ไขกุญแจการบริหารธุรกิจฝ่าวิกฤติ ในแบบฉบับ เกียรติ ตั้งตรงศักดิ์ หัวเรือใหญ่แห่งบริษัท พระราม 3 กรุ๊ป ฮอนด้า ออโตโมบิล จำกัด
ในวันที่โลกทั้งใบอยู่ในสถานการณ์โรคระบาดที่ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไร กุญแจสำคัญที่จะพาให้ธุรกิจรอดคือ การปรับตัวแบบไม่ยึดติดกระบวนท่า และไม่มองข้ามการพัฒนาคุณภาพของสินค้าและการบริการ
หนึ่งในธุรกิจที่สะท้อนแล้วว่า กุญแจดังกล่าว เป็นเหมือนแสงสว่างที่ทำให้ธุรกิจยังคงยืนหยัดและเติบโตได้ในช่วงวิกฤติคือ บริษัท พระราม 3 กรุ๊ป ฮอนด้า ออโตโมบิล จำกัด หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจยานยนต์ที่ได้รับความไว้วางใจมานานกว่า 25 ปี ในฐานะศูนย์รถยนต์ฮอนด้าครบวงจร ให้บริการตั้งแต่การส่งมอบรถยนต์ฮอนด้า การรับซื้อ-แลกเปลี่ยนรถยนต์มือสอง ประกันรถยนต์ ไปจนถึงรถเช่า
ภายใต้การบริหารงานของเกียรติ ตั้งตรงศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พระราม 3 กรุ๊ป ฮอนด้า ออโตโมบิล จำกัด ไม่เคยหยุดที่จะพัฒนา และพร้อมปรับทิศทางในการดำเนินธุรกิจให้ทันกับพฤติกรรมของลูกค้า ควบคู่ไปกับสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานพร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้า ทำให้พระราม 3 กรุ๊ป ฮอนด้า ไม่เพียงเป็นเจ้าของรางวัลส่วนแบ่งการตลาดยอดขายรถยนต์ฮอนด้าสูงที่สุด สร้างสถิติผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้ารายแรกที่ส่งมอบรถยนต์ใหม่เกิน 10,000 คัน ภายใน 1 ปี ให้บริการลูกค้ากว่า 200,000 ราย ล่าสุดยังได้รับรางวัล “Thailand Top Company Awards 2020” ประเภทกลุ่มอุตสาหกรรมด้านการบริการยอดเยี่ยม
เปิดคัมภีร์เอาตัวรอดจากวิกฤติ
แม้จะฝ่าวิกฤติมาแล้วหลายครั้ง แต่เกียรติยอมรับว่าไม่มีครั้งไหนที่ต้องรับศึกหนักเท่าโควิด-19 เนื่องจากเป็นวิกฤติที่ควบคุมไม่ได้ และไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไร
“ตอนเจอน้ำท่วม ปิดโรงงานไม่มีรถขายอยู่ 1 ปี ผมว่ายังไม่เท่าไรนะ พอเจอโควิด-19 เข้าไป รอบนี้หนักที่สุด”
ท่ามกลางความท้าทาย สิ่งที่สำคัญที่ผู้นำองค์กรทำได้และต้องทำคือ การตั้งสติและคิดวิธีแก้ปัญหา วิธีการแก้ปัญหาของเกียรติในเวลานั้นคือ การปรับตัวที่ไม่ยึดติดกับวิธีการเดิมๆ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าในยุค New Normal แบบทุกมิติ
หนึ่งในบริการที่พระราม 3 กรุ๊ป ฮอนด้า พัฒนาขึ้นมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า คือ การจัดทำ Virtual Showroom เพื่อให้ลูกค้าสามารถชมรถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่น สามารถเลือกอุปกรณ์ ต่อรองราคากับพนักงานขาย และชำระเงินจองผ่านระบบออนไลน์ได้ โดยที่ไม่ต้องเข้ามาที่โชว์รูมเลย ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี พิสูจน์ได้จากจำนวนผู้เข้าใช้เยี่ยมชม Virtual Showroom ที่มากถึงวันละ 400-500 ราย
สำหรับลูกค้าที่ไม่อยากใช้เวลาในโชว์รูมนาน พระราม 3 กรุ๊ป ฮอนด้า ก็มีบริการ Drop n Go จุดเด่นของบริการนี้ คือ ลูกค้าสามารถจอดรถทิ้งไว้ให้เจ้าหน้าที่ และเดินทางกลับไปได้เลย โดยพนักงานจะติดต่อ รายงานผลการตรวจสอบ และชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้าใช้เวลาอยู่ที่โชว์รูมน้อยที่สุดลดความเสี่ยงในการแพร่หรือติดเชื้อโควิด-19
นอกจากเรื่องการพัฒนาบริการเพื่อให้ตอบโจทย์กับสถานการณ์เฉพาะหน้า พระราม 3 กรุ๊ป ฮอนด้า ยังไม่หยุดนิ่งที่จะปรับตัวให้ทันกับเทรนด์โลก เนื่องจากลูกค้ามีความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก รวมถึงการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดรถยนต์ในประเทศ รวมถึงเทคโนโลยีของรถยนต์ที่มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนการทำงานให้เร็วขึ้น แม่นยำมากขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น
“ลูกค้าต้องการรถที่ประหยัดพลังงาน มีเทคโนโลยีที่สูง ง่ายต่อการใช้งาน สิ่งเหล่านี้เป็นความท้าทายที่เราต้องเปลี่ยนแปลง เพราะพนักงานของเราเติบโตมากับเครื่องยนต์ ICE (Internal Combustion Engine) อาจจะไม่รู้เรื่องอิเล็กทรอนิกส์ ไม่มีความรู้เรื่องไฟฟ้ามากนัก จึงต้องมีการทำความเข้าใจเรื่องวงจรไฟฟ้าหรืออิเล็กทรอนิกส์ให้มากขึ้น พร้อมสนับสนุนให้พนักงานเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ มากขึ้น” เกียรติฉายภาพให้เห็นถึงการพัฒนาองค์กรอย่างไม่หยุดยั้ง
ต่อยอดความสำเร็จอย่างยั่งยืน
อีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่สำคัญ คือ การสร้างวงจรแห่งความสุข เพื่อต่อยอดไปสู่การให้บริการด้วยหัวใจ เกียรติบอกว่า เคล็ดลับในการสร้างค่านิยมนี้ ไม่ได้มาจากการกำหนดนโยบาย แต่เกิดจากบ่มเพาะให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุข ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากองค์กร แล้วส่งต่อความสุขไปยังลูกค้า
“การจะทำให้ลูกค้าพึงพอใจสูงสุดได้ ลูกค้าต้องมีความสุขในการติดต่อเรา ไม่ว่าผ่านช่องทางไหนก็แล้วแต่ ไม่ว่าซื้อรถ รถมีปัญหา ปัญหามันเกิดขึ้นได้ แต่สุดท้ายเขาต้องพอใจ และมีความสุขกับการได้มาติดต่อเรา เพราะฉะนั้นในการถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ ต้องเริ่มต้นจากทัศนคติของตัวพนักงาน และการให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของพนักงานและความสุขในการทำงาน รวมไปถึงการให้เกียรติซึ่งกันและกันในองค์กร”
อย่างไรก็ตาม นอกจากความสุขจะส่งผ่านการให้บริการของพนักงาน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและเพิ่มรอยยิ้มให้ลูกค้า พระราม 3 กรุ๊ป ฮอนด้า ยังใส่ใจไปถึงคนในครอบครัวของลูกค้า ที่ผ่านมาจึงมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ครอบครัวของลูกค้าเกิดความคุ้นเคยกับโชว์รูม พร้อมมอบความสะดวกสบาย และความสุขทุกครั้งที่ได้ติดต่อ รวมถึงจัดกิจกรรมงานวันเด็ก Honda Children Day อย่างต่อเนื่อง ก่อนจะพักไป เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
“ผมมีความสุขที่ได้เห็นรอยยิ้มของลูกค้าและครอบครัวในวันที่เขามารับรถคันใหม่ที่โชว์รูม หรือการได้นำรถไปส่งให้ถึงที่บ้านของลูกค้า มันทำให้พวกเราอิ่มเอิบ หัวใจพองโต ในการที่จะรักษาคำมั่นสัญญาและมาตรฐานในงานบริการของพวกเราตลอดไป เพราะความสุขของผม คือการได้เห็นคนรอบตัวรักเรา ไม่ว่าจะเพื่อน ครอบครัว พนักงานด้วยกัน ลูกค้า ได้อยู่ในวงจรของความสุขเหล่านี้”
ถอดสูทผู้บริหาร สวมบทคุณพ่อ
นอกจากมุมมองการบริหารในการนำทัพองค์กรให้ยืนหยัดและเติบโตอย่างมั่นคงแล้ว ในฐานะคุณพ่อของลูกสาว 4 คน 4 สไตล์ เกียรติก็ทำหน้าที่ได้อย่างไม่บกพร่อง เพราะนิยามความสำเร็จของคุณเกียรติ ไม่ได้ยึดโยงอยู่เพียงแค่ด้านใดด้านหนึ่งของชีวิต แต่ให้คุณค่ากับความสุขในชีวิตทุกด้าน ทั้งเรื่องงาน ชีวิตส่วนตัว และครอบครัว
“ความสำเร็จของผม สามารถวัดได้จากความสุขที่มีอยู่ในตัวเอง ทั้งความสุขที่มีครอบครัวที่อบอุ่น ความสุขที่มีสุขภาพที่ดี ความสุขที่ได้เห็นองค์กรเจริญเติบโต และความรักที่ได้จากคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อน พนักงาน และลูกค้า”
ทุกวันนี้ นอกจากการทำงาน เกียรติยังแบ่งเวลาให้กับการกำลังกาย ทั้งตีกอล์ฟ ปั่นจักรยาน พร้อมกับดูแลครอบครัวอย่างเต็มที่
“ผมและภรรยาตั้งใจว่า จะมอบสิ่งที่มีค่าที่สุดให้กับลูกๆ นั่นก็คือการศึกษา เพื่อให้เขาได้นำความสามารถของตัวเองออกมาหรือนำมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด และทำให้ตัวเองมีความสุขกับการดำเนินชีวิตในอนาคต สำหรับลูกสาวทั้ง 4 คน ผมคาดหวังให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ได้ทำหรือศึกษาในสิ่งตัวเองชอบ และสามารถทำประโยชน์ให้กับตัวเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติต่อไป”
แน่นอนว่า ชีวิตที่ลงตัวทั้งในแง่การทำงานและครอบครัวของผู้บริหารเก่ง ยังมีอีกหนึ่งผู้ช่วยสำคัญ นั่นคือ ttb reserve ซึ่งเป็นมากกว่าผู้ช่วยเรื่องธุรกิจ แต่ตอบโจทย์ทุกด้านสำคัญของชีวิต โดยเกียรติเป็นลูกค้าทางธุรกิจของ ttb มาเป็นระยะเวลายาวนาน จนเมื่อลูกสาวคนที่สองต้องเดินทางไปศึกษาต่อปริญญาโทที่อังกฤษ เกียรติก็เลือกสมัครบัตรเครดิต ttb reserve ประเภทบัตรเสริมให้ลูกติดตัวไว้
“ผมมั่นใจและรู้สึกปลอดภัยกับการใช้งานบัตรเครดิต ttb reserve ในต่างประเทศ เพราะสามารถผูกบัตรวีซ่าเข้ากับแอป ttb touch ได้ สามารถตั้งวงเงินของบัตรเสริมแยกออกต่างหากจากบัตรหลัก และดูรายละเอียดการใช้จ่ายบัตรเสริมของลูกสาวได้อย่างสะดวกสบาย และใช้งานง่ายจริงๆ ที่สำคัญไม่เสียค่าธรรมเนียม 2.5 % จากอัตราแลกเงินจากในต่างประเทศมาเป็นเงินบาท ทำให้ไม่จำเป็นต้องเตรียมเงินสดให้ลูกสาวมากจนเกินไป ช่วยเรื่องความปลอดภัยในการใช้จ่าย”
นอกจากความมั่นใจและความพึงพอใจดังกล่าว อีกหนึ่งสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจ คือ สามารถนำคะแนนสะสมมาแลกเอกสิทธิ์พิเศษที่หลากหลาย เช่น สามารถนำคะแนนมาแลกค่ากรีนฟี (Green Fee) สนามกอล์ฟ ทำให้บัตรเครดิต ttb reserve ตอบโจทย์การใช้งานทั้งด้านการใช้จ่ายและด้านไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง