เปิดแนวคิด “วี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์” ค่ายอสังหาฯ ดาวรุ่งผู้ปลุกปั้น “Vertier” ลักชัวรีคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าพระโขนง
ถึงแม้จะเพิ่งผันตัวจากกลุ่มบริษัทผู้ส่งออกอัญมณีรายใหญ่ในเมืองไทยมาสู่ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ในนามบริษัท วี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (V Property) เมื่อปี 2552 แต่ด้วยประสบการณ์ในแวดวงธุรกิจที่สั่งสมมากว่า 40 ปี เมื่อบวกกับความมุ่งมั่นและ Passion ของพรชัย เลิศอนันต์โชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทที่มีต่อวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ วี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ สามารถแจ้งเกิดในวงการ ขึ้นแท่นเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ดาวรุ่งที่เจาะกลุ่มลักชัวรีได้อย่างน่าจับตามอง เพราะเพียงเปิดตัวโครงการแรก เอช สุขุมวิท 43 ก็ได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาด
“ผมมีความสนใจในธุรกิจอสังหาฯ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะมองว่าเป็นธุรกิจที่สามารถใส่ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบลงไปได้ไม่จำกัด นับตั้งแต่วันแรกที่เราเริ่มต้นทำโครงการ เป้าหมายของเราไม่ใช่แค่พัฒนาโครงการที่แตกต่าง โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์และดีไซน์ แต่เรายังมองไปถึง Pain Point ของลูกค้าที่ส่วนใหญ่เลือกลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพราะฉะนั้นทุกโครงการของเราภายใต้โจทย์ที่ว่าต้องปล่อยขายหรือปล่อยเช่าได้ง่ายและได้อัตราผลตอบแทนที่ดีด้วย”
ทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นที่มาว่าทำไม วี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ ถึงโฟกัสไปที่การพัฒนาโครงการทั้งแนวสูงและแนวราบในย่านใจกลางเมือง โดยเฉพาะทำเลทองแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสุขุมวิท ซึ่งเป็นแหล่งรวมของสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนไทยและชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี
“ตอนที่ก่อตั้งบริษัท ยุคนั้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ในบ้านเพิ่งเริ่มบูม มีชาวต่างชาติเข้ามาทำงานและตั้งถิ่นฐานระยะยาวในไทยมากขึ้น เริ่มมีบิ๊กโปรเจกต์ของศูนย์การค้าเกิดขึ้นตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตอนนั้นเราเล็งเห็นแล้วว่า ดีมานด์ที่อยู่อาศัยในย่านสุขุมวิทมีมากสวนทางกับซัพพลายที่มาตอบโจทย์ยังน้อย เราจึงเริ่มเข้ามาเจาะตลาดในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกๆ ในย่านสุขุมวิทชั้นในก็ว่าได้ ด้วยการประเดิมโครงการแรก คือ H Sukhumvit 43 ที่สุขุมวิท 43 ใกล้บีทีเอสพร้อมพงษ์ ต่อด้วยคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ VTARA36 ที่สุขุมวิท 36 ใกล้บีทีเอสทองหล่อ ซึ่งยุคนั้นที่ดินย่านสุขุมวิทชั้นในถือว่าเริ่มแพง ตารางวาละหลายแสน แต่ก็ยังไม่เท่าตอนนี้ที่ตารางวาละหลายล้าน”
นอกจากจะใช้กลยุทธ์เฟ้นหาสุดยอดทำเลมาสร้างแต้มต่อในฐานะดีเวลลอปเปอร์หน้าใหม่ในเวลานั้น อีกกลยุทธ์สำคัญที่ วี พร็อพเพอร์ตี้ นำมาสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าคือ “ใช้วิธีสร้างพร้อมขาย” ซึ่งยังคงใช้มาจนถึงปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการวางคอนเซปท์โครงการให้แตกต่างพร้อมเสริมจุดเด่นของทุกโครงการให้เป็นที่ถูกใจของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เช่าหลักในย่านสุขุมวิทชั้นใน ด้วยการออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการให้ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง ตั้งแต่การเป็นผู้บุกเบิกติดต่อสถานีโทรทัศน์ของญี่ปุ่น เพื่อนำช่องสัญญาณมาออกอากาศให้ผู้อยู่อาศัยได้ชมแบบเรียลไทมส์ หรือ การเพิ่มพื้นที่ออนเซนส่วนตัวในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ เป็นต้น
จากความสำเร็จที่ค่อยๆ สั่งสม กลายเป็นรากฐานการเติบโตที่มั่นคงของ วี พร็อพเพอร์ตี้ จนนำไปสู่อีกหนึ่งผลงานคุณภาพแห่งความภาคภูมิใจของแบรนด์ นั่นคือ โครงการ “Vertier” ลักชัวรีคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ของบริษัทที่ปักหมุดอยู่ติดสถานีบีทีเอสพระโขนง ซึ่งกำลังเป็นทำเลทองที่ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น เริ่มให้ความสนใจขยับขยายมาเช่าอยู่อาศัยมากขึ้น เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ต่างจาก ทองหล่อ-เอกมัย โครงการนี้จึงถือเป็นแรร์ไอเท็ม ที่บิ๊กบอสแห่ง วี พร็อพเพอร์ตี้ กล้าเอ่ยปากว่า “หาไม่ได้อีกแล้ว”
“เราโชคดีมากที่ได้ครอบครองที่ดินผืนนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีบีทีเอสพระโขนงเพียง 50 เมตร ด้วยขนาดพื้นที่ไร่เศษที่เรามี เราตั้งใจพัฒนาเป็นลักชัวรีคอนโดมิเนียมที่เป็นลิมิเต็ด เอดิชั่น หลอมรวมทั้งองค์ประกอบของชีวิตที่หรูหราเหนือระดับเข้าไว้กับที่ดินผืนงามติดสถานีที่หาไม่ได้อีกแล้ว สมกับคอนเซปท์ของโครงการที่ว่า “Where Rarity Meets Luxury”
เพื่อให้เห็นภาพของการบรรจบระหว่างความหายากกับความหรูหราชัดเจนยิ่งขึ้น พรชัย บอกเล่าถึงเบื้องหลังแนวคิดโครงการ “Vertier” ที่ตกผลึกโดยทีมงานคุณภาพ สู่การสร้างสรรค์โดยทีมออกแบบและสถาปนิกที่มีผลงานการออกแบบโครงการระดับลักชัวรีมาแล้วมากมาย พร้อมทีมไลท์ติ้งดีไซน์ (Lighting) ที่เข้ามาช่วยจัดองค์ประกอบแสงในโครงการเพื่อมอบสุนทรียะแห่งการอยู่อาศัยอย่างสูงสุด
“ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในโครงการ ลูกค้าจะสัมผัสได้ถึงความลักชัวรี สะท้อนผ่านการออกแบบในไทม์เลสโมเดิร์นลักชัวรี Timeless Modern Luxury ใช้หินอ่อนนำเข้าจากอิตาลี เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตทั้งโครงการเพียง 227 ยูนิต แต่ละชั้นมีจำนวนยูนิตไม่มาก สูงสุดเพียงแค่ 8 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยได้รับการออกแบบให้อยู่สบาย ครบครันด้วยเครื่องครัวที่ออกแบบโดย Phillippe Starck และสุขภัณฑ์ KASCH แบบ full automatic แบรนด์คุณภาพจากเยอรมันและใช้ระบบแอร์แบบฝังฝ้า ซึ่งปกติจะใช้ในคอนโดมิเนียมระดับซุปเปอร์ลักชัวรีเท่านั้น ทุกยูนิตถูกออกแบบด้วยแนวคิดที่เหนือชั้นทำให้เปิดรับมุมมองการใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนใคร เต็มอิ่มกับวิวทิวทัศน์ของมหานครอันน่าหลงใหลโดยไม่มีอะไรมาบดบัง”
ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ Vertier พร้อมเติมเต็มความสุขของการใช้ชีวิตอย่างเหนือชั้น ด้วย Sky Aquarium Pool สระว่ายน้ำหินอ่อน ที่ออกแบบให้มีด้านหนึ่งเป็นกระจกนิรภัย เหมือนอควาเรียมลอยฟ้าพร้อมให้คุณเปิดรับวิวของมหานครในทุกองศา ณ ชั้น 29 ถ้ายังไม่จุใจกดลิฟต์ขึ้นไปชั้น 30 จะพบกับ Crystal Fitness with Private Sky Track ฟิตเนสแสนหรูหราและครบครันด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกาย ที่พร้อมให้คุณเพลิดเพลินพร้อมมุมพิเศษให้คุณเวิร์คเอาท์ไปพร้อมกับชมทิวทัศน์ของกรุงเทพมหานครที่ไม่เคยหลับใหลอย่างจุใจ
“เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองยุค 4.0 Vertier ยังนำเสนอนวัตกรรมแห่งการอยู่อาศัย มอบความสะดวกสบายและปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง โดยออกแบบให้ทุกชั้นเป็น Single Load Corridor มีระบบการจอดรถแบบ Intelligence Parking หมดปัญหาเรื่องการวนหาที่จอดรถด้วยระบบ Fully Automatic มีระบบ Drop –off นำรถไปจอดและนำรถมาส่งให้ถึงจุดรับ-ส่งรถ”
ด้วยองค์ประกอบที่คัดสรรอย่างดีที่สุดนี้เอง ทำให้พรชัย หมายมั่นให้ Vertier เป็นโครงการเรือธงของบริษัทในปีนี้ โดยผู้บริหารคนเก่งเชื่อว่าด้วยศักยภาพของโครงการที่เป็นลิมิเต็ด เอดิชั่น จะสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือชั้นให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะซื้อไว้อยู่สำหรับอาศัยเองวันนี้ หรือ เพื่อการลงทุน ส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกหลาน
“ผมเชื่อว่าถ้าลงทุนในคอนโดมิเนียมที่อยู่ในย่านรถไฟฟ้ายังไงก็ไม่มีทางขาดทุน แต่จะได้มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับทำเลด้วย เพราะไม่ใช่ทุกสถานีบีทีเอสจะพัฒนาโครงการระดับลักชัวรีได้ แต่สำหรับพระโขนง ผมมั่นใจว่าตอบโจทย์” ผู้บริหารวิสัยทัศน์ทิ้งท้ายด้วยความมั่นใจ
ความสุขที่คนเมืองปรารถนาพร้อมแล้วที่จะให้จับจองเป็นเจ้าของ สอบถามเพิ่มเติม 02-204-7900 หรือ www.vertierbangkok.com
TAGGED ON