ อีกทั้ง ไฮไลท์ระบบ Fresh Air ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในบ้าน มาปลั๊กอินเพื่ออำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย และเน้นความเป็นส่วนตัวด้วย Gated Community ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
ภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พราว เรียล เอสเตท (PROUD) กล่าวเสริมว่า จากการศึกษาวิเคราะห์พฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายในเชิงลึก การเลือกซื้ออสังหาฯ จากทำเลเป็นปัจจัยแรกที่ผู้บริโภคจะเลือกพิจารณาในการซื้อบ้าน โดยเฉพาะทำเลที่คุ้มค่าต่อการอยู่อาศัย ทำเลที่คุ้นเคย และทำเลที่ในอนาคตมีโอกาสจะถูกพัฒนาสูง อีกทั้ง การเลือกบ้านให้เหมาะกับวิถีและคุณภาพชีวิต ให้ความยืดหยุ่นที่เข้ากันกับความต้องการของทุกคนในครอบครัว ผ่านพื้นที่ใช้สอย รูปแบบบ้าน รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ถือเป็นปัจจัยที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ทั้งนี้ โครงการ VI ARI (วี อารีย์) จึงไม่ได้มีเพียงความโดดเด่นของทำเลที่ตั้งใจกลางอารีย์ซอย 3 แต่ทุกๆ รายละเอียดการออกแบบยังผ่านการค้นคว้าวิจัยและวิธีคิดอย่างดีในทุกๆ จุดอีกด้วย
สายวิภา พัฒน์พงศ์พิบูล กรรมการบริหาร บริษัท พี 49 ดีไซน์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด บริษัทอินทีเรียดีไซน์ผลงานระดับโลก ในฐานะผู้ออกแบบตกแต่ง กล่าวถึง เอกลักษณ์พิเศษเฉพาะของโครงการ VI ARI (วี อารีย์) ที่ผ่านกระบวนการคิด การออกแบบด้วยความพิถีพิถันในทุกรายละเอียดผ่านข้อมูลและการศึกษาอย่างเข้าใจ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสัมผัสการใช้ชีวิตที่มากกว่าได้มากที่สุด โดยได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านพักอาศัยย่านอารีย์ สไตล์โมเดิร์นยุค1970-1980 ที่มีลักษณะเฉพาะตัว มาพัฒนาต่อยอดให้เป็นบ้านพักอาศัยที่มีความทันสมัย รวมถึงการออกแบบพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ สอดแทรกไปกับพื้นที่ใช้สอยในแต่ละชั้น การออกแบบตกแต่งภายใน และการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ในทุกๆ จุดที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุขในทุกๆ วัน
อาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ท่ามกลางการเติบโตของโครงการที่พักอาศัยมากมายที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ตลาดบ้านระดับลักซ์ชัวรี่ขึ้นไปถือเป็นเซกเมนต์ที่น่าจับตามองและสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นตลาดที่สามารถขับเคลื่อนไปได้ในทุกสภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำเลใจกลางเมือง ซึ่งเป็นทำเลที่มีดีมานด์หรือความต้องการสูง แต่ซัพพลายมีจำกัดเนื่องจากยากที่จะหาที่ดินมาพัฒนาเป็นโครงการบ้านพักอาศัยได้ จึงทำให้ทำเลนี้มียอดขายสูงถึง 94% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับทำเลอื่นๆ
อีกหนึ่งจุดเด่น ที่สร้างความแตกต่างของทำเลอารีย์คือ การตั้งอยู่ในย่านธุรกิจที่แวดล้อมไปด้วยพื้นที่สำนักงานระดับเกรดเอบวก และเกรดเอ ทั้งของภาครัฐและเอกชน โดยมีพื้นที่สำนักงานให้เช่าในปัจจุบัน และที่กำลังก่อสร้างกว่า 1.6 ล้านตารางเมตรด้วยศักยภาพที่เด่นชัดดังกล่าว ประกอบกับความสะดวกในด้านการคมนาคม ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าบีทีเอส ตำแหน่งใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังทำเลอื่นๆ ที่สำคัญของกรุงเทพฯ ได้อย่างครอบคลุม อีกทั้งยังเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ อยู่ใกล้สถานศึกษา และเป็นศูนย์รวมโรงพยาบาลชั้นนำ จึงเรียกทำเลนี้ได้ว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพอย่างแท้จริง และมีโอกาสที่จะถูกพัฒนาให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ อีกประเด็นที่สำคัญคือตัวโครงการมีจุดเด่นในด้านรูปแบบบ้านที่ผสานความหรูหราและเสน่ห์แห่งงานสถาปัตยกรรมเข้าด้วยกัน ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัวได้อย่างลงตัว ถือเป็นทางเลือกลำดับต้นๆ สำหรับผู้ที่ต้องการที่พักอาศัยระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่อย่างแท้จริง
อ่านเพิ่มเติม : Kerry Express คว้ารางวัล “No.1 Brand Thailand 2023” ติดต่อกัน 6 ปีซ้อน ย้ำชัดความเป็นผู้นำธุรกิจจัดส่งพัสดุด่วนทั่วไทย
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine