“The CRYSTAL GRILL HOUSE” ดื่มด่ำมื้อค่ำริมน้ำเจ้าพระยา - Forbes Thailand

“The CRYSTAL GRILL HOUSE” ดื่มด่ำมื้อค่ำริมน้ำเจ้าพระยา

บรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาเส้นทางระว่างสะพานพระราม 8-สะพานกรุงเทพ เต็มไปด้วยความคึกคักของการท่องเที่ยวที่กลับมาชัดเจน นักท่องเที่ยวนับพันคราคร่ำทั้งบนเรือสำราญที่ล่องผ่านทุกๆ นาที และแหล่งท่องเที่ยวริมน้ำกับแสงสีตระการตา สร้างชีวิตชีวาน่าประทับใจแก่ผู้มาเยือน


    นี่คือภาพฝันที่ “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” เคยกล่าวไว้เมื่อครั้งเปิดตัว “เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์” แหล่งช้อปปิ้งและไนท์มาร์เก็ตริมแม่น้ำเจ้าพระยาถนนเจริญกรุง เมื่อปลายเดือนเมษายน 2555 ครั้งนั้นเจ้าสัวเจริญบอกเล่าภาพในจินตนาการว่า เอเชียทีคฯ จะเป็นเดสติเนชั่นหลักของแหล่งท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวริมน้ำเจ้าพระยาในจุดต่างๆ ด้วยความสว่างไสวเพิ่มมนต์เสน่ห์ความเป็นมหานครริมน้ำของกรุงเทพฯ ให้จารึกในความทรงจำของผู้มาเยือนไม่รู้ลืม

    ผ่านมา 1 ทศวรรษภาพที่มหาเศรษฐีอันดับต้นของประเทศวาดหวังไว้เป็นจริงและชัดเจนยิ่งกว่าช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดโควด-19 ซึ่งช่วงนั้นการท่องเที่ยวคึกคักนักท่องเที่ยวเข้าไทยกว่า 40 ล้านคน แต่ความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยวริมน้ำยังไม่มากเท่าปัจจุบัน และตลอด 3 ปีท่ามกลางสถานการณ์โควิด แหล่งท่องเที่ยวทุกแห่งปิดตัวเงียบเนื่องจากผู้คนยังไม่กล้าเดินทาง


    แต่ในวันนี้ภาพเปลี่ยนไปชัดเจน เอเชียทีคเปิดบริการด้วยร้านค้ามากมายและพื้นที่สันทนาการหลายรูปแบบ มีทั้งสวนสนุก ชิงช้าสวรรค์ “เอเชียทีค สกาย” ความสูงกว่า 60 เมตรเปิดให้บริการเต็มที่ ประดับแสงไฟเจิดจ้าทำให้เอเชียทีคดึงดูดนักท่องเทียวมาเยือนไม่ขาดสาย

    รถทัวร์ขนาดใหญ่จอดเรียงราย นักท่องเที่ยวต่างชาติ มีทั้งจีน สิงคโปร์ เกาหลี และอีกหลายประเทศ รวมทั้งอินเดีย ตะวันออกกลาง และยุโรป เดินขวักไขว่ในพื้นที่ด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม หลังจากได้สัมผัสแม่เหล็กความบันเทิงใหม่ เช่น บ้านผีสิงที่เรียกความสนใจด้วยหุ่นซอมบี้ปีนป่ายเสาขึ้น-ลงตลอดเวลา รถม้าหมุนประดับไฟแสงสีเชิญชวนต้อนรับกลุ่มครอบครัว เสริมบรรยากาศความสนุกสนานในหลายมิติ ลมแม่น้ำและสีสันของเครื่องเล่นเหล่านี้ทำให้อากาศร้อนของเดือนมีนาคมผ่อนคลายแบบไม่รู้ตัว


เสน่ห์แสงสียามค่ำคืน


    ล่าสุดเอเชียทีคมีแม่เหล็กใหม่มาเสริมเสน่ห์และช่วยอัพเกรดให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถรองรับความต้องการระดับหรูหรา ด้วยภัตตาคารเรือสิริมหรรณพที่เปิดบริการเมื่อ 2 ปีก่อน และ “The CRYSTAL GRILL HOUSE” (เดอะ คริสตัลล์ กริลล์ เฮาส์) ห้องอาหารแบบคริสตัลเฮาส์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เปิดตัวล่าสุด เป็นเสน่ห์ใหม่ที่เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสมื้อค่ำริมน้ำกับเมนูพิเศษ ทั้งวัตถุดิบน้ำเข้าจากอเมริกา ออสเตรเลีย บรรจงย่างด้วยเตา Josper Grill จากสเปน เตาถ่านสมัยใหม่ที่นำไม้หลากหลายมาเผาย่างซึ่งมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ทำให้รสชาติของอาหารเด่นชัด มีเรื่องเล่าและที่มาอันน่าจดจำ


    อาหารเลิดรสจากวัตถุดิบนำเข้า เช่น เนื้อวัวจากฟาร์มธรรมชาติของออสเตรเลีย และวัตถุดิบระดับพรีเมียมจากหลายแหล่ง เมื่อรวมกับบรรยากาศอันสวยงามของ Crystal House ริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งมีวิวของเรือสิริมหรรณพเป็นองค์ประกอบภาพที่สวยงามตระการตา ยามอาทิตย์ลับขอบฟ้าริมน้ำทำให้มื้อค่ำที่นี่มีความพิเศษยิ่งขึ้น สายลมที่พัดผ่านจากแม่น้ำทำให้อากาศโปร่งสบาย และห้อง Crystal House ติดแอร์เย็นฉ่ำมีให้เลือกหลายขนาด ทำให้ที่นี่สามารถใช้เป็นสถานที่ดินเนอร์ในวาระพิเศษ หรือเจรจาธุรกิจในบรรยาศริมน้ำก็มีเสน่ห์ไม่ซ้ำใคร

    มนต์สเน่ห์ของศาสตร์และศิลป์ในการรังสรรค์อาหารและเครื่องดื่มที่คริสตัลล์เฮาส์ ร้านอาหารและบาร์แห่งนี้สลัดภาพจำกริลล์เฮาส์เดิมๆ ไปเกือบสิ้นเชิงด้วย Grill House โฉมใหม่ริมน้ำที่นอกจากบรรยากาศสวยงามแล้ว ที่นี่ยังสะท้อนภาพความเจริญรุ่งเรืองในการค้าทางน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา “สายน้ำแห่งราชา” อันเลื่องชื่อของกรุงเทพฯ เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยว แหล่งแฮงเอาท์ และแหล่งช็อปปิ้ง ที่เชื่อมโยงโลคอลโปรดักต์และไลฟ์สไตล์เข้าด้วยกัน ช่วยต่อยอดการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์วิถีชีวิตริมแม่น้ำของผู้คนในสยามประเทศจากอดีตสู่ปัจจุบันได้เป็นอย่างดี



    “เดอะ คริสตัลล์ กริลล์ เฮาส์” ตั้งอยู่ในเอเชียทีค ตรงข้ามเรือสิริมหรรณพ เรือใบสามเสาดัดแปลงใหม่ที่เคยล่องจากเมืองไทยไปทั่วโลกในช่วงต้น ค.ศ.1900 ก่อนจะมาถูกนำมาเป็นห้องอาหารสุดหรู ที่ย้อนอดีตการเดินทางในยุครุ่งโรจน์ให้ผู้คนได้สัมผัสบรรยากาศและความพิเศษในอดีต

    ส่วนเดอะคริสตัลล์กริลล์เฮาส์ เสริฟเมนูเริศรสหลากหลาย ที่สามารถเลือกนั่งริมน้ำในบรรยากาศเปิดโล่ง หรือห้องคริสตัลเฮาส์แบบส่วนตัวเปิดแอร์เย็นฉ่ำโดยไม่เสียบรรยากาศริมน้ำเพราะผนังกระจกคริสตัล สามารถชมวิวริมน้ำได้แบบพานอรามา

    พร้อมกันนี้ ยังสามารถผ่อนคลายด้วยซิกเนเจอร์ค็อกเทล รวมทั้งไวน์พรีเมียมที่เคาน์เตอร์บาร์ หรือนั่งทานอาหารที่เคาน์เตอร์แบบสบายเป็นกันเองในครัวแบบเปิด ที่ล้อมรอบด้วยเรือนกระจกส่องประกายระยิบระยับ หรือจะเลือกดื่มด่ำบรรยากาศริมน้ำบริเวณเทอเรซเปิดโล่ง พร้อมชมทัศนียภาพพระอาทิตย์ตกไปจนถึงยามที่แสงไฟจากเมืองสะท้อนเงาบนระลอกคลื่นของแม่น้ำ

    ด้วยสถานที่และข้อเสนอที่หลากหลายทำให้เดอะคริสตัลล์กริลล์เฮาส์ เหมาะสำหรับโอกาสพิเศษ ที่จะทำให้การรับประทานมื้อค่ำเป็นที่จดจำน่าประทับใจ และด้วยเวลาเปิดบริการที่ยาวนานทุกวันตั้งแต่ 16.30 - 00.00 น. (สั่งอาหารได้ถึง 23.30 น.) ยิ่งสะดวกคุ้มสำหรับมื้อค่ำในโอกาสพิเศษ และผ่อนคลายด้วยสายลมริมน้ำและอาหารรสเลิศ


    เมนูที่เสิร์ฟเน้นวัตถุดิบเนื้อวัวจากออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา โดยเลือกส่วนที่ดีที่สุดและอาหารทะเลสดนำเข้าปรุงตามสั่งผ่านกรรมวิธีจากเตาถ่าน “โจสเปอร์” ที่รังสรรค์กลิ่นหอมเฉพาะตัวเมนูพิเศษน่าจดจำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีหอยนางรมสดหลากหลายสายพันธุ์ อาหารเรียกน้ำย่อยนานาชนิดที่มาจากความคิดสร้างสรรค์ด้านอาหารของเชฟ รวมถึงของหวาน และไวน์พรีเมียมจากต่างประเทศให้เลือกตามความต้องการ

    อีกบรรยากาศที่เป็นจุดเด่นของ “กริลล์เฮาส์ คิทเช่น” คือครัวเปิดซึ่งลูกค้าสามารถมองเห็นความเป็นไปในครัวได้อย่างชัดเจน เป็นการเชื้อเชิญผู้มาเยือนเข้าสู่โลกของเชฟ เผยให้เห็นวัตถุดิบชั้นเลิศที่ปรุงง่ายๆ ด้วยเตาพิเศษที่ใช้ถ่านหลากหลาย ซึ่งแขกสามารถชมการปรุงอาหารและพูดคุยกับเชฟในขณะที่เขากำลังสร้างสรรค์จานพิเศษ ใต้หลังคากระจกที่แวดล้อมด้วยความเขียวขจีของต้นไม้และวิวของแม่น้ำเจ้าพระยา

    นอกจากนี้ยังมี “กริลล์เฮาส์บาร์” ซึ่งจัดที่นั่งบนสตูลของกลาสเฮาส์ในรูปแบบบาร์ที่เก๋ไก๋สไตล์วินเทจ เฝ้ามองมิกโซโลจิสต์มากความสามารถรังสรรค์ค็อกเทลและเครื่องดื่มตามสั่งต่างๆ ในพาวิลเลี่ยนกระจกหรูหรา รายล้อมด้วยต้นไม้ดอกไม้นานาชนิด


    ส่วนห้องคริสตัลกริลล์เฮาส์ ที่เป็นการจัดห้องรับประทานอาหารแบบไพรเวทด้วยความเป็นส่วนตัวที่หรูหรา มีทั้งหมด 5 ห้องให้สัมผัสถึงความรู้สึกหรูหราและเป็นส่วนตัว โดยพาวิลเลียนกระจกเหล่านี้ตั้งชื่อตามประเทศที่เคยค้าขายกับไทยในอดีต เช่น ห้องอเมริกา 6 ที่นั่ง, ห้องอินเดีย 6 ที่นั่ง, ห้องเปอร์เซีย 4 ที่นั่ง, ห้องจีน 4 ที่นั่ง และห้องญี่ปุ่น 6 ที่นั่ง

    โดยประเทศเหล่านี้ทำการค้าขายกับไทยในช่วงต้น ค.ศ. 1900 การออกแบบตกแต่งแต่ละห้อง มีเอกลักษณ์เฉพาะประเทศนั้นๆ มีกลิ่นไอของอารยธรรมจากอดีตถึงปัจจุบัน จะเรียกว่าเป็นมื้อค่ำในบรรยาศการค้าริมน้ำแบบหรูหราที่ย้อนอดีตสู่ปัจจุบัน กับความสุขที่ทุกคนสัมผัสได้

อ่านเพิ่มเติม: ​Toyota ประกาศปิดตำนานกว่า 43 ปี ยุติขายรถ Camry ในตลาดญี่ปุ่น


ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine