ท่ามกลางอุตสาหกรรมเครื่องบอกเวลา ถ้าเอ่ยถึงหนึ่งในผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำที่เก่าแก่และครองใจผู้ที่ชื่นชอบและหลงใหลนาฬิกาชั้นสูงมากว่า 230 ปี ต้องมีชื่อ จีราร์ด-แพร์โกซ์ (Girard-Perregaux) อย่างแน่นอน แบรนด์นาฬิกาหรูที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1791 โดดเด่นด้วยผลงานการสร้างสรรค์ที่มีเอกลักษณ์ ผสมผสานระหว่างสุนทรียศาสตร์ความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งานเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
จีราร์ด-แพร์โกซ์ หนึ่งในแบรนด์นาฬิกาเพียงไม่กี่แบรนด์ที่ยังคงฐานการผลิต ที่สืบทอดศาสตร์การประดิษฐ์นาฬิกาอันเก่าแก่ ควบคู่ไปกับการคิดค้นและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ วัสดุอันล้ำสมัย ผนวกเข้ากับการออกแบบที่กลายมาเป็นไอคอนิก โดยมีสิทธิบัตรที่ได้รับการบันทึกไว้มากกว่า 100 ฉบับ รวมถึงรางวัลการันตีอีกมากมาย ตอกย้ำความเป็นผู้นำในโลกแห่งนวัตกรรมการสร้างสรรค์นาฬิกาชั้นสูง
สำหรับผลงานสร้างชื่อของของ จีราร์ด-แพร์โกซ์ คือ การสร้างตำนาน Tourbillon With Three Gold Bridges เปลี่ยนรูปสะพานจักรจากองค์ประกอบทางเทคนิคไปสู่ชิ้นส่วนผสมผสานของเรือนเวลา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกา นอกจากนี้ ยังเป็นเจ้าของผลงานการออกแบบที่เป็นที่กล่าวขานในการหลอมรวมรูปทรงอันหลากหลายเข้าด้วยกันอย่างโดดเด่นและแตกต่าง แต่ยังคงความกลมกลืนสอดคล้องเป็นหนึ่งเดียว อย่างคอลเลกชันลอรีอาโต (Laureato) ซึ่งเผยโฉมครั้งแรกในปี ค.ศ. 1975
โดยจุดเด่นของนาฬิกาลอรีอาโตแต่ละเรือนนั้น จะมาพร้อมขอบตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยม ที่ติดตั้งไว้ด้านบนสุดของวงแหวนทรงกลมเหนือตัวเรือนทรงตอนโน แม้ว่าจะประกอบด้วยรูปทรงเรขาคณิตจากเส้นสายอันชัดเจน แต่ลอรีอาโตยังคงสะท้อนบุคลิกของความเรียบหรูที่ผสมผสานอย่างประณีตวิจิตรระหว่างพื้นผิวขัดเงาและขัดด้านแบบซาติน ซึ่งเป็นงานฝีมือการตกแต่งที่ทั้งผสมผสานและตัดกันอย่างลงตัว
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ลอรีอาโต ได้รับการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงอย่างพิถีพิถันมาหลายครั้ง แต่หัวใจสำคัญของนาฬิกาเวอร์ชันแรก ยังคงได้รับการสืบทอดมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถเห็นได้จากสมาชิกใหม่ของครอบครัวลอรีอาโต ทั้ง 2 รุ่น ที่ดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ต้องมนต์สะกด “Laureato 42mm Green”
ในปี ค.ศ. 2017 จิราร์ด-แพร์โกซ์ ได้เปิดตัวเจเนอเรชันที่ห้าของ ลอรีอาโต ซึ่งเป็นงานออกแบบที่ได้นำมาปรับใช้ในผลงานใหม่ อย่าง “ลอรีอาโต 42 มิลลิเมตร กรีน” (Laureato 42mm Green) ซึ่งเป็นการหลอมรวมความร่วมสมัยของลอรีอาโต ที่ยังคงไว้ซึ่งดีไซน์ที่เป็นต้นแบบของรุ่นดั้งเดิมในปี ค.ศ. 1975 เข้ากับความสง่างามแห่งสีเขียวของหน้าปัด ขณะที่พื้นผิวลวดลายของหน้าปัดสะท้อนถึงความประณีตละเอียดอ่อนของพื้นผิวลวดลายถักทอ พร้อมด้วยการปกป้องของแผ่นกระจกหน้าปัดแซฟไฟร์
ลอรีอาโต 42 มม. กรีน ยังมาพร้อมตัวเรือนสเตนเลสสตีล โดยการบรรจบระหว่างงานตกแต่งพื้นผิวทั้งหมดด้วยการขัดเงาและขัดด้านแบบซาติน มีความหนาเพียง 10.68 มิลลิเมตร มาพร้อมกับกับสายสเตนเลสสตีลที่ออกแบบรูปทรงให้เพรียวบาง ทำให้สวมใส่สบายข้อมือ
ขณะที่หน้าปัดล้อมกรอบไว้ด้วยขอบตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ แสดงค่าเวลาด้วยเข็มชี้ ผ่านเครื่องหมายบอกเวลาทรงบาตองเคลือบพีวีดีสีดำ อีกทั้งยังเคลือบสารเรืองแสงสีขาว ที่ช่วยให้อ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจนในที่มืด โดดเด่นด้วยเข็มวินาทีกลางแบบเรียวยาว มอบภาพที่ตัดกันอย่างสง่างามกับพื้นผิวหน้าปัด กลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ คาลิเบอร์ จีพี 01800 (Calibre GP01800) ที่สามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 54 ชั่วโมง
Laureato Absolute Light & Shade อีกก้าวของเจเนเรชั่นใหม่
ในปี ค.ศ. 2019 จีราร์ด-แพร์โกซ์ ได้เผยโฉมคอลเลกชัน ลอรีอาโต แอบโซลูต (Laureato Absolute) ที่ตีความใหม่ทำให้ดูแข็งแกร่งมากขึ้นจากรุ่นปี ค.ศ. 1975 รวมไปถึงขอบตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมที่คงเอกลักษณ์ ถูกจัดวางไว้ด้านบนสุดของวงแหวนทรงกลม โดยคอลเลกชัน ลอรีอาโต แอบโซลูต มาพร้อมกับสายยางแบบอินทิเกรตเต็ด ตอกย้ำภาพลักษณ์อันร่วมสมัยของคอลเลกชัน ลอรีอาโต จนทำให้ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี
จากความสำเร็จดังกล่าว ในปี 2023 จีราร์ด-แพร์โกซ์ ได้ต่อยอดด้วยผลงาน ลอรีอาโต แอบโซลูต ไลท์ แอนด์ เฉด (Laureato Absolute Light & Shade) รังสรรค์ขึ้นจากองค์ความรู้แห่งการประดิษฐ์นาฬิกาที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังใช้ความเชี่ยวชาญในการผลิตและคิดค้นนวัตกรรมทางด้านวัสดุ นำเสนอตัวเรือนที่ผลิตจากคริสตัลแซฟไฟร์เคลือบโลหะ สะท้อนความแวววาวอันชวนให้หลงใหล ขณะที่ในอีกด้านหนึ่งแสดงออกถึงภาพลักษณ์อันเรียบง่ายและมอบซึ่งความโปร่งใส ซึ่งตรงกันข้ามกลับดูลึกลับและเต็มไปด้วยแสงสะท้อน เรียกได้ว่าเป็นเรือนเวลาที่เป็นจุดบรรจบระหว่างการออกแบบที่ตัดกัน และสร้างความโดดเด่นให้กับการแสดงออกอันร่วมสมัยของการประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวหนึ่งเดียว
ลอรีอาโต แอบโซลูต ไลท์ แอนด์ เฉด ยังโดดเด่นด้วยตัวเรือนคริสตัล แซฟไฟร์ ที่แสนปราณีต ต้องผ่านกระบวนการและเทคนิคที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญขั้นสูงและใช้เวลาถึง 170 ชั่วโมง ซึ่งนอกจากจะสะท้อนถึงสุนทรียะความสวยงาม ยังมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ไม่เป็นรอง โดยลอรีอาโต แอบโซลูต ไลท์ แอนด์ เฉด ใช้กลไกที่ผลิตขึ้นภายในโรงงาน อย่างคาลิเบอร์ จีพี 01800-1143 มีการติดตั้งด้วยบาลานซ์สปริง ช่วยทำให้สามารถส่งมอบแรงขับเคลือนที่เสถียรและป้องกันจากแรงกระแทกและสั่นสะเทือนได้ดี
ขณะที่กลไกแบบสเกเลตันได้เผยความซับซ้อนของชิ้นส่วนต่างๆ จากที่ปกติจะถูกซ่อนไว้จากการมองเห็น พร้อมทั้งมอบทัศนียภาพอันชวนหลงใหลของเส้นสายที่ดูโค้งและมีมิติ การออกแบบแบบโอเพนเวิร์กช่วยทำให้มองเห็นแต่ละชิ้นส่วนของกลไก รวมถึงบาลานซ์วีลที่แกว่งไปมาราวกับเต้นระบำ ส่วนโรเตอร์ทองถูกขัดแต่งอย่างสวยงาม
เช่นเดียวกับเข็มชั่วโมงและนาทีแบบโอเพนเวิร์ก ที่ทำให้อ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจน ขณะที่วงแหวนแบบสามมิติซึ่งติดตั้งระหว่างขอบตัวเรือนและกลไกยังสอดประสานกับการตกแต่งของโลโก้ GP ในตำแหน่ง 12 นาฬิกา จัดเรียงด้วยเครื่องหมายบอกเวลาแบบอินเด็กซ์ ทั้ง 11 ตำแหน่ง เพื่อความสะดวกสบายในการอ่านค่าเวลา
ส่วนตัวเชื่อมสายทำจากไทเทเนียมเคลือบพีวีดีสีดำทั้งสองด้าน ดูสอดรับกับตัวเรือนได้อย่างกลมกลืน สะท้อนภาพลักษณ์อันร่วมสมัย โดยตัวเชื่อมสายยังสอดแทรกรายละเอียดด้วยพื้นผิวขัดแต่งแบบด้านซาตินเข้ากับเหลี่ยมมุมต่างๆ ตัวเรือนประกอบเข้ากับสายยางจึงทำให้สวมใส่สบายไม่ระคายเคืองข้อมือ
เพื่อเป็นการทำให้สายนาฬิกาดูโดดเด่นยิ่งขึ้น จึงเพิ่มด้วยการตกแต่งสายด้านหน้าด้วยลายผ้า ขณะที่ตัวล็อกสายแบบหัวเข็มขัดยังมาพร้อมระบบปรับเลื่อนขนาดของสายทำให้สามารถปรับได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดาย ด้านข้างตัวเรือนติดตั้งเม็ดมะยมทำจากไทเทเนียมผ่านการขัดตกแต่งแบบแซนด์บลาสต์
สัมผัสประสบการณ์เรือนเวลาที่มาตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งาน อย่าง จีราร์ด-แพร์โกซ์ ลอรีอาโต ทั้งสองรุ่นได้แล้ว โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.thehourglass.com/th/catalog/girard-perregaux/laureato/