"ผมอยากเห็นสัมมากรกลายเป็นบริษัทอายุ 100 ปี" นี่คือหมุดหมายใหญ่ที่ ณพน เจนธรรมนุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) ตั้งใจไว้ แม้ตัวเลข 100 ปีจะฟังดูเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน จนแทบจะเกินชั่วอายุคน แต่ผู้บริหารหนุ่มกล่าวอย่างติดตลกว่า "ผมเชื่อว่าตอนนั้นผมยังอยู่ และคงจะภูมิใจมากๆ แม้จะไม่ได้เป็นผู้บริหารแล้ว"
อย่างไรก็ตามก่อนจะไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนได้ ต้องเริ่มจากการวางรากฐานวันนี้ให้แข็งแรง นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหลังจากที่ณพนสั่งสมประสบการณ์จนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำคนใหม่ของสัมมากรเขาจึงเดินหน้าสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้สัมมากร พร้อมนำองค์กรบุกตลาดบ้านเดี่ยวลักชัวรี่ ประเดิมด้วยโครงการสร้างชื่ออย่าง Providence Lane Ekkamai-Ramintra โครงการบ้านเดี่ยวขนาด 3 ชั้น จำนวน 12 ยูนิต บนทำเลเอกมัย-รามอินทรา ที่สามารถปิดการขายภายในปีเศษๆ เท่านั้น และล่าสุดกับโครงการ Park Heritage โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury จำนวน 32 ยูนิต ราคา 59-98 ล้านบาท ในซอยพัฒนาการ 20
เบื้องหลังไอเดียการขยายพอร์ตใหม่ของสัมมากรคืออะไร ทำไมการเข้ามาเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดบ้านเดี่ยวลักชัวรี่ของดีเวลลอปเปอร์ผู้มากประสบการณ์ถึงน่าจับตามอง ไปหาคำตอบพร้อมกัน
ณพน เริ่มต้นด้วยการฉายภาพให้เห็นถึงโอกาสที่น่าจับตามองของตลาดบ้านลักชัวรี่อย่างน่าสนใจว่า เป็นตลาดที่มีดีมานด์เติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเมื่อย้อนไปในปี 2019 ที่สัมมากรเริ่มมีไอเดียจะเจาะตลาดนี้ กลับพบว่าไม่ได้มีคู่แข่งในตลาดมากนัก
"ที่ผ่านมาสัมมากรไม่เคยทำโครงการบ้านระดับลักชัวรี่ (ราคาเกิน 20 ล้านบาท) มาก่อน ราคาบ้านสูงสุดที่เราเคยทำคือเซกเมนต์พรีเมียม แต่จากประสบการณ์ที่เราอยู่ในวงการมากว่า 54 ปี ทำให้เราเห็นอินไซต์และรู้ว่าอะไรคือ Pain Point ของลูกค้า ทั้งเรื่องขนาดและฟังก์ชันภายในบ้าน รวมถึงวัสดุคุณภาพที่ลูกค้ามองหา ดังนั้นพอเห็นดีมานด์ที่เติบโตของลูกค้ากลุ่มลักชัวรี่ที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่าลูกค้ากลุ่มอื่นๆ จากสภาวะเศรษฐกิจ เลยตัดสินใจนำจุดแข็งที่มีมาต่อยอดเพื่อบุกตลาดนี้"
ณพนเล่าให้เห็นภาพ ก่อนเฉลยถึงที่มาของคอนเซ็ปต์ โครงการบ้านเดี่ยวของสัมมากร ที่แม้แต่ละโครงการจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน แต่ทั้งหมดล้วนอยู่ภายใต้นิยามของความสวยแบบ Timeless สามารถอยู่อาศัยได้แบบเหนือกาลเวลา พร้อมที่จะส่งต่อเป็นมรดกจากรุ่นสู่รุ่น
"ความลักชัวรี่ในแบบของสัมมากรคือ การมองไปถึงคุณค่าเริ่มตั้งแต่มูลค่าของที่ดิน อย่างโครงการ Park Heritage จัดว่าเป็นโครงการจัดสรรขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ทองหล่อมากที่สุดในตอนนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าในอนาคตจะหาที่ดินแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้นมูลค่าของที่ดินไม่ต้องพูดถึง ขณะเดียวกันแม้จะอยู่ในทำเลที่ใกล้เมือง สามารถเชื่อมต่อไปยัง CBD ได้อย่างง่ายดาย แต่ภายในโครงการยังตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี ในส่วนของการออกแบบโครงการ ด้วยความที่เข้าใจในวิถีชีวิตคนไทยมากว่า 54 ปี เราจึงพิถีพิถันในการลงรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้อย่างไร้ที่ติ แม้แต่ดีเทลเล็กๆ อย่างการออกแบบตู้เก็บรองเท้าให้อยู่ในตัวบ้านแทนที่จะอยู่ในโรงจอดรถ หรือการทำครัวไทยสเตนเลสแบบฟูลออปชันแยกสัดส่วนชัดเจน ตอบโจทย์การทำอาหารไทยที่มีกลิ่นและความมัน ช่วยให้ทำความสะอาดง่ายและใช้งานได้ทนทานนานขึ้น"
นอกจากนี้เพื่อสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือระดับลงตัวกับการใช้ชีวิตของสมาชิกในทุกเจเนอเรชั่น ณพนเลือกจับมือกับพาร์ตเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญมาช่วยสะท้อนความเป็นเลิศด้านสถาปัตยกรรมร่วมสมัยสไตล์ Modern Classic และการผสาน ART, ARCHITECH และ NATURE ตามแนวคิด "Multidimensional Integration" โดยร่วมมือกับ "สถาบันอาศรมศิลป์" เพื่อวางผังโครงการ ชูจุดเด่น Cluster Zone ให้บ้านแต่ละโซนมีจำนวนหลังไม่มาก เเละหลังบ้านไม่ชนกัน ด้วยการวางผังบ้านเรียงเป็นเเนวเดียว ที่สำคัญคือมีการผสมผสานธรรมชาติในทุกพื้นที่อย่างกลมกลืน พร้อมกันนี้ยังได้ "PIA" มาร่วมออกแบบและตกแต่งภายในทั้ง 3 แบบบ้าน นำเสนอความร่วมสมัยที่ไร้กาลเวลา ผสานความหรูหราเหนือระดับ กับการจัดวางพื้นที่ใช้สอยให้มีความยืดหยุ่น ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยทุกเจเนอเรชั่น
"อย่างคลับเฮ้าส์ที่ Park Heritage เราจัดเต็มมาก นอกจากสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ยังมีห้องสปา ห้องอเนกประสงค์ 2 ห้อง และห้องกอล์ฟซิมูเลเตอร์ เพราะเราอยากให้คลับเฮ้าส์เป็นเหมือนพื้นที่ที่ลูกบ้านสามารถมาใช้ประโยชน์ แทนที่จะต้องไปทำห้องเหล่านี้เองที่บ้าน หรืออย่างอุโมงค์ต้นไม้ เราตั้งใจให้เป็นเหมือนจุดเปลี่ยนผ่านระหว่างความเป็นเมืองเข้าสู่ความสงบ ซึ่งต้นไม้ใหญ่ที่เราตั้งใจเตรียมไว้นี้ในอนาคตก็จะเป็น Asset ของลูกบ้าน"
ปัจจุบันโครงการ Park Heritage ทยอยปิดการขายไปแล้ว และจะสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการในปลายปี 2568 โดยสัมมากรยังคงเดินหน้าบุกตลาดบ้านเดี่ยวลักชัวรี่อีกหลายโครงการในหลายทำเล
แน่นอนว่าเมื่อไอเดียธุรกิจพร้อมพาองค์กรทะยานไปข้างหน้าแล้ว อีกหัวใจสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ บทบาทการเป็นผู้นำ ณพนยอมรับว่าขึ้นชื่อว่าผู้นำไม่มีคำว่าง่าย แต่การเป็นผู้นำที่มาพร้อมการสร้างการเปลี่ยนแปลงยากกว่า ดังนั้นวิธีการบริหารของเขาคือ การสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก โดยเขาเชื่อว่าทุกความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ไม่ได้มาจากคนเพียงคนเดียว แต่ต้องอาศัยพลังจากทุกคน
"ผมให้ความสำคัญกับทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ในฝั่งพนักงานผมมองว่าทุกคนคือเพื่อนร่วมงาน ที่มารวมตัวกันเพื่อสร้างสิ่งที่มีประโยชน์ด้วยกัน ดังนั้น เราต้องเคารพซึ่งกันและกัน และที่ขาดไม่ได้คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อกับการทำงานที่คล่องตัว เพราะแม้วงการอสังหาฯ จะเปลี่ยนช้าแต่ใช่ว่าจะไม่เปลี่ยน ดังนั้นองค์กรต้องยืดหยุ่น กล้าที่จะคิดนอกกรอบ"
สำหรับอนาคตนอกจากโครงการต่างๆ ที่จะทยอยเปิดตัว ณพน ยังแย้มว่าตลาดคอนโดฯ เป็นอีกหนึ่งเซกเมนต์ที่สัมมากรยังไม่เคยกระโดดลงมาเล่น แต่จากนี้ด้วยวิสัยทัศน์ที่อยากเห็นสัมมากรพาตัวเองเข้าไปในน่านน้ำธุรกิจใหม่ๆ มากขึ้น คอนโดฯ จึงเป็นอีกหนึ่งตลาดที่น่าจะได้เห็นสัมมากรเข้ามาจับตลาด
สุดท้ายนี้ถามว่าอะไรคือ Key Success ที่ทำให้สัมมากร เป็นผู้พัฒนาโครงการบ้านจัดสรรรายแรกๆ ที่ยังยืนหยัดมาถึงวันนี้ ณพน ตอบอย่างมั่นใจว่า ความน่าเชื่อถือที่แบรนด์สั่งสมมาจนทำให้ลูกค้าให้ความไว้วางใจ
"พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าที่ผ่านมาเราไม่เคยมีข้อผิดพลาดเลย เพราะอย่าลืมว่าการสร้างบ้านคืองานฝีมือ แต่เราคิดว่าเราทำสิ่งที่ถูกต้อง เลือกสิ่งที่ดีให้กับลูกค้า" ณพน กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าชมโครงการ Park Heritage
สามารถลงทะเบียนนัดหมายเข้าชมโครงการได้ที่ https://bit.ly/4dortnX หรือโทรสอบถามข้อมูลได้ที่ 1427