มหาเศรษฐี Gordon Wu มีทางออกให้สำหรับราคาหุ้นที่ตกต่ำของ Hopewell Holdings บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นเรือธงของเขา นั่นคือกว้านซื้อให้หมด ท่ามกลางสัญญาณการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ฮ่องกง เขาวางแผนที่จะพาธุรกิจกลับมาเป็นบริษัทเอกชนหลังจากได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์มานานเกือบ 50 ปี
Gordon Wu มหาเศรษฐีชาวฮ่องกง วัย 83 ปี ผู้ติดในรายชื่ออันดับ 43 จากการจัดอันดับ มหาเศรษฐีฮ่องกง ประจำปี 2562 โดยมูลค่าทรัพย์สินของเขาอยู่ที่ 1.65 พันล้านเหรียญ ล่าสุดจากมหากาพย์การฟ้องร้อง โครงการโฮปเวลล์ ได้สิ้นสุดลง จากจุดเริ่มต้นที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้บอกเลิกสัญญาสัมปทานกับ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งแต่ปี 2540 และต่อมาด้วยคำวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการเมื่อปี 2551 ได้วินิจฉัยชี้ขาดให้ กระทรวงคมนาคม และ รฟท.จ่ายเงินชดเชยให้ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เนื่องจากบอกเลิกสัญญาไม่เป็นธรรมเป็นเงินจำนวน 11,888.75 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี ทำให้ รฟท.ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองชั้นต้นของไทยให้เพิกถอนคำวินิจฉัยชี้ขาดดังกล่าวเมื่อปี 2557 และศาลปกครองกลางตัดสินให้เพิกถอนตามที่ รฟท.ได้ยื่นคำร้อง อย่างไรก็ตาม โฮปเวลล์ เองได้อุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวต่อศาลปกครองสูงสุด คดีดำเนินมาถึงวันตัดสินในวันที่ 22 เมษายน 2562 ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นให้กระทรวงคมนาคมและ รฟท.จ่ายค่าเสียหายให้แก่โฮปเวลล์เป็นเงิน 11,888.75 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี โดยต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน Gordon Wu มีชื่อเสียงในความมีวิสัยทัศน์กว้างไกลและเป็นผู้ริเริ่มโครงการสำคัญๆ ของจีนและฮ่องกงมากมาย รวมทั้งโครงการถนน Guangzhou-Shenzhen Superhighway ในปี 1983 Wu เองที่เป็นผู้เสนอให้สร้างสะพานเชื่อมระหว่างฮ่องกงและ Macau แต่ถูกปฏิเสธในเวลานั้น ในที่สุดรัฐบาลจีนและฮ่องกงนำแนวคิดของเขามาปรับใช้สร้างเป็นสะพาน Hong Kong-Zhuhai-Macau ความยาว 55 กิโลเมตร เปิดบริการเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา David Blennerhasset นักวิเคราะห์ประจำกองทุนบริหารความเสี่ยง Ballingal Investment Advisors ในฮ่องกง กล่าวว่า หุ้นของ Hopewell มีมูลค่ามากถึงหุ้นละ 50 เหรียญฮ่องกง ถ้ารวมเอา Hopewell Centre II อาคารสูง 55 ชั้นที่ Hopewell กำลังสร้างเข้าไปด้วย Hopewell ทุ่มเงินไปแล้ว 5 พันล้านเหรียญฮ่องกงในการสร้างอาคารสำนักงานดังกล่าวซึ่งจะประกอบด้วยศูนย์การค้าและโรงแรมที่มีห้องพักมากกว่า 1,000 ห้อง มีกำหนดเปิดในปี 2020 Blennerhasset กล่าวทิ้งท้ายว่า “ข้อเสนอนี้ก็คือหมัดน็อกเอาต์ดีๆ นี่เอง” Wu เสนอซื้อหุ้น Hopewell ร้อยละ 63.1 ที่เขาและครอบครัวไม่ได้เป็นเจ้าของเป็นเงิน 2.13 หมื่นล้านเหรียญฮ่องกง (2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) หรือในราคาหุ้นละ 38.80 เหรียญฮ่องกง ซึ่งเป็นมูลค่าสูงกว่าราคาที่ซื้อขายกันบนกระดานในเดือนธันวาคม อันเป็นช่วงที่เขายื่นข้อเสนอเกือบร้อยละ 50 อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าข้อเสนอของ Wu จะเป็นจริง Southeastern Asset Management บริษัทบริหารจัดการเงินลงทุนของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นอันดับ 2 ของ Hopewell เผยว่าจะไม่สกัดกั้นข้อเสนอของ Wu ซึ่งจะส่งผลให้ Hopewell ยุติการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงหลังจากเข้าจดทะเบียนมาเป็นเวลา 47 ปี รายงานโดย – Sheela Sarvananda และ Forbes Thailandติดตามการจัดอับดับ 50 มหาเศรษฐีฮ่องกง ที่ร่ำรวยที่สุด ประจำปี 2019 ได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนเมษายน 2562 ที่แผงนิตยสารชั้นนำและคลิกเพื่ออ่านในรูป e-magazine