SiteMinder เผยผลสำรวจ การปรับยอดจองห้องพักในไทย - Forbes Thailand

SiteMinder เผยผลสำรวจ การปรับยอดจองห้องพักในไทย

FORBES THAILAND / ADMIN
14 Oct 2020 | 06:02 PM
READ 3808

SiteMinder แพลตฟอร์มตัวกลางในการเข้าเชื่อมลูกค้าให้กับธุรกิจโรงแรม เผยผู้ให้บริการที่พักทั่วโลกที่มีกว่า 1 ล้านรายจะเผชิญกับ 5 ระยะการปรับตัวในวงจรการจองที่พัก ชี้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวไทยท่ามกลางโควิด-19

ท่ามวิกฤตการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า SiteMinder ได้รายงานการศึกษาพฤติกรรมและความชอบที่เปลี่ยนไปของนักท่องเที่ยวเป็นระยะเวลา 6 เดือน ภายใต้ชื่อ Booming to Privilege: The New Realities for a Hotel Industry in Need of a Reset จากรายงานได้สรุปเป็นระยะการปรับตัวในวงจรการจองที่พัก ได้ 5 ระดับ ได้แก่ ระยะเติบโตจากการท่องเที่ยวในประเทศ (Domestic Acceleration), ระยะคงที่ (Plateauing), ระยะอ่อนไหว (Flux), ระยะตอบรับกับความเปลี่ยนแปลง (Embracing), ระยะเติบโตจากการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ (International Acceleration) ซึ่งจากการอ้างอิงจาก 5 ระยะการปรับตัวดังกล่าว อุตสาหกรรมโรงแรมของประเทศไทยกำลังอยู่ในระยะคงที่ (Plateauing) หลังจากการจองที่พักในประเทศเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในเดือน พฤษภาคม และ มิถุนายน และค่อยๆ เข้าสู่ระยะคงที่ในอัตราร้อยละ 40 ของมูลค่าการจองที่พักของปี 2019 โดยรายงานชิ้นล่าสุดนี้ได้ดึงข้อมูลการจองที่พักของโรงแรมกว่า 35,000 แห่ง แบบเรียลไทม์จาก World Hotel Index ของ SiteMinder และสำรวจความคิดเห็นจากนักท่องเที่ยวชาวไทย ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี เม็กซิโก สเปน อังกฤษ และอเมริกา กว่า 5,000 คน รวมถึงการพูดคุยกับผู้ให้บริการที่พัก 6 เดือนหลังจากยอดการจองทั่วโลกตกไปต่ำกว่าร้อยละ 9 ของอัตราการจองเดือนเมษายน ปี 2019 ซึ่งเป็นอัตราการจองที่ต่ำที่สุด “หลายๆ คนที่ทำงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวคงสงสัยว่าอุตสาหกรรมนี้จะมีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ ซึ่งเราคิดว่ามันจะต้องกลับไปอย่างแน่นอนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพียงแต่ว่าอาจมีหลายสิ่งที่จะเปลี่ยนไป ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแบบถาวร” Brad Haines รองประธานกรรมการบริษัท SiteMinder ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค กล่าว
SiteMinder
Brad Haines รองประธานกรรมการบริษัท SiteMinder ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค (Photo Credit: Bangkok Post)
รายงานฉบับล่าสุดยังเผยว่ามีหลายเทรนด์ที่เกิดขึ้นในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นการจองทริปแบบกะทันหัน ความต้องการท่องเที่ยวเมืองชายฝั่งหรือภูมิภาคที่มีประชากรน้อย มากกว่าเมืองใหญ่อย่างเห็นได้ชัดเจน ตามรายงานของSiteMinder ที่ได้รายงานไปเมื่อเดือนพฤษภาคม อย่างในประเทศไทย ที่มีปริมาณการจองที่พักในกรุงเทพฯ เมื่อเทียบกับปีก่อนเพียงร้อยละ 29 แต่มีการจองที่พักบนเกาะสมุยมากกว่าปีที่แล้วสูงถึงร้อยละ 37 แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงระดับมหภาคอื่นๆ ได้แก่การลดระยะเวลาการเดินทางที่สั้นลง ความต้องการความยืดหยุ่นสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การยกเลิก/แก้ไขการจองที่พักโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งกลายมาเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจเลือกที่พักของนักท่องเที่ยวจำนวนเกือบ 1 ใน 3 “COVID-19 เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล ทำให้เราเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจที่ทุกคนได้รับผลกระทบอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการการท่องเที่ยวและที่พัก หรือตัวนักท่องเที่ยวเองที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้" Brad Haines กล่าวเสริม “การเดินทางท่องเที่ยวไม่ใช่สิ่งที่เราจะสามารถทำแบบทิ้งขว้าง หรือไม่เห็นความสำคัญได้อีกต่อไป ความสามารถในการเดินทางท่องเที่ยวอย่างเสรีกลายเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ใครก็ทำได้   ส่งผลให้ในอนาคต ลูกค้าจะมีความระมัดระวังในการเลือกมากขึ้น และใช้เวลาเตรียมตัวหรือจองที่พักสั้นลง ทำให้การคาดการณ์ยอดการจองที่พักในอุตสหากรรมโรงแรมทำได้ยากมากขึ้น” ผลสำรวจของ SiteMInder ยังพบอีกว่า แม้ว่าการระบาดใหญ่ในครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของหลายๆ คน โดยมากกว่า 3 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ “มาก” หรือ “ค่อนข้างมาก” แต่มากกว่าร้อยละ 85 บอกว่าพวกเขามีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอีกภายในสิ้นปี 2564 อ่านเพิ่มเติม: San Miguel De Allende เมืองเล็กๆ ที่ดีที่สุดในโลก
ไม่พลาดบทความด้านกลยุทธ์องค์กรและธุรกิจ ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine และ ทวิตเตอร์ Forbes Thailand