ในวาระการอำลาตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีของ Angela Merkel สตรีผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของ Forbes ผู้ครองตำแหน่งผู้นำประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ทรงอิทธิพลที่สุดของยุโรปมายาวนานถึง 16 ปี ได้นำมาซึ่งพลวัตของอำนาจครั้งใหญ่ ดังปรากฎให้เห็นในทำเนียบการจัดอันดับ 100 สตรีทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ประจำปี 2021
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้หญิงทั่วโลกยังคงต้องแบกรับภาระของโรคระบาดใหญ่ และเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลาย ท่ามกลางความอุตสาหะของผู้บริหารประเทศ ซีอีโอ ผู้ก่อตั้งธุรกิจ ผู้มีวิสัยทัศน์ และผู้นำบนเวทีโลก ที่พยายามใช้อิทธิพลในมือไม่มากก็น้อยอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลกระทบในรูปแบบที่แปลกใหม่
โฉมหน้าใหม่ของขั้วอำนาจ
ปีนี้ อันดับ 1 ของทำเนียบตกเป็นของ
MacKenzie Scott สตรีผู้มั่งคั่งที่สุดอันดับ 3 ของโลก ผู้เป็นแบบอย่างที่ชัดเจนในฐานะนักการกุศลรุ่นเฮฟวี่เวท
“ในช่วงเวลาที่มหาเศรษฐี เช่น อดีตสามีของเธอ (Jeff Bezos) เดินหน้าเข้าลงทุนในธุรกิจอวกาศยาน Scott ได้ใช้ทรัพย์สินมหาศาลของเธอไม่เพียงแต่สนับสนุนองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ทำงานได้ดีเท่านั้น แต่ยังท้าทายวิธีสะสมความมั่งคั่งและอำนาจในประเทศนี้อีกด้วย” Maggie McGrath บรรณาธิการ ForbesWomen กล่าว
เช่นเดียวกับการตัดสินใจที่กล้าหาญของ
Frances Haugen อดีตนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลของ Facebook ที่เปิดเผยข้อบกพร่องทางจริยธรรมของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ และนำมาซึ่งการตรวจสอบความโปร่งใสในอุตสาหกรรมที่ถูกละเลยมาเป็นเวลานาน
Wall Street ไปจนถึง Hollywood
‘Female first’ อาจเป็นมารยาทสากลที่ได้รับการปฏิบัติมาช้านาน ทว่าประเด็นสำคัญในปี 2021 อยู่ที่ว่า ขณะนี้อิทธิพลของสตรีกำลังถูกใช้ไปในทิศทางที่มีอำนาจมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา โดยความสำเร็จของผู้ได้รับรางวัลในปีนี้มาจากน้ำพักน้ำแรงของพวกเขาเอง เพื่อรุกเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ผู้ชายมักจะเป็นใหญ่
ดังจะเห็นได้จากการที่
Jane Fraser (อันดับที่ 14) ทำลายเพดานกระจกที่ทนทานของธนาคารเมื่อเธอเข้ารับตำแหน่งซีอีโอหญิงคนแรกของ Citigroup เมื่อต้นปีนี้ ขณะที่
Reese Witherspoon (อันดับที่ 74) และมหาเศรษฐีหน้าใหม่
Rihanna (อันดับที่ 68) มหาเศรษฐีที่เพิ่งสร้างใหม่ (#68) ขึ้นแท่นศิลปินหญิงที่มีรายได้สูงสุดในสังเวียนของตน จากการพลิกโฉมรูปแบบธุรกิจแบบดั้งเดิมและกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมใหม่
ด้านนักลงทุนระดับซูเปอร์สตาร์
Cathie Wood (อันดับที่ 53) ผู้ก่อตั้ง Ark Invest ได้สร้างพลังพิเศษขึ้นด้วยการคาดการณ์และความเข้าใจอันเฉียบแหลมของเธอในการค้นพบความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในอนาคต (ลองนึกถึงการลงทุนช่วงแรกๆ ใน Bitcoin และ Tesla)
ลางสังหรณ์อีกประการหนึ่งเกี่ยวกับอนาคตคือการได้เห็นจำนวนสตรีที่เพิ่มขึ้นในเวทีธุรกิจในสังคมที่การปรากฏตัวของพวกเขาขาดไป เช่น รัสเซีย (ธนาคารกลาง), ญี่ปุ่น (ผู้ว่าการโตเกียว) สิงคโปร์ (กองทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาล) อินโดนีเซีย (บริษัทน้ำมันและก๊าซของรัฐ), อาบูดาบี (การธนาคาร), ตุรกี (กลุ่มอุตสาหกรรมและการเงิน) และจีน (ยานยนต์)
แนวหน้าโรคระบาด
ด้วยการจัดลำดับความสำคัญของโลกที่ยังคงเน้นที่การแพร่ระบาด ทำให้ผู้นำด้านการดูแลสุขภาพมีบทบาทอย่างมากตั้งแต่การพัฒนาวัคซีนไปจนถึงการใช้งาน ซึ่ง
Ozlem Tureci (อันดับที่ 48) ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของ BioNTech ได้สร้างประวัติศาสตร์แห่งปีเมื่อวัคซีนโควิด-19 ของ Pfizer ที่เธอพัฒนาร่วมกับสามีของเธอ ได้รับการอนุมัติเป็นรายแรกในสหรัฐอเมริกา
ด้าน
Emma Walmsley (อันดับที่ 13) จาก GlaxoSmithKine ยักษ์ใหญ่ด้านเภสัชกรรมยังคงเดินหน้าหาแนวทางรักษาแอนติบอดีที่มีแนวโน้มว่าจะสามารถต่อกรกับโควิดสายพันธุ์โอไมครอนต่อไป
นอกเหนือจากการเป็นผู้หญิงคนแรกที่เป็นผู้นำองค์กรแล้ว
Karen Lynch แห่ง CVS Health (อันดับที่ 11) และ
Rosalind Brewer แห่ง Walgreens Boots Alliance (อันดับที่ 17) ยังเป็นซีอีโอหญิงในบริษัท S&P และเป็นซีอีโอหญิงผิวดำเพียงคนเดียว ซึ่งพวกเขาไม่เพียงแต่กำหนดมาตรฐานสำหรับการใช้วัคซีนเท่านั้น แต่ยังทำงานเพื่อแก้ไขความไม่เท่าเทียมด้านการรักษาพยาบาลจากการระบาดใหญ่ที่แพร่ระบาด
เกมการเมือง
การปรากฏตัวของผู้หญิงที่จุดสูงสุดของอำนาจทางการเมืองยังคงเป็นส่วนน้อยในทุกพื้นที่ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการจากไปของ Merkel แต่ผู้นำสตรีที่อยู่ในแนวหน้าก็ต่างพยายามที่จะเสนอพิมพ์เขียวสำหรับการนำทางในช่วงเวลาวิกฤต
ในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างไต้หวันและจีนเพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ ประธานาธิบดี
Tsai Ing-wen ของไต้หวัน มีรายชื่อปรากฎอยู่ในอันดับที่ 9 ของทำเนียบจากความพยายามปกป้องประชาธิปไตยในเกมหมากรุกระดับภูมิรัฐศาสตร์ที่ดังก้องไปทั่วโลก
ขณะที่ในฝั่งยุโรปนำโดย
Christine Lagarde (อันดับที่ 3) หัวหน้าธนาคารกลางยุโรป (#3) และ
Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อันดับที่ 8) ตามมาด้วย
Kamala Harris (อันดับที่ 2) ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งในปีนี้ในฐานะนักการเมืองหญิงที่มีตำแหน่งสูงสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
ด้วยเหตุนี้ หากเราขยายคำจำกัดความของอำนาจให้เหนือกว่าการวัดความมั่งคั่งและศักยภาพขององค์กร ให้ครอบคลุมถึงวิธีที่น่าเกรงขามซึ่งผู้นำกำลังใช้อิทธิพลในรูปแบบใหม่จะสะท้อนให้เห็นว่าแทบจะไม่มีผู้หญิงที่มีอำนาจว่างเปล่าเลย ขณะที่รายชื่อสตรีที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกประจำปี 2021 ซึ่งจะกลายเป็นแสงสว่างและแรงผลักดันให้กับเส้นทางใหม่ที่กำลังก่อตัวและอาจมีศักยภาพเพียงพอที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าของอำนาจสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป
แปลและเรียบเรียง ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ The World’s 100 Most Powerful Women: Redefining The Face Of Power In 2021 เผยแพร่บน Forbes.com
อ่านเพิ่มเติม:
100 สตรีทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ประจำปี 2021
อ่านเพิ่มเติม:
“Forbes Under 30” Hall of Fame 2022 : สุดยอดหนุ่มสาวดาวรุ่งตลอดกาล