"เที่ยวภูเก็ต" มุมมองใหม่หลังแซนด์บ็อกซ์ กับ “คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์” - Forbes Thailand

"เที่ยวภูเก็ต" มุมมองใหม่หลังแซนด์บ็อกซ์ กับ “คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์”

ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องเที่ยวภูเก็ต" ใครๆ ก็นึกถึงทะเล ชายหาดที่สวยงามของฝั่งอันดามันซึ่งขึ้นชื่ออยู่หลายหาดและเกาะแก่งน้อยใหญ่ที่เหล่ามหาเศรษฐีแวะเวียนด้วยเรือยอร์ตส่วนตัว ล่องเรืออาบแดด ดำน้ำดูปะการัง แบบที่เรียกว่า Sea Sand Sun เป็นกิจกรรมสุดฮอตของคนรักทะเล และเป็นจุดขายหลักการท่องเที่ยวของภูเก็ต

แต่หลังจากภาครัฐเปิดโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ทดลองเปิดเมืองให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนภูเก็ต ท่ามกลางสถานการณ์โควิดที่ยังไม่ทุเลาเบาบาง ต้องเผชิญเสียงคัดค้านต่างๆ นาๆ ผ่านมาได้เดือนเศษ ภาคธุรกิจเอกชน ก็เริ่มกิจกรรมการตลาดอย่างจริงจัง ล่าสุดโรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ (Courtyard Marriott Phuket Town) โรงแรม 5 ดาวแห่งใหม่ที่เคลมว่าเป็นแห่งเดียวในทำเลใจกลางเมืองภูเก็ต ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตำบลตลาดใหญ่ ใกล้กับถนนคนเดินถนนถลาง ถนนพังงา และหอนาฬิกา ซึ่งแต่เดิมโรงแรมแห่งนี้เป็นของนักลงทุนท้องถิ่นใช้ชื่อว่า "เมโทร โพล ภูเก็ต” ได้รับการเปลี่ยนมือมาเป็นโรงแรมอีกแห่งในกลุ่ม แอสเสทเวิลด์ คอร์ปอเรชั่น ของตระกูล สิริวัฒนภักดี ที่มี วัลลภา ไตรโสรัส เป็นแม่ทัพใหญ่และด้วยความแข็งแรงของเงินทุน ช่วงจังหวะที่ภูเก็ตปิดเมืองเพราะโควิดจึงได้ทำการปรับโฉมโรงแรมใจกลางเมืองแห่งนี้ขึ้นใหม่ พร้อมนำเชนดังอย่าง Marriott มาเป็นเชนบริหาร รวมทั้งการออกแบบหน้าตา รูปลักษณ์ภายใน และพื้นที่บริการต่างๆ ให้มีความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนลมากขึ้น พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “คอร์ทยาร์ด  แมริออท ภูเก็ต ทาวน์” โรงแรมบนอาคารสูงอันดับต้นๆ ของเมืองภูเก็ตที่ประกอบด้วยห้องพัก 248 ห้อง ซึ่งได้รับการออกแบบตกแต่งใหม่ทั้งหมด

ชมเมือง “ชิโนยูโรเปียน”

โดยภาพรวมของการออกแบบโรงแรม ให้บรรยากาศความเป็นโมเดิร์น ที่สวยงาม โปร่ง และสะอาดตา แต่ยังคงโครงสถาปัตยกรรมเดิมที่มีเสาครอบทรงโค้งมน สไตล์ชิโนโปรตุกีส หรือในระยะหลังคนภูเก็ตบางส่วนออกมาบอกว่าที่จริงต้องเรียกว่าเป็น “ชิโนยูโรเปียน” เพราะไม่ใช่แค่โปรตุเกสเท่านั้นที่เป็นต้นแบบอาคารเก่าในเมืองภูเก็ต ทว่ามาจากยุโรปหลายประเทศด้วยกัน ในวันที่คอร์ทยาร์ดฯ นำคณะสื่อมวลชนจำนวน 6 สื่อลงพื้นที่ไปสัมผัสบรรยากาศโรงแรมที่ตกแต่งใหม่ ยังได้จัดทริปประสบการณ์ใหม่ การเดินชมเมืองเก่าภูเก็ต ที่วันนี้ต้องบอกว่าไม่ได้มีแต่อาคารเก่าๆ เท่านั้น ทว่ามีอาคารรูปทรงเก่าที่เป็นเอกลักษณ์สไตล์ชิโนโปรตุกีส ให้เห็นมากขึ้นกว่าเมื่อ 10-20 ปีก่อน ที่เคยไปสัมผัสมา มีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ของธนาคารชื่อดัง สร้างเป็นสำนักงานรูปทรงอาคารเก่า แต่สร้างขึ้นใหม่ด้วยลวดลายวิจิตรบรรจงที่ดูเกลี้ยงเกลาสะอาดตา สีขาวโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมทรงยุโรปโบราณครอบอาคารสำนักงานผนังกระจกสมัยใหม่ไว้ภายใน ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศเมืองเก่า ด้วยสถาปัตยกรรมใหม่ที่โดดเด่นไม่แพ้เมืองท่องเที่ยวดังในยุโรป อีกแรงผลักดันน่าจะมาจากโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ที่รัฐและเอกชนร่วมกันจัดขึ้น ทำให้องคาพยพในธุรกิจท่องเที่ยวของภูเก็ต ต่างลุกขึ้นมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดกันอย่างคึกคัก ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาเยือนภูเก็ต สร้างชีวิตชีวาการท่องเที่ยวให้เมืองเก่าด้านเหมืองแร่แห่งนี้ มีสีสันที่สดใสน่าตื่นตาตื่นใจขึ้นมาอีกครั้ง ร้านรวงต่างๆ บนถนนนเมืองเก่า อย่างถนนถลาง และถนนพังงา และซอยเล็กๆ อย่างซอยรมณีย์ ได้รับการปรับปรุงให้ดูมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างเป็นเอกลักษณ์ เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินชมได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำ มีทั้งร้านจำหน่ายของที่ระลึก ร้านจำหน่ายเสื้อผ้าพื้นเมือง เสื้อผ้านักท่องเที่ยว ร้านกาแฟแนวชิคๆ หลากสไตล์ ร้านเสริมสวย และร้านอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงพิพิธภัณฑ์เมืองภูเก็ต ก็มีให้เข้าชมฟรีบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเมืองเก่าที่ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งอันดามัน” ร้านไอศกรีมเล็กๆ (Torrys Ice cream) ในซอยรมณีย์ มีใบรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากกระทรวงสาธารณสุข เช่นเดียวกับร้านอาหารและแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายแห่งในภูเก็ต ที่ได้ตราสัญญลักษณ์ความปลอดภัยด้านสาธาณสุขและการท่องเที่ยวเพื่อสร้างความมั่นใจว่าปลอดภัยในสถานการณ์โควิด-19 แม้จะเป็นร้านเล็กๆ แต่ก็มีการตกแต่งที่สวยงามน่ารัก มีนักท่องเที่ยว และคนท้องถิ่นเข้ามาต่อคิวซื้อไอศกรีมไม่ขาดสาย พื้นที่ถัดไปอีก 3 ช่วงอาคารก็มีร้านแห่งที่ 2 ของไอศกรีมเจ้าเดิมรายนี้แต่เป็นแนววีแกนให้เลือกรับประทานกันด้วย ขณะยที่ผู้คนเดินชมเมืองมีให้เห็นหนาตาพอสมควร

เพิ่มสีสัน-เสน่ห์ช่วงปิดเมือง

ผู้ประกอบการหลายรายกล่าวตรงกันว่า นักท่องเที่ยวเรี่มกลับมาตั้งแต่โครงการ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ มาจนถึงล่าสุดมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนภูเก็ตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กิจกรรมการเที่ยวชมเมืองเก่ากลายเป็นสีสันใหม่ เป็นทางเลือกใหม่ที่เพิ่มเสน่ห์ การท่องเที่ยวภูเก็ตในอารมณ์ที่ต่างออกไป เพราะแต่เดิมการเดินชมเมืองภูเก็ต เป็นกิจกรรมที่มีอยู่แล้ว แต่มาวันนี้เมืองเก่าภูเก็ตมีหน้าตาที่สวยงามขึ้น สว่างไสวและน่าดึงดูดมากขึ้น ด้วยสีสันที่สดใส การตกแต่งที่ตั้งใจ และงานศิลปะที่แรกเข้าไปแทบทุกอณูของพื้นที่ ตัวอย่างเช่น ร้านกาแฟที่รวมเอาชิ้นงานศิลปะเก่าๆ ของเก่าที่ดูเท่ มารวมไว้ในร้าน จัดวางให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพ ขณะรอการดริปกาแฟสดจากบราซิล และอีกหลายแหล่งที่เลือกสรรมาให้ลิ้มลอง เป็นเสน่ห์ใหม่ๆ ของเมืองที่ทำออกมาได้อย่างกลมกลืน และเมือลองมีโอกาสสอบถามผู้คนในพื้นที่หลายคนบอกว่า "ช่วงที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเพราะปิดเมือง หลายร้านก็ใช้โอกาสในการปรับปรุงหน้าตา ปรับปรุงกิจการ เพื่อรอวันที่ท่องเที่ยวจะฟื้นกลับมา และวันนี้จะเรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นการกลับมาของนักท่องเที่ยวในเมืองภูเก็ตก็ว่าได้" อีกจุดท่องเที่ยวหนึ่งที่ทริปคอร์ดยาร์ดฯ พาไปชมคือ ศาลเจ้าแสงธรรม ที่แต่เดิมคือมูลนิธิแสงธรรมภูเก็ต ซึ่งเป็นมูลนิธิเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ศาลเจ้าแห่งนี้ก็มีอายุเกินกว่า 100 ปีด้วยเช่นกัน เสน่ห์ของศาลเจ้าแห่งนี้คือทางเดินที่เป็นช่องลม ทอดยาวจากริมถนนพังงา ในตำบลตลาดใหญ่ ที่ให้ความรู้สึกร่มรื่นตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบย่างไปถึง ช่องทางเดินจากป้ายศาลริมถนนเข้าไปประมาณ 60 เมตร ด้านข้างกำแพงทำเป็นจุดนั่งพักและมีภาพวาดฝาผนังลวดลายจีนให้ดูเพลินตา หรือถ่ายภาพเป็นที่ระลึกก็ดูสวยงาม และที่สำคัญศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าเพียงแห่งเดียวในเมืองภูเก็ต ที่มีอาคารรูปทรงสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสประกอบอยู่ภายในบริเวณศาลด้วย ซึ่งวันที่ทริปเราไปเยือนมีคนนำประทัดจำนวน 2 แสนนัดมาถวาย โดยเธอเล่าให้ฟังถึงความศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าแห่งนี้ และเธอเพียงแต่ขอพรไปไม่ได้บนบานศาลกล่าวแต่อย่างใด พอดีได้ตามคำที่ขอไปจึงมาถวายประทัด ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเสน่ห์ของเมืองภูเก็ต ดินแดนที่ผู้คนนับถือศาลเจ้าและมีความเป็นเอกลักษณ์ด้วยเทศกาลถือศีลกินผัก (คนภูเก็ตไม่ชอบให้เรียกว่าเทศกาลกินเจ) เวิ้งถนนพังงาและถนนถลางนี้เอง คือทำเลเมืองเก่าที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเดินชมเมือง ซึ่งอีกสถานที่ที่คอร์ทยาร์ดฯ พาไปชม คือ บ้านชินประชา อายุกว่า 100 ปีเช่นเดียวกันเป็นบ้านพื้นเมืองของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของเมืองภูเก็ตในอดีต ที่สร้างขึ้นช่วงปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 5 โดย พระพิทักษ์ชินประชา (ตันม่าเสียง) ภายในบ้านยังคงสภาพดั้งเดิมไว้ครบถ้วน เป็นบ้านไม้กึ่งปูนที่ออกแบบอย่างแข็งแรง สไตล์ชิโนโปรตุกิส และที่นี่ยังมีภาพพระราชทานของรัชกาลที่ 5 พร้อมตราพระราชวังติดไว้ ให้ลูกหลานได้บอกเล่าเรื่องราวอย่างภาคภูมิใจ เป็นอีกเสน่ห์เมืองเก่าที่วันนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งยังเป็นบ้านที่บุตรหลานของพระพิทักษ์ชินประชา ยังคงอาศัยอยู่และได้เพิ่มเติมปรับปรุงพื้นที่ด้านข้างเป็นร้านคาเฟ่สมัยใหม่ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวด้วย

เข้มสวมแมสก์ตะลุยเที่ยว

ก่อนปิดท้ายทริป 1 วันกับเมืองเก่าภูเก็ต คอร์ทยาร์ดฯ พาทีมไปเที่ยวชมธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวสไตล์อีโค่ทัวริซึมของชุมชนบ้านบางโรง ซึ่งห่างจากใจกลางเมืองภูเก็ตออกไปราว 30 นาทีโดยรถตู้  ได้สัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวอีกแบบที่มาพร้อมกิจกรรมชุมชนแนวธรรมชาติ ซึ่งเป็นสวนมะพร้าว และอาชีพในการเพ้นท์ผ้าลายพื้นเมือง เพื่อทำเป็นกระเป๋าที่ระลึก ที่นี่เป็นอีกจุดที่มีกิจกรรมสนุกๆ ให้นักท่องเที่ยว ได้ลองสอยมะพร้าว ขูดมะพร้าว และปั้นขนมบัวลอยด้วยตัวเอง โดยมีตัวแทนชุมชนปรุงสุกให้ และจัดชุดเสิร์ฟสวยงามให้ลิ้มลองรสชาติกันอย่างสนุกสนาน ได้บรรยากาศที่ดีไปอีกแบบ พอตกค่ำกิจกรรมไฮไลท์อีกอย่างคือ การเดินถนนคนเดิน ซึ่งก็คือ ถนนถลาง ที่ตอนกลางวันไปเดินเที่ยวชมแล้ว พอถึงตอนค่ำวันอาทิตย์ จะมีการจัดกิจกรรมถนนคนเดิน มีร้านค้านำสินค้าส่วนใหญ่เป็นอาหารพื้นเมือง และของแฮนด์เมด ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ และของที่ระลึกมาขายมากมายนับร้อยราย จำนวนนักท่องเที่ยวคราคร่ำไม่น้อยกว่ากัน เดินไปตามถนนความยาวราว 2 กิโมตร มีดนตรีทั้งจากเด็กและนักดนตรีสมัครเล่น มาบรรเลงให้ฟังเป็นระยะ สีสัน บรรยากาศ ไม่ต่างจากมิวสิค เฟสติวัลขนาดย่อมที่มีให้เลือกชมหลายเวที ก็เพลิดเพลินไปอีกแบบ ส่วนความระมัดระวังเรื่องโควิด-19 ดูเหมือนทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว ต่างตระหนักและระมัดระวังตัวเองเป็นอย่างดี ใส่แมสก์ในทุกพื้นที่แทบตลอดเวลา ยกเว้นเฉพาะช่วงที่รับประทานอาหาร ซึ่งก็มีการเว้นระยะประมาณหนึ่ง แต่คนที่มาภูเก็ตส่วนใหญ่ต่างมีใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด 2-3 เข็มแล้วแทบทั้งสิ้นสร้างความมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่า จะช่วยลดการแพร่ระบาดลงได้ เพราะถ้านับจากภูมิคุ้มกันหมู่จากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนภูเก็ตได้ เทียบเป็นเปอร์เซ็นต์คงไม่น้อยกว่า 70-80 เปอร์เซ็นต์แน่นอน “นี่แค่ส่วนหนึ่งของกิจกรรม ยังมีอีกหลายพื้นที่ในเมืองภูเก็ตที่น่าสนใจ แต่ด้วยเวลาที่จำกัดจึงพาไปได้ไม่ครบ” เจ้าหน้าที่การตลาดสาวของโรงแรมคอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ตทาวน์ ออกตัวอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยแม้จะตะลุยนำเที่ยวชมเมืองเก่ามาตั้งแต่เช้ายันค่ำ กลับมาที่ คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ กันอีกครั้ง การเปิดโรงแรมคอร์ทยาร์ดฯ แห่งนี้ ถือเป็นการเปิดโรงแรมแห่งที่ 46 ในประเทศไทยภายใต้เครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล และเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของแมริออทสำหรับการเติบโตในภูมิภาคนี้ ที่ต้องการนำเสนอที่พักที่หลากหลาย ตอบโจทย์นักเดินทางหลากหลายกลุ่ม การออกแบบของโรงแรมแห่งนี้ นำองค์ประกอบของศิลปะและงานฝีมือแบบไทยดั้งเดิมมาประกอบไว้ด้วย เพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับชุมชนท้องถิ่น โดยโรงแรมนำเสนอห้องพักและห้องสวีทที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันจำนวน 248 ห้อง รวมถึงห้องเพรสซิเดนเชียล สวีท ขนาด 140 ตร.ม. โดยในทุกห้องพักเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ทีวีจอแบน อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โต๊ะทำงาน และโซฟา ซึ่งเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนพร้อมวิวเมืองภูเก็ต ห้องอาหารครัวตลาดใหญ่ เปิดให้บริการทั้งวัน พร้อมเสิร์ฟอาหารไทยท้องถิ่นประจำภาคใต้ และอาหารนานาชาติ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เข้าพัก ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ตะลุง เลาจน์ ให้บริการกาแฟรสเลิศ พร้อมกับเค้กและขนมหวานที่อบสดใหม่ทุกวัน รวมไปถึงเมนูอาหารทานง่าย และ “กอและ พูลบาร์” ริมสระว่ายน้ำเหมาะสำหรับผู้เข้าพักที่ต้องการผ่อนคลายไปกับค็อกเทล และของว่างมื้อเบาในบรรยากาศแบบเปิดโล่ง นอกจากนี้ คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ ยังเหมาะสำหรับการพักผ่อนและทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น คิดส์คลับ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ หรือพื้นที่สำหรับการจัดงานประชุม ทั้งการประชุมทางธุรกิจหรือการจัดกิจกรรมทางสังคม ทางโรงแรมมีพื้นที่จัดงานครอบคลุมกว่า 660 ตร.ม. รวมไปด้วยห้องบอลรูมไร้เสาขนาดใหญ่ และห้องประชุม 9 แห่ง สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ สามารถตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมายของนักเดินทางทั้งครอบครัวและนักธุรกิจ “นักท่องเที่ยวส่วนมากเลือกภูเก็ตเป็นสถานที่ในการใช้วันหยุดพักผ่อน เนื่องจากภูเก็ตมีทะเลและชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง แต่เมืองภูเก็ตนั้นมีมากกว่าแค่แสงแดด ทะเล และหาดทราย เพราะเมืองภูเก็ตเป็นแหล่งหลอมรวมมรดกอันหลากหลายของเอเชีย จึงทำให้ผู้เข้าพักสามารถดื่มด่ำกับศิลปะ สถาปัตยกรรม ขนบธรรมเนียม และอาหารอันหลากหลาย โรงแรมคอร์ทยาร์ด ได้ผสมผสานวัฒนธรรมที่ไร้กาลเวลานี้เข้ากับการต้อนรับที่ทันสมัย เพื่อสร้างประสบการณ์ให้ผู้เข้าพักประทับใจและเป็นที่น่าจดจำในบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร” Pamela Ong Cheng Gaik ผู้จัดการ คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ กล่าวสรุป ภาพ: อรวรรณ หอยจันทร์ และ คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์  อ่านเพิ่มเติม: LOUIS VUITTON 200 ปี ประวัติฉบับกระเป๋าของผู้ผลิตกระเป๋าเดินทางชื่อดัง
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine