“ดุสิตธานี” สู้ไม่ถอย แม้จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หลายระลอก ล่าสุดปรับกลยุทธ์เดินหน้าเข้าหาลูกค้า ประกาศเดินหน้าสร้างรายได้จาก Non-Room Business ใช้ทักษะและความเข้าใจในท้องถิ่นผลิตสินค้าเพื่อนำเสนอในชุมชนทดแทนรายได้ห้องพัก เดินหน้าต่อชู “ดุสิตธานีหัวหิน” โมเดลนำร่องลดการพึ่งพารายได้จากห้องพัก หันมาโฟกัสการสร้างแหล่งท่องเที่ยววิถีธรรมชาติในรีสอร์ต ประเดิมปลูกข้าวนาแรกได้ผลผลิต 200 กิโลกรัม
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มดุสิตธานียังคงมีกำลังใจในการเดินหน้าฝ่าวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในรอบสองนี้ แม้ว่าธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวจะยังคงได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากอัตราการเข้าพักลดลงจากสถานการณ์โควิดที่ยังไม่คลี่คลาย ทำให้กลุ่มดุสิตธานีปรับกลยุทธ์ด้วยการหันมาโฟกัสกับการสร้างรายได้อื่นๆ ที่ไม่ใช่รายได้จากการเข้าพัก (Non-Room Revenue) โดยใช้ทักษะ ความเข้าใจตลาด ความสนใจของคนในพื้นที่และข้อจำกัดในแต่ละพื้นที่ มาเป็นปัจจัยในการวางเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้ “การปรับกลยุทธ์ครั้งนี้ เปลี่ยนจากการที่ลูกค้าเดินมาหาเรา เป็นเราที่จะเดินเข้าไปหาลูกค้าเอง เพื่อรับมือกับการใช้ชีวิตตามวิถีนิว นอร์มอล ที่ลูกค้ายังไม่สะดวกเดินทาง ต้องการความปลอดภัย”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี มั่นใจว่า กระบวนการเรียนรู้ที่จะปรับตัวและสร้างโมเดลการให้บริการในรูปแบบใหม่ตามวิถีการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นการตอกย้ำถึงความเข้มแข็งของพนักงานกลุ่มดุสิตธานี ที่พร้อมจะสู้และประคับประคองตัวเอง งานที่รัก ตลอดจนองค์กรให้สามารถฟันฝ่าวิกฤต เพื่อที่จะกลับมาต้อนรับลูกค้าได้อีกครั้ง
ขณะเดียวกัน การพัฒนาแหล่งกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพวิถีธรรมชาติที่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสกับการเรียนรู้วิถีการใช้ชีวิตแบบธรรมชาติควบคู่ไปกับการได้รับบริการที่สะดวกสบายและปลอดภัยภายใต้มาตรฐานของดุสิตธานีอีกด้วย ทำให้มั่นใจว่า เมื่อการท่องเที่ยวสามารถกลับมาได้อีกครั้ง กลุ่มดุสิตธานีจะมีความพร้อมในการให้บริการและจะสามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าได้อย่างแน่นอน
“วันนี้พนักงานกลุ่มดุสิตธานีสู้ทุกคน เราสู้ไม่ถอย และรวมใจเป็นหนึ่ง เพราะเรารู้ว่าการรับมือกับวิกฤติครั้งนี้ เราไม่ใช้สามารถใช้ความรู้ ประสบการณ์เอาชนะได้ แต่เราต้องใช้หัวใจ ต้องอดทน ต้องเข้มแข็ง ต้องเรียนรู้และต้องปรับตัวให้ได้ วันนี้เราไม่สามารถสร้างรายได้จากห้องพักได้เหมือนในอดีต เราจึงจำเป็นต้องพึ่งพารายได้จากส่วนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ห้องพัก (Non-Room Revenue) ซึ่งน่ายินดีที่ได้รับการตอบรับที่ดีมาก และเสียงตอบรับจากลูกค้าทุกคนทำให้พนักงานของดุสิตธานีมีกำลังใจที่จะต่อสู้ต่อไป” ศุภจี กล่าวทิ้งท้าย
อ่านเพิ่มเติม: “เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์” ผนึก “เทนเซ็นต์ไทย” รับชมฟุตบอลไทยออนไลน์
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine


