สถาบันเสริมความงามครบวงจรรายใหญ่ในภาคอิสาน ชูคุณภาพ มาตรฐานสากล ความสะอาดและความปลอดภัย พร้อมราคาที่เอื้อมถึงทุกระดับ ชิงเค้กตลาดความงาม เตรียมขยายสาขาใหม่ เล็งปักหมุดจังหวัดทางภาคเหนือและภาคใต้

ชลฑิชา ศรีทอง ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ บริษัท ยูดีคลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด เจ้าของสถานเสริมความงาม UD CLINIC ที่เปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2559 และมีสาขารวม 7 สาขา กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ธุรกิจเสริมความงามว่า ความสนใจในการเริ่มธุรกิจของตนเองเกิดขึ้นในช่วงที่ทำงานเป็นแอร์โฮสเตสให้กับสายการบินแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นอาชีพที่มักใช้บริการเสริมความงามอยู่สม่ำเสมอ จนได้มีโอกาสเข้ารับบริการที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และพบว่ามีผู้รอใช้บริการเป็นจำนวนมาก จึงเห็นว่าตลาดเสริมความงามยังมีช่องว่างที่จะเข้าสู่ธุรกิจ
“ความคิดที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจและมีธุรกิจส่วนตัวเป็นความฝันตั้งแต่เรียน เมื่อเห็นโอกาสในธุรกิจเสริมความงามและเป็นจังหวะเดียวกับที่ได้มีโอกาสรู้จักกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเสริมความงามในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิด จึงตัดสินใจเข้าสู่ธุรกิจนี้ โดยเริ่มสาขาแรกที่จังหวัดอุดรธานี เพราะเป็นทำเลศักยภาพที่สามารถรองรับลูกค้าในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้ง ลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านคือประเทศลาวอีกด้วย”
จากคลินิกเล็กๆ ซึ่งเป็นตึกแถวห้องเดียวที่อุดรธานีที่ใช้เงินลงทุนไม่กี่แสนบาท ธุรกิจของ UD Clinic ก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเปิดสาขาที่ 2 ที่นครราชสีมาภายในเวลาไม่ถึงปี และเจ้าตัวก็ลาออกจากอาชีพแอร์โฮสเตส เพื่อเข้ามาบริหารงานอย่างเต็มตัวในวัยเพียง 25 ปี
“เมื่อ 7 ปีก่อน ธุรกิจเสริมความงามยังไม่มีการสื่อสารทางช่องทาง Social Network มากนัก เราจับทางได้และเป็นรายแรกๆ ที่ปล่อยโฆษณาทาง Facebook และ Instagram และได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าทั้งในท้องถิ่น จังหวัดใกล้เคียงและลูกค้าจากลาวเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก เราจึงขยายสาขาที่ 2 ทันที”
หลังจากนั้น บริษัทได้ขยายสาขาที่ 3 ที่อุบลราชธานีในปีถัดมา และเริ่มมีลูกค้าที่เป็นคนในจังหวัดภาคอิสานและเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ สอบถามถึงสาขาในกรุงเทพฯ บริษัทจึงเปิดสาขาแรกในกรุงเทพฯ ที่อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ บนถนนอโศก ซึ่งเป็นคลินิกความงามเพียงแห่งเดียวบนตึกนี้
ปัจจุบัน UD CLINIC มี 7 สาขา ได้แก่ อุดรธานี อุบลราชธานี กรุงเทพฯ ขอนแก่น สุรินทร์ และนครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดที่มี 2 สาขา เนื่องจากได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า โดยบริษัทดําเนินการโดยคํานึงถึงคุณภาพและมาตรฐานเดียวกัน พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้เชียวชาญเฉพาะด้านที่คอยให้คําปรึกษา และแนะนําข้อมูลต่างๆ ทั้งก่อนและหลังบริการด้านเสริมความงาม รวมทั้ง ศัลยกรรมตกแต่งที่แพทย์จะเป็นผู้ประเมินตามความเหมาะสมของแต่ละเคส

ชลฑิชา กล่าวว่า นอกจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ UD CLINIC ยังเน้นในเรื่องความสะอาด และความปลอดภัย ตลอดจนการให้บริการที่ดีในบรรยากาศอบอุ่นเสมือนครอบครัว ทําให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการวางใจในมาตรฐานการดูแลและบอกต่อไปยังลูกค้าคนอื่นๆ
“UD CLINIC เริ่มต้นจากการดูแลผิวหนัง ก่อนขยายตัวสู่เลเซอร์และศัลยกรรมเล็ก เช่น จมูก ปาก คาง และตา ไปจนถึงศัลยกรรมใหญ่ เช่น การดึงหน้า การตัดไขมันหน้าท้อง ธุรกิจของเราจึงเป็นบริการที่ครบวงจรและเต็มรูปแบบมากขึ้น ดังนั้นการเปิดสาขาใหม่ 3-4 สาขาล่าสุดจึงเป็นสเกลที่ใหญ่ขึ้นจากสาขาแรกที่อุดรธานี ซึ่งเราได้ย้ายไปสถานที่ใหม่ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้บริการได้เต็มรูปแบบ”
ปัจจุบัน บริการที่ได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้ามากที่สุด คือ การฉีดฟิลเลอร์ การดึงหน้า และการเสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม ซึ่งการเสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียมกำลังได้รับความนิยม เนื่องจากใช้วิธีการผ่าตัดแบบปิด ทำให้ไม่จำเป็นต้องเจ็บหลายจุด ใช้เวลาพักฟื้นไม่นานและมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิด แต่ได้ผลลลัพธ์ใกล้เคียงกัน โดยเนื้อเยื่อเทียมที่ UD CLINIC เป็นของแบรนด์ Megaderm ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งในเกาหลีและไทย โดยบริษัทได้รับโล่รางวัลการันตีการใช้เนื้อเยื่อเทียมของแบรนด์นี้ติดอันดับท็อปเทน
สำหรับแผนธุรกิจในอนาคตมีทั้งการขยายสาขาเพิ่มและการนำทันตกรรมเข้ามาเสริมกับธุรกิจปัจจุบัน โดยชลฑิชามีธุรกิจคลินิกทันตกรรมที่เป็นการร่วมทุนกับทันตแพทย์ในชื่อ ITooth Dental Clinic ซึ่งปัจจุบันมี 4 สาขา ได้แก่ อ่อนนุช รังสิต นครราชสีมาและขอนแก่น โดยเริ่มธุรกิจตั้งแต่ปีที่ผ่านมาที่อ่อนนุชเป็นสาขาแรก
“ในปีหน้าเราจะนำการดูแลรักษาฟันเข้ามารวมกับการเสริมความงาม เพื่อให้บริการที่ครบวงจรมากขึ้น เนื่องจากการเสริมความงามในหลายส่วนมีความเชื่อมโยงกับรูปหน้า กราม ฟันและรอยยิ้ม เช่น การเสริมคาง การเสริมจมูก ซึ่งการเสริมความงามพร้อมกับการดูแลรักษาฟันจะช่วยในการปรับรูปหน้า รวมทั้งหลายคนกังวลเรื่องการจัดฟันที่จะต้องทำก่อนหรือหลังการเสริมความงาม เราจึงเสริมทันตกรรมเข้ามาเพื่อให้บริการแก่ลูกค้า”
ทั้งนี้ สาขานำร่องที่จะมีทั้งการเสริมความงามและทันตกรรมจะเป็นสาขาขอนแก่น โดยทันตกรรมจะอยู่บริเวญชั้น 2 และการเสริมความงามจะอยู่ที่ชั้น 1 ซึ่งบริษัทจะประเมินผลตอบรับจากลูกค้าก่อนขยายไปสู่สาขาอื่นๆ ในอนาคต
“ความสำเร็จของเราในวันนี้เกิดจากคุณภาพและมาตรฐานเดียวกันของทุกสาขา รวมทั้งความสะอาด ความปลอดภัย ความจริงใจ ความซื่อสัตย์และความใส่ใจลูกค้าที่เรามอบให้ ซึ่งเราเน้นให้ลูกค้าเห็นตัวยาก่อนรับบริการ เพื่อมั่นใจได้ว่าเราใช้ของแท้ที่มีคุณภาพ สามารถตรวจสอบได้ เพราะเราสั่งตรงจากบริษัทผู้ผลิตและได้รับอ.ย.ทุกตัว อยากให้ลูกค้าศึกษารายละเอียดของแต่ละคลินิกหรือสถานบริการเสริมความงามก่อนเข้ารับบริการ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น”
นอกจากนี้ แพทย์ผู้ให้บริการทุกสาขาเป็นแพทย์ประจำ ล้วนเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ทางด้าน Aesthetic มาอย่างน้อย 5 ปี งานฉีดจะมีความละเอียด มือเบา เจ็บน้อย และบวมช้ำน้อย โดยอีกหนึ่งจุดเด่นของ UD CLINIC คือ ราคาที่เอื้อมถึงทุกระดับ โดยค่าบริการสำหรับการดึงหน้ามีราคาเริ่มต้น 39,900 บาทสำหรับการดึงเฉพาะส่วน ไปจนถึงเกือบ 3 แสนบาทสำหรับทั้งหน้า

ล่าสุด UD CLINIC ได้รับรางวัล THE MASTERPIECE BUSINESS OF AESTHETIC CLINIC ในงานประกาศรางวัล THBA 2022 : THAILAND HEALTH AND BEAUTY AWARDS 2022 ซึ่งเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจด้านสุขภาพ และความงามของประเทศไทย การันตีคุณภาพด้วยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ นำทีมโดยอรรฆรัตน์ นิติพน ทีมผู้ผลิตรายการ อายุน้อยร้อยล้าน และฐิติมา สิรินธรานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วิน วิน พีอาร์พลัส จำกัด บริษัทที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์และการตลาดครบวงจร ถือเป็นรางวัลที่ยกระดับวงการธุรกิจสุขภาพและความงามของไทยให้เติบโตและก้าวหน้าขึ้นไปอีกหนึ่งขั้น