RISC ศูนย์วิจัยโดย MQDC เปิดตัวต้นแบบหอฟอกอากาศระดับเมือง “ฟ้าใส” บรรเทาภัยฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค เผยงบวิจัยพัฒนากว่า 10 ล้านบาท
วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC เปิดเผยว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหามลภาวะทางอากาศ PM 2.5 ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ปัญหานี้ยังไม่สามารถแก้ไขได้หายขาด จึงมีการพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไรที่จะช่วยเหลือบ้านเมืองได้บ้าง RISC จึงพัฒนาและเปิดตัว ต้นแบบหอฟอกอากาศระดับเมือง ภายใต้ชื่อ “ฟ้าใส” ด้วยเทคโนโลยีหอฟอกอากาศอัตโนมัติแบบไฮบริด (Hybrid Air Purifier Tower)
“MQDC มุ่งมั่นวิจัยและพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นผ่าน RISC หรือศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน และเมื่อเราอยากเป็นองค์กรหนึ่งในการเข้ามาช่วยเหลือสังคม พร้อมกับการเติบโตอย่างยั่งยืน งานวิจัยของเราจึงไม่จำกัดการใช้เฉพาะภายในองค์กร แต่คือการเผยแพร่องค์ความรู้สู่สาธารณชนด้วย การเปิดตัวหอฟอกอากาศครั้งนี้จึงเป็นความตั้งใจให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนด้วย ไม่ใช่แต่เพียงลูกบ้านของ MQDC เท่านั้น ทั้งนี้ เราถือเป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายแรกในไทยที่ดำเนินงานในเรื่องปัญหาคุณภาพอากาศ” วิสิษฐ์ กล่าว
ด้าน รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าคณะที่ปรึกษา ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (Research & Innovation for Sustainability Center หรือ RISC) กล่าวว่า ปัญหา PM 2.5 มีผลกระทบต่อสุขภาพของผู้คนมากมาย ซึ่งเราพยายามเสาะหานวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ มาแก้ไข อย่างไรก็ตาม PM 2.5 ไม่ได้มาจากประเทศไทยอย่างเดียว แต่ยังไม่จากประเทศเพื่อนบ้านด้วย ดังนั้น หอฟอกอากาศนี้คงแก้ปัญหา PM 2.5 ไม่ได้ แต่จะช่วยบรรเทาความรุนแรงในพื้นที่ที่มีปัญหาได้
“เราพัฒนาหอฟอกอากาศตัวนี้เป็นตัวต้นแบบ ซึ่งนอกจากจะสามารถดูแลคนได้ระดับหนึ่งแล้ว ฝุ่นที่เก็บได้เราจะนำมาศึกษาว่า PM 2.5 ที่พบนั้นเป็นฝุ่นที่มาจากภาคการเกษตรหรือภาคส่วนอื่นๆ เพื่อหานโยบายในการแก้ไขที่ถูกต้องต่อไป”
รศ.ดร.สิงห์ กล่าวอีกว่า สำหรับต้นแบบหอฟอกอากศระดับเมือง “ฟ้าใส” เป็นผลงานการคิดและพัฒนาร่วมกันระหว่าง RISC และบริษัท เนสเทค ประเทศไทย จำกัด เป็นหอฟอกอากาศอัตโนมัติแบบไฮบริด (Hybrid Air Purifier Tower) สามารถฟอกอากาศบริสุทธิ์ได้ในอัตราสูงสุด 1.2 แสนลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง ติดตั้งที่โครงการ 101 True Digital Park บริเวณหน้าอาคารวิสซ์ดอม เอสเซ้นส์ สุขุมวิท ตลอดทั้งปี 2563
สำหรับหอฟอกอากาศอัตโนมัติแบบไฮบริดนี้ใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 3,850 วัตต์ ร่วมกับระบบแบตเตอรี่ จึงช่วยลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานไฟฟ้าจากภายนอก ส่วนหลักการทำงานเริ่มต้นจากการใช้ใบพัดความเร็วสูงดึงอากาศเข้าไปในระบบ จากนั้นแยกฝุ่นขนาดใหญ่และเล็กด้วยความเร็วลมและการปล่อยละอองน้ำเพื่อดักจับฝุ่น 3 ชั้น ต่อเนื่องด้วยระบบ Jet Venturi Scrubber โดยระบบทั้งหมดใช้น้ำ 50-70 ลิตร จากนั้นน้ำจะถูกฆ่าเชื้อด้วยโอโซนแล้วถูกหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ โดยจะมีการเติมน้ำเข้าไปเสริมในทุก 3-4 วันเพื่อชดเชยน้ำที่ระเหยออกไป
หอฟอกอากาศนี้ยังใช้ระบบอัจฉริยะควบคุมการทำงานของมอเตอร์ใบพัดให้สอดคล้องกับปริมาณความเข้มข้นความฝุ่นละออง คือ หากมีฝุ่นมากใบพัดก็จะหมุนเร็ว และหมุนช้าลงเมื่อปริมาณฝุ่นน้อยลง ทั้งนี้ รศ.ดร.สิงห์ ประเมินว่าหอฟอกอากาศดังกล่าวสามารถปรับคุณภาพอากาศให้พื้นที่ใกล้เคียงในรัศมี 1 กิโลเมตรให้ดีขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับกระแสลมด้วย
รศ.ดร.สิงห์ ระบุว่า หอฟอกอากาศนี้ใช้งบประมาณในการวิจัยและพัฒนากว่า 10 ล้านบาท ขณะที่เฉพาะตัวหอฟอกอากาศ (ค่าอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ประกอบเป็นหอฟอกอากาศ) อยู่ที่ราว 2-3 ล้านบาท ซึ่งหากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆ สนใจ ศูนย์วิจัยฯ ก็พร้อมจะให้บริการในราคาที่อาจไม่เห็นกำไร เพื่อสร้างความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้คน บนความหวังว่าการทดสอบครั้งนี้จะขยายไปสู่การช่วยเหลือชุมชนได้
ขณะที่ ไกรพิชิต เมืองวงษ์ ผู้บริหาร บริษัท เนสเทค ประเทศไทย จำกัด (NESTECH) และประธานกลุ่มจิตอาสาเพื่อการจัดการภัยพิบัติ (ERIG) กล่าวว่า เนสเทค ประเทศไทย ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมพัฒนากับ RISC และ MQDC ในการสร้างหอฟอกอากาศต้นแบบนี้ ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “ฟ้าใส” จะเป็นต้นแบบของหอฟอกอากาศระดับเมืองที่เป็นกลไกสนับสนุนการแก้ไขปัญหาคุณภาพอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นพิษ PM 2.5 ได้อย่างเป็นรูปธรรม
อ่านเพิ่มเติมไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine