บริษัท เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ จำกัด หรือ HMC Polymers ผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติก พลีโพรพิลีน หรือ PP เผยตัวเลขผลประกอบการปี 2566 รายได้รวม 2.5 หมื่นล้านบาท พร้อมตั้งเป้าปี 2567 จะกวาดรายได้มากกว่า 2.8 หมื่นล้านบาท หลังรุกตลาด ‘เม็ดพลาสติก PP เกรดพรีเมียม’ แล้วได้อัตรากำไรที่สูงกว่าในขณะที่คู่แข่งในตลาดยังมีน้อย
Mr. Corso Uzielli ประธานบริษัท HMC Polymers เผยว่า “การก้าวสู่ปีที่ 41 ของบริษัทยังคงเดินหน้าคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ พัฒนาสู่ความเป็นเลิศในทุกๆ มิติอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งผลักดันให้สายการผลิตที่ 4 ของโรงงานโพลีโพรพิลีน (PP4) ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปลายปี 2565 ดำเนินการผลิตสูงสุดเต็มศักยภาพ พร้อมนำเทคโนโลยี Spherizone อันทันสมัยที่สุดในการผลิตเม็ดพลาสติก PP จากบริษัท LyondellBasell ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของ HMC Polymers สู่การผลิตเม็ดพลาสติก PP เกรดพิเศษ (Specialty) และเกรดคุณภาพสูง (Differentiated) เพื่อการนำไปใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มการแพทย์และสุขอนามัย กลุ่มบรรจุภัณฑ์ทั้งแบบแข็งและแบบยืดหยุ่น และกลุ่มชิ้นส่วนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่”
พรชัย พิชิตวุฒิกร รองประธานอาวุโส สายงานกลยุทธ์ นวัตกรรม และพาณิชยกิจ กล่าวว่า นอกจากการรักษามาตรฐานของเม็ดพลาสติก PP เกรดพิเศษ (Specialty) และเกรดคุณภาพสูง (Differentiated) ให้เหนือกว่าคู่แข่งอยู่เสมอแล้ว เรายังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน (Sustainable Products) ซึ่งแบ่งได้ตามคุณสมบัติเด่นทั้ง 3 ประเภท คือ
· Reduce : เม็ดพลาสติก PP ชนิด Bio-based ที่ผลิตจากวัตถุดิบที่ใช้แล้ว เช่น น้ำมันพืชที่ใช้แล้ว เป็นต้น ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในการกระบวนผลิต โดยเม็ดพลาสติก PP ชนิด Bio-based ได้รับการรับรอง ISCC PLUS จากหน่วยงาน International Sustainability and Carbon Certification ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล ที่ให้การรับรองผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน / เม็ดพลาสติก PP แบบ Downgauging ที่มีความแข็งแรงและประสิทธิภาพการใช้งานสูงมาก จึงสามารถลดเนื้อพลาสติกในการขึ้นรูปชิ้นงานได้ แต่ยังใช้งานได้ดีดังเดิม
· Recycle : เม็ดพลาสติก PP รีไซเคิลเชิงเคมี (Chemical Recycling PP) คือ การนำพลาสติกที่ใช้แล้วมาผ่านกระบวนการทางเคมีที่เรียกว่า Pyrolysis ก่อนนำมาเป็นวัตถุดิบผลิตเม็ดพลาสติก PP อีกครั้ง โดยเม็ดพลาสติก PP รีไซเคิลเชิงเคมี ได้รับการรับรอง ISCC PLUS เช่นกัน / เม็ดพลาสติก PP รีไซเคิลเชิงกล (Mechanical Recycling PP) คือ เม็ดพลาสติก PP รีไซเคิล ที่ผลิตจากพลาสติก PP ที่ผ่านการใช้งานจากผู้บริโภคแล้ว (Post-Consumer Recycled, PCR) หรือพลาสติก PP จากการทิ้งหรือไม่ตรงตามความต้องการระหว่างกระบวนการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Post-Industrial Recycled, PIR) โดยเม็ดพลาสติก PP รีไซเคิลเชิงกล ได้รับการรับรองมาตรฐาน GRS (Global Recycled Standard) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล ที่ให้การรับรองผลิตภัณฑ์รีไซเคิล
· Redesign & Replace : เม็ดพลาสติก PP Monomaterial เม็ดพลาสติก PP สำหรับทดแทน Aluminum Foil ส่งผลให้บรรจุภัณฑ์ฟิล์มเป็นพลาสติกเนื้อเดี่ยว หรือ Monomaterial นำไปรีไซเคิลได้ง่ายขึ้น เพราะไม่มีวัตถุดิบชนิดอื่นปะปน
ในส่วน Carbon Neutrality Pillar นั้น ณ ปัจจุบันเราได้เตรียมตัวเพื่อก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยการจัดทำข้อมูลฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint Products – CFPs) สำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ จำนวน 29 ผลิตภัณฑ์ในปี 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อรวมกับปี 2565 ทำให้มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองรวมแล้ว 60 ผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ HMC Polymers ได้ก่อสร้างหอเผาระดับพื้น (Ground Flare) เพื่อลดมลพิษจากการเผาไหม้ที่หอเผาสูง (Elevated Flare) ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ควบคุมควันดำได้เป็นอย่างดี รวมถึงลดเสียงและแสง โดยเป้าหมายต่อไปของเรา คือ “Zero Flare” ลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศโลก
ด้าน อังคณี สุนทรสวัสดิ์ รองประธาน สายการเงิน บัญชีและงานสนับสนุนองค์กร กล่าวว่า “แม้การเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2566 จะชะลอตัว ส่งผลให้การเติบโตของความต้องการผลิตภัณฑ์ PP ชะลอตัวและราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้รับปัจจัยเชิงบวกจากการมุ่งเน้นในผลิตภัณฑ์ PP เกรดพิเศษ (Specialty) และเกรดคุณภาพสูง (Differentiated) ซึ่งมีการแข่งขันน้อยกว่าและมีอัตราส่วนกำไรที่สูงกว่า
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังกระจายรายได้ไปยังอุตสาหกรรมปลายทางและจำหน่ายในหลายประเทศ (Market Diversification) ผ่านช่องทางการจำหน่ายที่มีอยู่ทั่วโลก ทำให้ปี 2566 HMC Polymers มีรายได้รวมประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสินค้าเกรดพิเศษ SPDP (Specialty-Differentiated) กว่า 53% ของรายได้รวม ภาพรวมฐานะการเงินมีความแข็งแกร่งด้วยสินทรัพย์รวมมากกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท กระแสเงินสดมีสภาพคล่องในระดับเพียงพอ พร้อมตั้งเป้าปี 2567 จะมีรายได้มากกว่า 2.8 หมื่นล้านบาท และด้วยสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง การเป็นผู้นำในธุรกิจ PP ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ HMC Polymers ได้รับการจัดอันดับเครดิตโดย บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด อยู่ในระดับ ‘A-(tha)’
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทยังได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ จำหน่ายหุ้นกู้เต็มวงเงิน 3,800 ล้านบาท เกินจากเป้าที่ตั้งไว้ คือ 3,000 ล้านบาท ช่วยตอกย้ำความพร้อมในการดำเนินธุรกิจไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งบนรากฐานของความอย่างยั่งยืน
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : บางกอกเคเบิ้ล ทุ่มงบฯ กว่า 500 ล้านบาทรุกตลาดสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ล ตั้งเป้าเบอร์ 1 อาเซียน
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine