STT GDC Thailand คว้ารางวัล Company of The Year ประจำปี 2566 - Forbes Thailand

STT GDC Thailand คว้ารางวัล Company of The Year ประจำปี 2566

FORBES THAILAND / ADMIN
22 Jun 2023 | 09:00 AM
READ 1379

    STT GDC Thailand คือผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ ที่มีความปลอดภัยสูง เชื่อถือได้ และยั่งยืน ที่มอบโซลูชันครบวงจรอย่างโดดเด่นและเป็นไปตามมาตรฐานระดับโลกที่เข็มงวดของอุตสาหกรรม จากรายงานการวิเคราะห์ล่าสุดในอุตสาหกรรมบริการดาต้าเซ็นเตอร์ของ ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ได้ยกย่อง บริษัท เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (หรือ STT GDC Thailand) เป็น Company of The Year ประจำปี 2566

    โดย STT GDC Thailand เป็นผู้ให้บริการโคโลเคชั่นดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกลชั้นนำที่มุ่งเน้นการสนับสนุนความต้องการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นจากองค์กรที่ทำธุรกิจแบบ Over-The-Top (OTT) โดยบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นขยายดาต้าเซ็นเตอร์ในทำเลกลยุทธ์เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และสร้างมูลค่าให้กับกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและกลุ่มลูกค้าใหม่ ปัจจุบัน STT GDC Thailand เปิดให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ STT Bangkok 1 ที่หัวหมาก กรุงเทพฯ และอีกแห่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างเพื่อเร่งขับเคลื่อนการขยายตัวอย่างรวดเร็วในตลาดประเทศไทย

    นอกจากนี้ STT GDC Thailand ยังกำลังเสริมความแข็งแกร่งเครือข่ายในดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกลที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน โดยดึงศักยภาพจากเทคโนโลยีทันสมัยและนำแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดมาปรับใช้ดำเนินธุรกิจด้านต่างๆ

    รูบินี คามาล นักวิเคราะห์ฝ่ายวิจัยแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน กล่าวว่า “STT GDC Thailand มีวิสัยทัศน์ที่จะรองรับความต้องการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นของบริษัทและองค์กรในกลุ่ม OTT บริษัทฯ ได้ใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีใหม่ๆ และขับเคลื่อนแนวคิดริเริ่มใหม่ๆ ด้วยการเน้นปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อนำเสนอบริการในระดับ Best-in-class รองรับการเติบโตของทุกธุรกิจ มีความปลอดภัย และเป็นบริการที่มีมาตรฐานระดับโลก โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายสำคัญคือเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดและมอบบริการระดับ First-class พร้อมความสามารถในการขยายพื้นที่และกำลังไฟฟ้า มีการปฏิบัติงานที่ยอดเยี่ยมและการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง”

    บริษัทฯ ปฏิบัติตามแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในระดับสากลอย่างครบถ้วน ทั้งด้านการรักษาความปลอดภัยในดาต้า เซ็นเตอร์และด้านสิ่งแวดล้อมความยั่งยืน โดยตั้งเป้าสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon-Neutral) ในดาต้าเซ็นเตอร์ภายในปี 2573 ปัจจุบันบริษัทฯ กำลังดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนและในปี 2563 ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกของบริษัทฯ ที่ได้รับการรับรองความเป็นผู้นำด้านการออกแบบพลังงานและสิ่งแวดล้อม หรือ The Leadership in Energy and Environmental Design Gold v.4 Certification จาก U.S. Green Building Council (USGBC) สำหรับการออกแบบอาคารที่ประหยัดพลังงาน

    บริษัทยังเดินหน้าสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ใหม่ๆ และแสวงหาทางเลือกในการขับเคลื่อนดาต้าเซ็นเตอร์ด้วยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูงในเรื่องการใช้ทรัพยากรน้ำ ในขณะที่ใช้พลังงานน้อยลง ปรับปรุงคุณภาพสิ่งแวดล้อมภายในอาคารและยึดแนวปฏิบัติในอาคารที่ยั่งยืนมากขึ้น

    นิชฌาล โครานา รองประธานและผู้นำโครงการระดับโลกด้านไอซีทีจาก ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน กล่าวว่า “บริษัทใช้มาตรฐานสากลและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อให้มั่นใจได้ถึงความยืดหยุ่นทางด้านเทคนิค ความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัย โดยได้รับมาตรฐานการรับรองที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลกมากมาย ตอกย้ำคุณค่าที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมบริการโคโลเคชั่นดาต้าเซ็นเตอร์ของประเทศไทย”

    ในแต่ละปี ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน จะมอบรางวัล Company of the Year ให้กับองค์กรที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นเลิศด้านกลยุทธ์การเติบโตและการนำกลยุทธ์มาปรับใช้เพื่อดำเนินธุรกิจ รางวัลนี้เป็นการยกย่องถึงนวัตกรรมระดับสูงในผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี ที่ส่งผลให้เป็นผู้นำในแง่ของความพึงพอใจจากลูกค้าและการเจาะตลาด

    รางวัล Best Practices Awards จาก ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ยกย่องบริษัทต่างๆ ในตลาดระดับภูมิภาคและระดับโลก เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จที่โดดเด่นและประสิทธิภาพที่เหนือชั้นในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี การให้บริการลูกค้าและการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์ โดยนักวิเคราะห์ในแต่ละอุตสาหกรรมจะพิจารณาและวัดผลเปรียบเทียบบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในตลาดผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึก การวิเคราะห์ และการวิจัยทุติยภูมิอย่างละเอียด เพื่อใช้เป็นแนวทางพิจารณามอบรางวัลให้แก่ผู้นำในอุตสาหกรรม

    

    อ่านเพิ่มเติม : CEA ผนึก 15 ภาคีเครือข่ายพันธมิตร ลงนามบันทึกข้อตกลง ร่วมขับเคลื่อน "เศรษฐกิจไทย" ผ่านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์

    ​ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine