Seegene ช่วยหยุด วิกฤตโควิด-19 ในเกาหลีใต้ได้อย่างไร - Forbes Thailand

Seegene ช่วยหยุด วิกฤตโควิด-19 ในเกาหลีใต้ได้อย่างไร

31 ธันวาคม วันสุดท้ายแห่งปี 62 ข่าวการติดเชื้อและแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าในมณฑล Wuhan ประเทศจีน เดินทางมาถึงเกาหลีใต้ Chun Jong-yoon, chief executive แห่ง Seegene ได้คาดการณ์ถึงความเลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการระบาดที่ลามไปทุกพื้นที่บนโลก

Seegene ธุรกิจด้านไบโอเทคโนโลยี ได้หยุดการทำงานวิจัยทุกฝ่ายภายใน และสั่งการให้หัวหน้านักวิจัยและทีมงานทุกคนมุ่งเป้าการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างชุดวินิจฉัยการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 “การพัฒนาจำเป็นต้องทำให้เร็วที่สุด” Chan กล่าวและเสริม “เราต้องพร้อมรับมือก่อนที่สถานการณ์วิกฤตจบานปลายและเลวร้ายไปกว่านี้” ช่วงเวลาสองสัปดาห์ในห้องทดลอง Seegene ได้ทดสอบชุดวินิจฉัยที่เรียกว่า “Allplex 2019-nCoV” จนกระทั่งวันที่ 27 มกราคม 2020 ประเทศเกาหลีใต้ได้รับการยืนยันผู้ติดเชื้อรายแรก และเป็นวันที่ Chun ได้รับสายด่วนจาก Korea Centers for Disease Control and Prevention หรือ KCDC เพื่อขอทดสอบชุดวินิจฉัย Allplex 2019-nCoV และรวมไปถึงการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่าง Seegene’s และ KCDC วันที่ 12 กุมภาพันธ์ KCDC ได้รับรองชุดวินิจฉัยของเขาในการใช้ตรวจสอบหาไวรัสโคโรน่า จากเดิมที่กระบวนการการรับรองที่ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหกเดือน ขณะที่องค์กรซึ่งรับผิดชอบจากยุโรปให้การตอบกลับรับรองผลงานของเขาเพียงห้าวันเท่านั้น “ความเร่งด่วนคือปัจจัยสำคัญยิ่ง” Chun กล่าวเสริม “ความเป็นจริงแล้วเคซีดีซีไม่เคยรับรองสิ่งใดเพียงใช้เวลาแค่สองอาทิตย์” จากความพร้อมในชุดวินิจฉัยของ Seegene ควบคู่กับการลงพื้นทำงานอย่างรวดเร็วรวมไปถึงมาตรการอื่นๆ ของรัฐบาลเกาหลีใต้ ได้ช่วยให้ประเทศที่มีประชากรจำนวนมากถึง 51 ล้านคนมีผู้ติดเชื้อต่ำกว่าหนึ่งหมื่นราย ซึ่งเป็นตัวเลขสถิติของผู้ติดเชื้อที่ต่ำกว่าประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่มีประชากรจำนวน 8.6 ล้านคน ช่วงเวลาที่ Forbes Korea ได้สัมภาษณ์ Chun ผู้ก่อตั้ง Seegene คือกลางเดือนมีนาคม เป็นช่วงเวลาที่ Seegene ได้รับคำสั่งการผลิตเข้ามาเป็นจำนวนมาก จากอัตราการผลิตก่อนเกิดวิกฤตครั้งนี้ บริษัทมีการผลิตชุดวินิจฉัยตรวจสอบต่างๆ ที่ราวแสนชิ้นต่อสัปดาห์ แต่ปัจจุบันกำลังการผลิตชุดวินิจฉัยต่ออาทิตย์เพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านชุด เพื่อเป็นการใช้ภายในประเทศและส่งออกไปยังสู่ 40 ประเทศทั่วโลก อาทิ ประเทศที่วิกฤตหนัก อย่าง ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน และประเทศรอบๆ เอเชีย ขณะที่สหรัฐฯ ชุดวินิจฉัยกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาจาก FDA

-F-

สายการผลิตของบริษัทไบโอเทคโนโลยีแห่งนี้ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง “ปัจจุบันเราหยุดการทำงานอื่นๆ และทุ่มกำลังที่มีในการผลิตชุดวินิจฉัย” Chun กล่าวและเสริมว่า “ความต้องการมหาศาลทั้งจากรัฐบาลเกาหลีใต้เอง จากหน่วยงานแพทย์ที่หลั่งไหลเข้ามา บริษัทรองรับการผลิตสูงสุดที่ราว 3 ล้านชุดต่ออาทิตย์ แต่ถ้าจำนวนดังกล่าวยังขาดแคลน เราอาจเตรียมส่งผู้เชี่ยวชาญไปช่วยผลิตชุดวินิจฉัยดังกล่าวสำหรับกลุ่มบุคคลที่สามโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย นี้เป็นสิ่งที่เราตั้งใจและไวรัสไม่ควรแพร่กระจายไปมากกว่านี้เมื่อเรามีเครื่องมือในการตรวจสอบ” Seegene มีอาคารสำนักงานจำนวน 2 ซึ่งตั้งอยู่ค่อนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุง Seoul และโดยธรรมชาติของบริษัทที่ทำงานด้านไบโอเทคโนโลยีไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้พื้นที่จำนวนมากหรือการติดตั้งเครื่องจักรขนาดใหญ่ สิ่งที่ Chun ทำในตอนนี้คือจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าเพื่อผลิตให้ทันตามความต้องการ และเพิ่มเครื่องมือการผลิตจากเดิมที่มีอยู่เดิมจาก 2 ระบบเป็น 3 โดยเขามองไปถึงปีหน้าอาจย้ายฐานการผลิตไปที่ยังชานกรุง Seoul เพื่อเป็นฐานการผลิตในอนาคต

-F-

Chun ในวัยเด็กต้องผจญกับวัณโรค หลังจบมัธยมเขาต้องใช้เวลาถึงห้าปีในการฟื้นฟูสุขภาพทำให้ไม่สามารถเรียนในชั้นมัธยมปลาย แต่หลังรักษาวัณโรคหาย เขาได้เรียนเทียบชั้นมัธยมปลาย เรียนจบปริญญาตรีด้านการเกษตรที่มหาวิทยาลัย Konkok กรุง Seoul และ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ จาก มหาวิทยาลัยแห่งรัฐ Tennessee สหรัฐฯ และใช้เวลาเป็นอาจารย์ผู้ช่วยสอนที่มหาวิทยาลัย Harvard และ University of California, Berkeley อังกฤษ ปี 1995 เขาเดินทางกลับมาใช้ชีวิตที่เกาหลีใต้ ยุติผลการวิจัยด้าน DNA ที่เขาถนัดและเริ่มต้นอาชีพด้านการศึกษาเป็นศาตราจารย์ด้านชีววิทยาที่มหาวิทยาลัย Ewha Womans ในกรุง Seoul ซึ่งเป็นสถานศึกษาที่ทำให้เขาพบว่าหัวใจของผู้ประกอบการยังคงเต้นอยู่ภายใน และกำลังบ่งบอกสิ่งบางอย่าง “แม้ใช้ชีวิตในสถานศึกษาแต่ในหัวกลับคิดแต่จะทำธุรกิจ” Chun กล่าว

-F-

​ปี 2020 Chun ก่อตั้ง Seegene ด้วยเงินตั้งต้น 300 ล้านวอนจากผู้เป็นลุง และบริหารธุรกิจด้วยรายรับเป็นศูนย์ตลอด 3 ปีแรกของการทำธุรกิจ “เป็นช่วงเวลายากลำบากสิ่งที่เราทำได้คือมุ่งมั่นและทำต่อไป ถ้าวันหนึ่งเรามีผลงานที่สุดพิเศษ วันนั้นทั้งโลกจะมองมาที่เรา” Chun กล่าวย้อนคิด ธุรกิจของ Seegene เกี่ยวข้องกับการพัฒนาชุดวินิจฉัยสำหรับการทดสอบด้านต่างๆ อาทิ ทางเดินหายใจ การย่อยอาหาร การติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์ และโรคมะเร็ง สัดส่วนทางการตลาดของเขาส่วนมากมาจากการส่งออกที่ 82% ซึ่งเป็นที่มาของรายได้หลัก โดยเน้นส่งออกไปยังสหรัฐฯ และประเทศในทวีปยุโรปเป็นหลัก เขาเผยว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้เขารุกตลาดต่างประเทศสำเร็จคือการเดินทางไปทั่วโลกทำการทดสอบผลิตภัณฑ์ด้วยตนเองกับกลุ่มเป้าหมาย ก่อนการเกิดระบาดของโคโรน่าไวรัส ในปีที่ผ่านมาบริษัทแห่งนี้มีรายรับเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าตัวที่ 23 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้านยอดขายเพิ่มขึ้นมากถึง 19% ไปแตะที่ 105.3 ล้านเหรียญ โดยมูลค่าต่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ราคาต่อหุ้นของ Seegene สูงขึ้นเป็นเท่าตัวที่ราว 88,100 วอน และมีมูลค่าทางการตลาดราว 2 พันล้านเหรียญ สำหรับชุดวินิจฉัยของ Seegene แยกทดสอบในหลอดทดลองแต่ละหลอดเพื่อระบุยีนที่มีเชื้อโควิด-19 ช่วยให้การทดสอบทำงานง่าย แต่จำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทดสอบเพื่อลดความผิดพลาดของผลการวินิจฉัย ขณะที่การทดสอบแบบอื่นพบการไวรัสที่แอนติบอดี้ แต่ชุดทดสอบของ Seegene ชี้ให้เห็นจุดที่ไวรัสอาศัยในส่วนที่เป็นของเหลวก่อนถึงโครงสร้างแอนติบอดี้ ซึ่งนั่นหมายความว่าเราจะสามารถตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 ก่อนการเกิดการแสดงอาการป่วย Chun กล่าวว่าชุดวินิจฉัยโรคของเขาจะไปให้ถึงการทดสอบในระดับโมเลกุลภายในสิบปีและทิ้งท้ายว่า “ผมตั้งใจสร้างชุดทดสอบไปถึงระดับโมโลกุลและเพื่อทุกคนเข้าและสามารถใช้งานอย่างแพร่หลาย” เรียบเรียงใหม่จาก: How One Firm's Covid-19 Tests Help Control The Virus In South Korea เผยแพร่บน Forbes.com
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine