“บันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์” ของกลุ่ม “เครสตัน ฮิลล์” หลังได้กลุ่มบันยันทรีเข้ามาร่วมพัฒนาเป็น Branded Residences ถือเป็นอินเตอร์เนชันแนลเรสซิเดนซ์แบรนด์แรกที่รุกเข้ามาในพื้นที่เขาใหญ่ ทางโครงการจึงได้นำสื่อมวลชนจากส่วนกลางลงพื้นที่สัมผัสบรรยากาศจริงของโครงการ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ร่มรื่น ปกคลุมด้วยพันธุ์ไม้หลากหลาย อากาศเย็นสบายตลอดปี ถือเป็นทำเลที่ใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุดโครงการหนึ่ง
ชยดิฐ หุตานุวัชร์ ประธานกรรมการ บริษัท เครสตั้นโฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า Branded Residences เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก “รายงานของ Knight Frank ในปี 2566 คาดว่า ตลาด Branded Residences ระดับลักชัวรี่จะเติบโตขึ้น 55% ภายในปี 2569” ดังนั้น บริษัทจึงได้จับมือกับบันยันทรีในการรังสรรค์ Luxury Branded Residence ระดับมาสเตอร์พีซขึ้น และในช่วงที่ผ่านมาการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เขาใหญ่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า โดยราคาที่ดินมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งโครงการนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ ได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของเขาใหญ่และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ทางด่วนและรถไฟความเร็วสูงในอนาคต ทำให้การเดินทางจากกรุงเทพฯ สะดวกขึ้นและใช้เวลาน้อยลง
ข้อเสนอเพื่อการลงทุน
โครงการนี้เป็นการพัฒนาขนาดใหญ่ มูลค่ากว่า 1.7 หมื่นล้านบาท เป็นความร่วมมือระหว่างบันยันทรี กลุ่มธุรกิจบริการชั้นนำของโลกที่มีแบรนด์โรงแรมในเครือมากมาย และบริษัท เครสตั้นโฮลดิ้ง จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย โดยโครงการตั้งอยู่บนที่ดิน 226 ไร่ โอบล้อมด้วยทะเลสาบขนาด 30 ไร่ ท่ามกลางหุบเขาอันสวยงามของอุทยานแห่งชาติ ด้วยแนวคิดการออกแบบ “Sophisticated Relaxation” มุ่งยกระดับประสบการณ์การพักอาศัยแบบลักชัวรี่ขึ้นไปอีกขั้น ผ่านการผสมผสานความงามของธรรมชาติ เข้ากับความสะดวกสบาย และไลฟ์สไตล์แบบหรูหรา
ผู้เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในโครงการบันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์ จะได้รับเอกสิทธิ์ในโปรแกรมเอ็กซ์คลูซีฟของเครือบันยันทรีอย่าง "The Sanctuary Club" ที่จะได้สิทธิพิเศษและส่วนลดเมื่อเข้ารับบริการในเครือข่ายบันยันทรีทั่วโลก “ลูกค้าที่ซื้อโครงการบันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์ ได้สิทธิ์เข้าพักอาศัย 60 วันต่อปี ซึ่งสิทธิ์นี้สามารถใช้พักอาศัยโรงแรมรีสอร์ตในเครือบันยันทรีได้ทั่วโลกได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด” ผู้บริหารเครสตั้นโฮลดิ้งเผยและว่า นี่เป็นอีกจุดขายที่สำคัญ
“ตอนนี้ยอดจองรอบ pre-sale ของเราแตะ 1 พันล้านบาทเรียบร้อยแล้ว สำหรับเฟสที่ 2 ของโครงการเราจะนำเสนอพูลวิลล่าเพิ่มอีก 13 หลัง และคอนโดมีเดียมหรูเพิ่มอีก 18 อาคาร โดยในเฟสนี้จะเปิดตัวในปี 2568 และคาดว่าจะขายหมดภายในปี 2570" ผู้บริหารบันยันทรีเผย
การขายเฟสแรกโครงการนำเสนอพูลวิลล่า 4 ห้องนอนทั้งสิ้น 21 ยูนิตตกแต่งครบครันขนาด 435 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้นที่ 70 ล้านบาท และอาคารคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์ 16 อาคาร ขนาด 1, 2 และ 3 ห้องนอน รวมถึงเพนต์เฮาส์ตั้งแต่ 64-295 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้นที่ 15 ล้านบาท โดยออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ
อิงศาสตร์ฮวงจุ้ย
สำหรับการก่อสร้างของโครงการจะแบ่งออกเป็น 3 เฟส ได้แก่ ที่พักอาศัยเฟสที่ 1 (ปี 2567-2569) โรงแรม (ปี 2568-2570) และที่พักอาศัยเฟสที่ 2 (ปี 2569-2571) สำนักงานขายโครงการได้เปิดให้ผู้สนใจเข้ามาเยี่ยมชมได้ตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีห้องตัวอย่างสำหรับยูนิตแบบ 1, 2 และ 3 ห้องนอน ของโครงการในส่วนคอนโดมิเนียม โดยการพัฒนาในเฟสที่ 2 และ 3 จะมีทั้งคอนโดมิเนียม พูลวิลล่า และโรงแรม รวมถึงแบรนด์เวญา ซึ่งจะเปิดบริการด้านการดูแลสุขภาพแบบเวลเนสเซ็นเตอร์ในอนาคต
ทั้งนี้ เพื่อสร้างประสบการณ์การอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน บันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์ ได้ผสานหลักฮวงจุ้ยเข้ากับการออกแบบพื้นที่และการออกแบบภายในโดยให้ความสำคัญกับความสมดุลของธาตุทั้ง 5 ได้แก่ ไม้ ไฟ ดิน โลหะ และน้ำ ซึ่งแต่ละธาตุล้วนมีคุณสมบัติและพลังงานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัย โดยมี ทศพร ศรีตุลา หรือหมอช้าง ผู้เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์ไทยและฮวงจุ้ยเป็นที่ปรึกษา หมอช้างได้กล่าวถึงโครงการนี้ว่า เป็นทำเลที่มีปัจจัยบวกหลายอย่าง เช่น แสงแดดที่เพียงพอ และการไหลเวียนของอากาศปลอดโปร่ง
โดยตามความเชื่อของฮวงจุ้ยองค์ประกอบเหล่านี้ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีความเจริญรุ่งเรือง แสงแดดเป็นตัวแทนของพลังงานด้านบวก (หยาง) ที่เชื่อกันว่าจะช่วยขจัดพลังงานด้านลบ (หยิน) เพื่อเพิ่มโชคลาภให้กับครอบครัว นอกจากนี้ สำหรับใครที่อยากเสริมเรื่องความร่ำรวยแนะนำให้เลือกอสังหาฯ ที่มองเห็นวิวริมน้ำ ไม่ว่าจะเป็นสระน้ำ ทะเล หรือทะเลสาบ เนื่องจากน้ำเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งตามศาสตร์ฮวงจุ้ย
โรงแรมรักษ์โลก
บันยันทรีกรุ๊ปเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจบริการอิสระชั้นนำของโลกที่มีแบรนด์โรงแรมในเครือมากมาย มีเป้าหมายในการมอบบริการและความเป็นอยู่ที่ดีภายใต้ดีไซน์การออกแบบที่เน้นการสร้างประสบการณ์ที่เป็นเลิศ โดยบันยันทรีกรุ๊ปบริหารและให้บริการในธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต สปา แกลเลอรี สนามกอล์ฟ และเรสซิเดนซ์ ภายใต้แบรนด์ที่ได้รับรางวัลและเป็นที่ยอมรับระดับโลกทั้ง 10 แบรนด์ ได้แก่ บันยันทรี (Banyan Tree), อังสนา (Angsana), แคสเซีย (Cassia), ดาหวา (Dhawa), และลากูน่า (Laguna) รวมถึงแบรนด์ใหม่ๆ ที่น่าจับตามอง ได้แก่ โฮม (Homm), แกร์เรีย (Garrya) และฟอลลิโอ (Folio) และ 2 แบรนด์ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว ได้แก่ เอสเคป (Escape) และเวญา (Veya)
สถาบันการบริหารจัดการบันยันทรี (Banyan Tree Management Academy) ก่อตั้งขึ้นในปี 2551 โดยมุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรและความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการ โดยมีบุคลากรภายใต้การดูแลกว่า 10,000 คนใน 23 ประเทศ กลุ่มบันยันทรียังได้รับการยกย่องเรื่องการยึดมั่นในการรักษาสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาชุมชนผ่านมูลนิธิบันยันทรี โกลบอล (Banyan Tree Global Foundation) สำหรับการดำเนินการโรงแรม 70 แห่งใน 17 ประเทศ
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ 'โฮม่า เชิงทะเล' จ.ภูเก็ต เปิดตัว 2 เดือน ยอดจองเกินครึ่ง 55% นักเดินทางเน้นเช่าห้องพักข้ามปีสูง 80%