แอสคอทท์ ปักหมุด 'Somerset สุขุมวิท 71' มั่นใจทำเลตอบโจทย์นักท่องเที่ยว คาดครึ่งหลังปี 68 ยอดจองห้องพัก 80% - Forbes Thailand

แอสคอทท์ ปักหมุด 'Somerset สุขุมวิท 71' มั่นใจทำเลตอบโจทย์นักท่องเที่ยว คาดครึ่งหลังปี 68 ยอดจองห้องพัก 80%

ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด ประเทศไทย ปักหมุดแบรนด์ 'Somerset' ย่านสุขุมวิท 71 มั่นใจทำเลที่พักตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคใหม่ คาดครึ่งหลังปี 68 ยอดจองห้องพักแน่นไม่ต่ำกว่า 80%


    คณิต แสงมุกดา ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยและลาว ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด ประเทศไทย เผยถึงความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมเดิมในย่านสุขุมวิท 71 เพื่อทำการปรับปรุงรูปโฉมใหม่ให้กลายมาเป็น 'Somerset Sukhumvit 71' แบรนด์โรงแรมที่พักในระดับสากลภายใต้การดูแลของบริษัท ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด ประเทศไทย ทั้งนี้จากความร่วมมือดังกล่าว เป็นผลมาจากการมองเห็นศักยภาพของทำเลที่ตั้งในย่านนี้ที่มีความโดดเด่น เพราะอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนและยังใกล้กับถนนเส้นสุขุมวิทที่มีรถไฟฟ้า BTS และถนนเพชรบุรี, อยู่ไม่ไกลจากสถานี Airport Link ที่เชื่อมต่อการเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้ง่ายและรวดเร็ว และยังใกล้กับสนามกีฬาหรือสถานที่จัดงานคอนเสิร์ตต่างๆ จึงเหมาะเป็นตัวเลือกด้านที่พักสำหรับเหล่านักเดินทางและนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบายและความปลอดภัยในระดับมาตรฐานสากลด้วยราคาที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้น

    "นอกจากเรื่องของทำเลที่ตั้งแล้ว จุดเด่นสำคัญที่ทำให้โรงแรม 'Somerset สุขุมวิท 71' แตกต่างจากที่อื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง ก็คือ จากเดิมธุรกิจของเราเติบโตมาจากการให้บริการ Service Apartment สำหรับการเข้าพักระยะยาว หลังจากนั้นเราจึงขยายมาเป็นรูปแบบ hybrid ด้วยการให้บริการที่พักสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนที่เหมาะสมในแต่ละสาขา เรามีห้องพักให้เลือกหลากหลายสไตล์เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า เริ่มตั้งแต่ Studio rooms ต่อเนื่องไปจนถึง 2-Bedroom Apartments พร้อมห้องครัว จึงเหมาะสำหรับลูกค้าทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นนักเดินทางคนเดียว คู่รัก กลุ่มเพื่อน หรือแม้กระทั่งการมาพักแบบครอบครัวที่สามารถเลือกเข้าพักได้ทั้งในแบบระยะสั้นและระยะยาว"



    บรรยากาศอันสวยงาม ผ่อนคลาย จากการเลือกใช้โทนสีขาวละมุน ตัดกับสีเขียวและน้ำตาล รวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่ทำจากไม้ ถือเป็นตัวสะท้อนคอนเซ็ปต์ให้กลุ่มลูกค้าผู้เข้าพักได้สัมผัสถึงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี และยังแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) และสุขภาพ (Wellness) ซึ่งถือเป็นเทรนด์ที่ผู้คนทั่วโลกต่างตระหนักถึงและให้ความสำคัญ ทางโรงแรมเองจึงได้เลือกใช้คียการ์ดที่ทำจากไม้ไผ่, ผลิตภัณฑ์อาบน้ำแบบเติมเพื่อลดการใช้พลาสติก, เครื่องใช้ในห้องน้ำจากวัสดุธรรมชาติทำจากวัสดุรีไซเคิล เช่น แปรงสีฟัน หวี และมีดโกน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเลือกใช้ไฟ LED เพื่อประหยัดพลังงานในห้องพักและพื้นที่ส่วนกลาง เป็นต้น

    ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของโรงแรมแห่งนี้ ก็ยังมีสระว่ายน้ำ ร้านอาหาร และ Rooftop Bar บาร์บนดาดฟ้าที่สามารถดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันสวยงามของกรุงเทพทั้งกลางวันและยามค่ำคืน เหมาะสำหรับการพักผ่อนและเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของการปาร์ตี้สังสรรค์ได้เป็นอย่างดี




    ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยและลาว ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด ประเทศไทย ยังบอกเล่าเพิ่มเติมด้วยว่า  "หลังการเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการนับตั้งแต่ 10 ธันวาคมปลายปีก่อนก็ได้กระแสตอบรับจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี โดยลูกค้าของเราจะเน้นในกลุ่มนักธุรกิจเป็นหลัก รวมถึงเหล่านักเดินทางท่องเที่ยวทั่วไปและกลุ่มที่เรียกว่า Bleisure ซึ่งหมายถึงกลุ่มนักเดินทางที่เน้นการทำงาน, ติดต่อธุรกิจ ควบคู่ไปกับทริปการเดินทางท่องเที่ยวไปในตัว ซึ่งหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในครั้งนี้ เรามั่นใจว่าผลตอบรับในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 จะมียอดนักท่องเที่ยวจองห้องพักมากขึ้นเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 80% จากจำนวนห้องพักทั้งหมดที่มีอยู่ 141 ห้องได้อย่างแน่นอน"

    อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน มีแบรนด์โรงแรมที่พักทั้งหมดที่อยู่ภายในการบริหารของบริษัท ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด ประเทศไทย จำนวน 27 แห่ง, จำแนกออกเป็นโรงแรมทั้งหมดที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ จำนวน 23 แห่ง ซึ่งในส่วนของแบรนด์ Somerset นี้ มีจำนวนทั้งหมด 9 แห่ง ได้แก่สาขา เอกมัย, ทองหล่อ. อโศก, พระราม 9 (รัชดา), สวนพลู, สุขุมวิท 71, ศรีราชา, พัทยา, และที่เวียงจันทน์ ประเทศลาว


ภาพ : Somerset Sukhumvit 71 




เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : อานิสงส์ The White Lotus ซีซั่น 3 อโกด้าเผย ‘เกาะสมุย’ สุดฮอต ยอดค้นหาที่พักเพิ่มขึ้น 12%

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine