ธุรกิจเรือสำราญยังคงมีการเติบโตที่น่าสนใจ ล่าสุด StarCruises เปิดเส้นทางเดินเรือ Star Voyager จากแหลมฉบัง-สมุย-สิงคโปร์-แหลมฉบัง ล่อง 6 วัน 5 คืนจัดโปรแรงราคาพิเศษ 7-12 พ.ค.นี้
เรือสำราญ Star Voyager เริ่มต้นการเดินทางครั้งแรกจากกรุงเทพมหานคร (ท่าเรือแหลมฉบัง) อย่างเป็นทางการมาตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.2568 เป็นเที่ยวแรก และกำลังจะเปิดเที่ยวล่าสุดพร้อมโปรโมชั่นราคาพิเศษสำหรับวันที่ 7-12 พ.ค. ให้คนไทยสัมผัสการเที่ยวเรือสำราญในราคาที่จับต้องได้ เริ่มต้นเฉลี่ยต่อหัวที่ 19,900 บาทสำหรับการล่องเรือ 6 วัน 5 คืน พร้อมสันทนาการเต็มรูปแบบ อาหารครบทุกมื้อ สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวเรือสำราญระดับเอเชีย ด้วยเรือขนาดกลางและบริการระดับสากล
แม้เพิ่งเปิดเส้นทางเดินเรือใหม่ แต่ StarCruises ไม่ใช่มือใหม่เพราะมีประสบการณ์ในธุรกิจเรือสำราญมายาวนานกว่า 30 ปี ด้วยบริการทั้งในเอเชียและภูมิภาคอื่นๆ เป็นการรีแบรนด์ใหม่อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมเฉลิมฉลองการออกเดินทางครั้งแรกอย่างเป็นทางการจากประเทศไทย ด้วยเรือสำราญ Star Voyager ณ ท่าเรือแหลมฉบัง เปิดประตูธุรกิจเรือสำราญจากประเทศไทย
“การเปิดเส้นทางใหม่นี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญของทั้ง StarCruises และประเทศไทย ในการตอกย้ำสถานะของไทยในฐานะศูนย์กลางการล่องเรือแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ไมเคิล โกห์ ประธานบริษัท StarDream Cruises กล่าว และว่า เรือ Star Voyager ได้ปรับปรุงครั้งใหญ่ด้วยงบประมาณกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ พร้อมมอบประสบการณ์ล่องเรือสุดพิเศษ ให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ โดยมีจุดเริ่มต้นการเดินทางจากประเทศไทย เส้นทางพิเศษ 5 คืน เริ่มออกเดินทางครั้งแรก 22 เม.ย. 2568 และมีรอบเพิ่มเติมในวันที่ 7 พ.ค. 2568
โดยเส้นทางเดินเรือจะจอดแวะที่เกาะสมุยและประเทศสิงคโปร์ การเปิดเส้นทางใหม่นี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดการเติบโตของนักท่องเที่ยว และกระตุ้นการท่องเที่ยวเรือสำราญให้กับประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และเกาะสมุย ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ในโอกาสเปิดเส้นทางเดินเรือใหม่ในครั้งนี้ ภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เข้าร่วมพิธีต้อนรับและร่วมแสดงความยินดีในรอบการเดินเรือปฐมฤกษ์ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมกับ ไมเคิล โกห์ ประธานบริษัท StarDream Cruises รวมถึงคณะเจ้าหน้าที่จากภาครัฐและหน่วยงานท่องเที่ยวต่างๆ
“เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้นำเรือสำราญ Star Voyager มาเริ่มต้นออกเดินทางจากประเทศไทยและได้ทำการเปิดตัวและรีแบรนด์ StarCruises ในประเทศไทย” ไมเคิล กล่าวว่าการเปิดตัวในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการล่องเรือของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวหลากหลายกลุ่ม หลากหลายประเทศให้เดินทางมายังเมืองไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้เติบโตยิ่งขึ้น
ด้าน ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “นับเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของเราในการยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการเดินเรือของประเทศไทยให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทย” พร้อมย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทย ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทางเรือสำราญ และเน้นว่า “งานในวันนี้สะท้อนความร่วมมือร่วมใจของทีมงานที่ทุ่มเท พันธมิตร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ที่ร่วมกันทำงานอย่างไม่ย่อท้อ เพื่อผลักดันให้วิสัยทัศน์นี้กลายเป็นความจริง ความทุ่มเทและแรงสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของทุกคนทำให้เราสามารถนำเสนอมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า ทัศนียภาพอันสวยงาม และการต้อนรับอันอบอุ่นของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลกได้อย่างภาคภูมิใจ”
รอบพิเศษ 7 พ.ค.นี้
ประสบการณ์ท่องเที่ยวเรือสำราญเป็นการผจญภัยรูปแบบหนึ่ง ที่มีความหลากหลายทั้งความบันเทิง และกิจกรรมมากมายที่นักเดินทางชาวไทยจะได้สัมผัส นับตั้งแต่ออกเดินทางจากท่าเรือแหลมฉบัง เส้นทางเดินเรือ 5 คืนนี้ จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสเสน่ห์ของเกาะสมุย และความมีชีวิตชีวาของสิงคโปร์ ก่อนกลับมายังกรุงเทพฯ มอบประสบการณ์ท่องเที่ยวมีระดับและวันหยุดที่แสนน่าจดจำให้กับทุกท่าน
ไฮไลต์การเดินทาง คือเสน่ห์ของเกาะสวรรค์อย่างสมุย และความทันสมัยของสิงคโปร์ หนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมตลอดกาล ทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เกาะแห่งนี้ยิ่งทวีความงดงามและน่าหลงใหลเมื่อเดินทางมาถึงด้วยเรือสำราญ ขณะที่เรือค่อยๆ แล่นเข้าใกล้ชายฝั่ง ผู้โดยสารจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันตระการตาของหาดทรายสีขาวละเอียด เรียงรายไปด้วยต้นมะพร้าวและทะเลสีฟ้าใส เกาะสมุยมีประสบการณ์อันน่าจดจำให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนริมชายหาด การเดินป่าผจญภัยสู่ธรรมชาติ น้ำตกที่ซ่อนตัวอยู่ และอาหารพื้นเมืองรสเลิศ
จุดหมายถัดไปคือประเทศสิงคโปร์ เมื่อล่องเรือเทียบท่าที่ Singapore Cruise Centre ผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกสบายในทุกขั้นตอนการเข้าเมือง ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองด้วยระบบอัตโนมัติ จากนั้นสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยัง HarbourFront Centre และ VivoCity ได้อย่างง่ายดาย
จุดหมายทั้งสองพื้นที่นี้ เป็นทั้งศูนย์รวมแหล่งช็อปปิ้ง ร้านอาหาร และรวมระบบขนส่งสาธารณะที่ครบครัน อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า MRT และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ทั่วสิงคโปร์ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลกได้อย่างสะดวก เช่น Gardens by the Bay, Merlion Park รวมถึงย่านวัฒนธรรมที่น่าสนใจอย่าง ไชน่าทาวน์ ลิตเติ้ลอินเดีย และกัมโปงกลาม (Kampong Glam) สำหรับสายช็อปปิ้งก็สามารถเพลิดเพลินกับแหล่งช็อบปิ้งบริเวณใกล้เคียงอย่าง VivoCity, HarbourFront Centre ไปจนถึงร้านบูติกหรูหราบนถนน Orchard Road
ประสบการณ์หลากหลาย
ในระหว่างทริปล่องเรือ 5 คืน เส้นทาง “เกาะสมุย – สิงคโปร์” ผู้โดยสารจะได้ใช้เวลา 2 วันเต็มในการล่องเรือกลางมหาสมุทร ท่ามกลางบรรยากาศแสนพิเศษ พร้อมเพลิดเพลินไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน กิจกรรมหลากหลาย และอาหารรสเลิศที่คัดสรรอย่างพิถีพิถันบนเรือ Star Voyager โดยประเภทที่พักบนเรือมีให้เลือกหลายรูปแบบ ตั้งแต่ห้องพักแบบ Interior (ห้องไม่มีหน้าต่าง), Oceanview (ห้องวิวทะเล), และ Balcony (ห้องพร้อมระเบียงส่วนตัว) ไปจนถึงห้องสวีทหรูอย่าง Palace Suites ซึ่งมาพร้อมสิทธิพิเศษ เช่น การเข้าใช้พื้นที่ส่วนตัวเฉพาะแขกของ Palace, บริการพนักงานดูแลส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง และประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้โดยสารกรณีพิเศษ
กิจกรรมและความบันเทิงบนเรือ มีให้เลือกหลากหลาย เช่น สวนสนุก Adventure Park, สวนน้ำ Aqua Park และสไลเดอร์, สวนน้ำสำหรับเด็ก และกำแพงปีนหน้าผาจำลอง, ลานโบว์ลิ่ง, ซิปไลน์ และกิจกรรมในธีมพิเศษต่างๆ, การแสดง Live Performances สุดตระการตา ณ โรงละคร Zodiac Theatre
ด้วยเหตุนี้การท่องเที่ยวบนเรือสำราญจึงเหมาะกับนักเดินทางทุกกลุ่ม ทั้งครอบครัว คู่รัก หรือการพักผ่อนแบบมีระดับกับเรือ Star Voyager ด้วยประสบการณ์ล่องเรือระดับโลก ที่ตอบโจทย์ทุกรูปแบบของนักเดินทาง
ภาพ: StarCruises
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : อโกด้า เผย คนไทยนิยมดำน้ำ 'เกาะสิมิลัน เกาะเต่า' และ 75% ของจุดหมายอันดับ 1 นักดำน้ำชาวเอเชีย คือตาม 'แนวปะการัง'
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine