อิชิตัน (ICHI) จัดทัพเครื่องดื่มใหม่บุกตลาดเพื่อสุขภาพ ดันครึ่งปีหลังยังคงความร้อนแรง พร้อมเดินหน้าส่งออกกลุ่ม CLMV ขยายตลาดฟิลิปปินส์ มาเลเซีย คาดรายได้เติบโต 5% ตามเป้าหมาย 5.3 พันล้านครองแชมป์ตลาดชาพรีเมียมต่อเนื่อง
ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยว่า รายได้ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาของบริษัทมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 2.66 พันล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 10.4 และกำไรสุทธิอยู่ที่ 308.5 ล้านบาท เติบโตร้อยบะ 22.9 อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 20.6 อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 11.6 โดยเป็นการเติบโตสวนทางภาพรวมตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศไทยที่ปรับลดลง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 มีมูลค่าตลาดชาพร้อมดื่ม 5.64 พันล้านบาทหรือลดลงติดลบ -12.71 ในเชิงมูลค่า และลดลงร้อยละ -13.02 ในเชิงปริมาณ แบ่งเป็นชาเขียวพรีเมียมสัดส่วนร้อยละ 11.49 ของมูลค่าตลาดชาทั้งหมด โดยชาเขียวพร้อมดื่มชิซึโอกะของมีส่วนแบ่งการตลาดชาพรีเมี่ยมเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ร้อยละ 28.09 ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังตั้งเป้าหมายการเติบโตทั้งในแง่ของยอดขายและกำไร โดยคาดการณ์รายได้ปลายปีนี้เติบโตราวร้อยละ 5 จากปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 5.3 พันล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์ 3N ประกอบด้วย New Product การพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ซึ่งความสำเร็จจากกลุ่มชาพรีเมี่ยม “ชิซึโอกะ” ทำให้มั่นใจว่ากลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจะได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเช่นกัน รวมทั้ง New Market คือ การหาตลาดใหม่ในการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ และ New Business การมองหาธุรกิจใหม่เพื่อต่อยอดการเติบโต สำหรับการพัฒนาสินค้าใหม่ในปีนี้จะมุ่งไปยังเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ซึ่งเมื่อช่วงปลายเดิมมิถุนายนได้มีการเปิดตัว อิชิตัน น้ำด่าง 8.5 (ICHITAN PH PLUS 8.5) ผสมวิตามิน B รวม และได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี โดยบริษัทยังคงเดินหน้าเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นตุลาคมนี้ ได้แก่ อิชิตัน วิตามิน วอเตอร์ ซี พลัส อี (ICHITAN Vitamin C Water (C200)) เสริมภูมิต้านทาน ป้องกันไข้หวัดเจาะตลาดทั้ง Modern Trade และ Traditional Trade และอิชิตัน วิตซีซี (ICHITAN Vitt CC) เครื่องดื่มวิตามินซีสูง รวมทั้ง เย็นเย็น X Dragonball Z และ เย็นเย็น Super Cooling จับตลาดผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม นอกจากนั้น บริษัทยังมีการจัดแคมเปญกระตุ้นตลาดที่มีประสิทธิภาพกว่าเดิม พร้อมวางกลยุทธ์ร่วมกับพันธมิตร ได้แก่ TRUE IKEA และ Grab ผนึกกำลังเพื่อส่งเสริมการขาย สนับสนุนให้ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ที่เดิมเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจ ให้กลับมาคึกคักไม่แพ้ช่วงครึ่งปีแรก “เนื่องจากปีนี้เรามี Category ใหม่มาเติมเต็มความสามารถในการผลิตให้ดีขึ้น และสนับสนุนให้กำไรครึ่งปีหลังดีขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ปีนี้จะเป็นปีที่อิชิตันไม่มี Low season เนื่องจากกระแสเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพกำลังมาแรง แม้ตลาดยังเล็กแต่มีศักยภาพการเติบโตสูง เป็นโอกาสให้อิชิตันชิงความเป็นเจ้าตลาดได้ โดยวางเป้าสินค้าใหม่กลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในช่วงครึ่งปีหลังนี้ทำยอดขายได้ 400 ล้านบาท และด้วยจุดแข็งของโรงงานของอิชิตันมีกำลังการผลิตสูงสุด 1,500 ล้านขวด/ปี ทำให้เรามีเครื่องดื่มไซส์ 10 บาทที่จำหน่ายได้ดีมากในตลาด Traditional Trade ซึ่งไม่มีใครสามารถทำได้ เป็นอีกกลุ่มสินค้าที่เสริมกำไรปีนี้ให้แข็งแกร่ง และการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น” ส่วนตลาดรับจ้างผลิต (OEM) และการส่งออกของบริษัทยังสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดและการเติบโตได้ โดยเฉพาะการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมา, เวียดนาม) และเทรนด์การเติบโตของอิชิตัน อินโดนีเซียที่น่าจะสามารถทำกำไรได้ต่อเนื่องในปีนี้ ซึ่งผลิตภัณฑ์หลักในการส่งออกยังคงเป็น Thai Milk Tea ที่มีความโดดเด่น และได้รับการตอบรับจากฐานลูกค้าเดิมที่เหนียวแน่น นอกจากนั้น บริษัทยังเตรียมแผนขยายธุรกิจไปยังประเทศฟิลิปปินส์ และมาเลเซียต่อเนื่องจากความสำเร็จของอิชิตัน อินโดนีเซีย พร้อมทั้งส่งผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่บุกตลาดอินโดนีเซียต่อเนื่อง ได้แก่ Thai Coconut Water, ชาพร้อมดื่ม Teh Tawar และ อิชิตันน้ำด่าง 8.5 ผสมวิตามิน B รวม ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังหากสถานการณ์การแพร่ระบาดปรับตัวดีขึ้นจะส่งผลให้ภาพรวมกิจกรรมการตลาดและยอดขายคึกคักตามไปด้วย อ่านเพิ่มเติม: โอกาสจากพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลกของ ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine