โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ (Dusit Thani Bangkok) โรงแรมเรือธงระดับตำนานของ “ดุสิตธานี” ประกาศความพร้อมกลับมาเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 27 กันยายน 2567 หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และเปิดตัวอีกครั้งในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค (Dusit Central Park) พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้เข้าพักกลุ่มแรกที่จะได้สัมผัสกับบทใหม่แห่งงานบริการระดับตำนาน
โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ โฉมใหม่ พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 27 กันยายน 2567 และมอบข้อเสนอพิเศษ ‘An Icon Reimagined’ ด้วยราคาห้องพักเริ่มต้น 12,000++ บาท พร้อมเครดิตพิเศษมูลค่า 2,700 บาทสุทธิสำหรับทุกคืนที่เข้าพัก ให้ได้เพลิดเพลินในบริการอาหารและเครื่องดื่มหรือสปาของโรงแรม เพื่อให้ทุกท่านที่คิดถึงได้สัมผัสประสบการณ์พักผ่อนเหนือระดับของโรงแรมเรือธงระดับตำนานของกลุ่มดุสิตธานี
โดยข้อเสนอพิเศษนี้สามารถสำรองได้ผ่าน dusit.com ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2567 สำหรับการเข้าพักตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2567 ถึง 31 มีนาคม 2568
เอเดรียน รูดิน กรรมการผู้จัดการของ ดุสิตธานี กรุงเทพ เปิดเผยว่า โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ โฉมใหม่ กลับมาพร้อมกับห้องพักจำนวน 257 ห้อง และยังมีห้องสวีทที่ออกแบบโดย André Fu Studio ซึ่งเป็นดีไซน์สตูดิโอจากฮ่องกงที่ผลงานได้รับการยกย่องในระดับสากล
โดยขนาดของห้องพักจะเริ่มที่ 50 ตร.ม. มาพร้อมกระจกบานใหญ่สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน เพื่อเพิ่มความรู้สึกปลอดโปร่งและให้ผู้เข้าพักได้มองเห็นทัศนียภาพของสวนลุมพินีแบบพาโนรามา ทุกห้องมาพร้อมพื้นที่ใช้สอยซึ่งออกแบบมาอย่างชาญฉลาดและใช้ประโยชน์ได้จริง รวมถึงมุมนั่งเล่นเพื่อคลายอิริยาบถจากการเดินทาง หรือพักผ่อนตามอัธยาศัย
นอกจากห้องพักอันหรูหราแล้ว โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ยังได้พัฒนาทุกประสบการณ์ให้เหนือระดับยิ่งขึ้นเพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ใช้บริการที่หลากหลาย ตั้งแต่แนวคิดด้านสุขภาพองค์รวมซึ่งถือเป็นซิกเนเจอร์ที่ทำมาโดยตลอด ร้านอาหารที่จะมีเชฟชื่อดังมาปรุงแต่ละจานอย่างประณีต และรูฟท็อปบาร์สุดชิคบนชั้นสูงสุดของโรงแรมที่ได้มิกโซโลจิสต์ระดับรางวัลมาออกแบบเครื่องดื่มแก้วพิเศษ
โรงแรมยังมีห้องประชุมขนาดกว้างขวางกว่า 5,000 ตร. ม. สำหรับจัดเลี้ยงและทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งรวมถึงห้องแกรนด์บอลรูมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เพดานสูงจากพื้นกว่า 8 เมตร สามารถมองเห็นวิวของสวนลุมพินี และเหมาะสมกับการจัดงานทุกประเภท
โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ จะคงไว้ซึ่งภาพลักษณ์ระดับตำนาน โดยอาคารใหม่หลังนี้ยังคงมียอดแหลมสีทองประดับไว้ มองเห็นเด่นแต่ไกล โดยยอดแหลมสีทองนี้เป็นงานหัตถกรรมทำมือทั้งชิ้น ประกอบขึ้นจากไม้สักทองซึ่งเป็นผลงานของศิลปินท้องถิ่นชาวไทยผู้มากความสามารถ เหมือนเป็นจุดเชื่อมอย่างไร้รอยต่อแห่งยุคสมัย เป็นตัวแทนของการเปลี่ยนผ่านที่มองไปข้างหน้า แต่ยังคงไม่ลืมรากเหง้าและมรดกที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน
“พวกเรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้เปิดตัว โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ โฉมใหม่ และอยากชวนทุกคนร่วมนับถอยหลังถึงวันเปิดตัวในเดือนกันยายนนี้ เพราะการกลับมาของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ไม่ใช่เป็นเพียงการสร้างทุกอย่างขึ้นใหม่ แต่นับเป็นการเกิดใหม่อีกครั้ง
“เราใช้ประวัติศาสตร์แห่งงานบริการกว่า 75 ปี ของโรงแรมมาร้อยเรียงเพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ ให้ได้มาซึ่งสถาปัตยกรรมอันงดงามร่วมสมัย แต่ยังคงมีเรื่องราวล้ำค่าที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน เพื่อให้แปลงพื้นที่เดิมแห่งนี้ให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ต้อนรับแฟนของดุสิตให้กลับมาใช้บริการอีกครั้ง
“และเรายังพร้อมทำความรู้จักนักเดินทางรุ่นใหม่ทุกคน ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษที่ท่านจะได้เป็นผู้เข้าพักกลุ่มแรกในการสัมผัสประสบการณ์ระดับตำนานครั้งใหม่ โดยเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มอบงานบริการที่เหนือความคาดหมาย จากทั้งความสง่างามเหนือกาลเวลาและความหรูหราสมัยใหม่ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของดุสิตธานี” เอเดรียน รูดิน กรรมการผู้จัดการของ ดุสิตธานี กรุงเทพ กล่าว
นอกจากการเปิดตัวโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ โฉมใหม่ในปีนี้แล้ว โครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ยังประกอบด้วยที่พักระดับอัลตร้า ลักชูรี ภายใต้โครงการ ดุสิต เรสซิเดนเซส และ ดุสิต พาร์คไซด์ นอกจากนี้ยังมีอาคารสำนักงานล้ำสมัย ศูนย์การค้าปลีกระดับไฮเอนด์ และสวนลอยฟ้าขนาด 11,200 ตร.ม. โดยทั้งหมดมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2568
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : AWC ผนึก Melia ร่วมพัฒนาสองโรงแรมใหม่ในพัทยา
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine