ถ้าพูดถึงหนึ่งในอภิมหาโปรเจกต์มูลค่าแสนล้าน ที่หลายคนกำลังตั้งตารอว่าจะมาพลิกโฉมวงการอสังหาริมทรัพย์บ้านเรา เชื่อว่าหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ "เดอะ ฟอเรสเทียส์" (The Forestias) อภิมหาโปรเจกต์ริมถนนบางนา-ตราด ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์เมืองแห่งความสุข พร้อมที่อยู่อาศัยบนผืนป่า
อย่างไรก็ตาม ความน่าสนใจของเดอะ ฟอเรสเทียส์ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่มูลค่าหรือคอนเซ็ปต์โครงการที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน แต่ภายในโครงการยังอัดแน่นไปด้วยความพิเศษมากมาย หนึ่งในไฮไลท์ที่รับรองว่าใครได้มาสัมผัสต้องหลงรักและอยากบอกต่อ คือ โครงการ Happitat ที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์
ครั้งนี้ต้องบอกว่า MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) ผู้พัฒนาโครงการเมืองเดอะ ฟอเรสเทียส์ เล่นใหญ่ทุ่มงบกว่า 20,000 ล้านบาท เพื่อเนรมิตพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร ให้ Happitat at The Forestias เป็นจุดหมายแห่งใหม่ของความสุขเหนือจินตนาการของคนทุกเจนเนอเรชั่น
หลายคนคงอดสงสัยไม่ได้ว่า แล้ว Happitat at The Forestias จะถูกเนรมิตออกมาอย่างไรเพื่อให้สมกับเป็นอีกหนึ่งแต้มต่อให้โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ที่ชวนให้ว้าวอยู่แล้ว ยิ่งเหนือชั้นขึ้นไปอีก เพื่อไขทุกข้อข้องใจ Forbes จะพาไปเจาะลึกทุกรายละเอียดกับคุณอรดา เกิดหงษ์ ประธานผู้อำนวยการ Storied Place, MQDC แม่ทัพหญิงผู้อยู่เบื้องหลังการเนรมิต Happitat at The Forestias ให้เป็น "New Themed Destination"
ก่อนจะเฉลยถึงความพิเศษของที่อัดแน่นอยู่ใน Happitat at The Forestias คุณอรดา ชวนทุกคนไปทำความรู้จัก Happitat ก่อนว่ามีที่มาอย่างไร
Happitat เป็นจุดหมายแห่งใหม่ของความสุขเหนือจินตนาการ โดยมี Storied Place ซึ่งเป็นทีมบริหารธุรกิจ Mixed-use ภายใต้ MQDC เป็นผู้ดูแล ภายในอาณาจักรแห่งความสุข ที่ชื่อ Happitat นี้ จะประกอบไปด้วย พื้นที่จัดกิจกรรม อีเวนต์ พาเหรด พื้นที่สำนักงานออฟฟิศให้เช่า พื้นที่ร้านค้า ร้านอาหาร ซึ่งมองผิวเผิน อาจจะไม่ต่างจากโครงการ Mixed-use ทั่วไป แต่สิ่งที่ทำให้ Happitat "โดดเด่นและแตกต่าง" จนฉีกกรอบจากโครงการ Mixed-use อย่างสิ้นเชิง คือ Happitat at The Forestias ไม่ใช่ห้าง เพราะรากฐานในการพัฒนาโครงการนี้ตั้งต้นมาจากความสุข เราคำนึงถึงความสุขของการใช้ชีวิตของผู้คน ดังนั้น โครงการและพื้นที่ของเราจึงไม่ได้เน้นการพัฒนาพื้นที่เพื่อธุรกิจ แต่เป็นเพื่อความสุข ทั้งของลูกค้าที่มาเยือน ตลอดจนผู้เช่า จึงนำไปสู่การออกแบบที่ลงลึกทุกรายละเอียด เพื่อให้ทุกพื้นที่ภายใน Happitat ส่งมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำและหาไม่ได้
"เรามี Strong Themed Concept ของ Happitat at The Forestias คือ เป็นที่ที่ความสุขพบกับธรรมชาติอย่างแท้จริง เพราะด้วยที่ตั้งอยู่ติดกับพื้นที่ป่าเดอะ ฟอเรสต์เทียส์ จึงทำให้ทุกคนที่มาเยือนสามารถใกล้ชิดธรรมชาติได้ และด้วยความลงตัวของการใช้ชีวิตท่ามกลางพื้นที่เขียว ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบหลักใหญ่ๆ นี้เองที่ทำให้ Happitat at The Forestias เป็น Themed Destination ที่แตกต่างจากที่อื่น นอกจากนี้เรายังนำคอนเซ็ปต์ของความสุขกับธรรมชาติ มาออกแบบอาคาร ดีไซน์ประสบการณ์ รวมถึงกิจกรรมพิเศษต่างๆ เพื่อสร้างความทรงจำดีๆ ให้กับทุกคนที่มาเยือน" นอกจากนี้ เรายังได้พันธมิตรระดับโลกมาช่วยเนรมิตให้ Happitat at The Forestias เป็นจุดหมายแห่งความสุขแบบเต็มรูปแบบ ในส่วนของการออกแบบและด้านสถาปัตยกรรม เราได้ Foster + Partners (ฟอสเตอร์แอนด์พาร์ทเนอร์) บริษัทสถาปนิกชื่อดังจากอังกฤษมาออกแบบให้ ในส่วนของการออกแบบกิจกรรม ประสบการณ์ และความบันเทิงต่างๆ เราได้ ITEC Entertainment (ไอเทค เอนเตอร์เทนเมนต์) ผู้ออกแบบความบันเทิง และแฟลกชิพสโตร์ให้กับดิสนีย์แลนด์มาช่วยดูแลการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า (Customer Experience) รวมถึงร่วมงานกับศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) ที่ดูแลเรื่องการนำนวัตกรรมกับเทคโนโลยีมาช่วยสร้างนวัตกรรมที่ยั่งยืนทั้งในเชิงสิ่งแวดล้อมและสังคมให้กับโครงการ และ Future Tales Lab (ศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา) ที่ศึกษางานวิจัย และสถานการณ์แนวโน้มในอดีต ปัจจุบัน เทรนด์ในอนาคต รวมไปถึงศึกษาเรื่อง Future of Immersive of Experience เพื่อนำผลการศึกษามาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาโครงการ Happitat ด้วย
แล้วประสบการณ์ความสุขที่ Happitat at The Forestias ทุ่มงบ 20,000 ล้านบาท เพื่อเนรมิตขึ้นมา จะมีไฮไลท์อะไรที่น่าสนใจบ้าง
คุณอรดา อธิบายให้เห็นภาพว่า ภายใน Happitat มี Attraction มากมายที่ตอบโจทย์ความสุขให้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย (Multi-Generation) ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา เริ่มต้นจากอาคารแรก Bloominas พื้นที่ต้อนรับ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการและทุกไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่กิจกรรม ร้านค้า ร้านอาหาร สำหรับมอบความสุขและความสนุกให้ทุกคนที่มาเยือนแบบไม่รู้จบ
ถัดมาคือ Wonderwild ศูนย์การเรียนรู้รูปแบบใหม่ที่ใหญ่สุดในย่านบางนา ที่ตอบโจทย์ทุกกิจกรรมของครอบครัว มีกิจกรรมเสริมทักษะ เวิร์กช็อป อาคารสำนักงาน ร้านอาหาร คาเฟ่ รวมถึงความบันเทิงต่างๆ ส่งท้ายด้วย Festie Town รองรับทุกประสบการณ์ความสนุกและจินตนาการของทุกคน ด้วยพื้นที่จัดอีเวนต์ พาเหรด และการแสดงอันน่าตื่นตาตื่นใจ ตลอดจนงานเฉลิมฉลองในเทศกาลสำคัญต่างๆ ที่คัดสรรมาให้ชมตลอดทั้งปี
"ความพิเศษของ Happitat at The Forestias ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะ Attraction ที่บอกแต่ละจุดมีความน่าสนใจแตกต่างกันไป เรียกน้ำย่อยด้วย Whimsical Market มาร์เก็ตฮอลล์ ในดีไซน์น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมคาเฟ่ร้านอาหาร มี World Class Immersive Content ให้ได้ชมกัน, ส่วนใครที่เป็นสายชอบผจญภัย พลาดไม่ได้กับ Forest School กิจกรรมเรียนรู้บนผืนป่า เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ถูกออกแบบให้ทุกวันสามารถเข้าไปสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด ขณะที่สายชอบความบันเทิง เรามี Lumis Theater Hall โรงละครขนาดใหญ่ พร้อมโชว์ที่จัดแสดงตลอดทั้งปี"
คุณอรดา ยังเสริมด้วยว่า นอกจาก Happitat at The Forestias จะเต็มไปด้วยกิจกรรมที่ตอบโจทย์สมาชิกทุกเจนเนเรชั่นในครอบครัว ยังมี The Hilltop Offices อาคารสำนักงานสูง 10 ชั้น มีพื้นที่ประมาณ 23,000 ตร.ม. Happitat at The Forestias ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์คนทำงานโดยเฉพาะ
"อยากให้ทุกคนลองจินตนาการถึงออฟฟิศที่เราสามารถนั่งทำงาน ท่ามกลางวิวป่าสุดลูกหูลูกตา ขนาด 30 ไร่ แต่ละชั้นมีพื้นที่สีเขียวและสวนลอยฟ้าให้เราได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติแม้อยู่ในเมือง จะช่วยเพิ่มความสุขและประสิทธิภาพในการงานทำงานให้ดียิ่งขึ้นได้ขนาดไหน คำตอบทั้งหมดอยู่ที่ The Hilltop Offices ซึ่งไม่เพียงมีบรรยากาศที่หาได้ยากสำหรับคนทำงานในเมือง แต่ยังครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ออกแบบและใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในส่วนพื้นที่สำนักงานออกแบบให้แสงธรรมชาติเข้าถึงพื้นที่ได้ มีระบบเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัย 24 ชม. พร้อมรองรับมาตรฐาน LEED & WELL จาก USGBC"
อรดา ยังเสริมด้วยว่า อีกหนึ่งจุดเด่นของ The Hilltop Offices คือ ทำเลที่ตั้ง ซึ่งพร้อมตอบโจทย์กับไลฟ์ไสตล์การทำงานของคนยุคใหม่ ที่ต้องการความสะดวกสบาย เพราะอยู่ใกล้กับทางขึ้น-ลงทางด่วนฯ สามารถเดินทางได้ด้วย MRT สถานีศรีเอี่ยม รถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วง ลาดพร้าว – สำโรง เดินทางไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ได้สะดวกสบาย ปัจจุบัน The Hilltop Offices มีบริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียว (Sole Agent) ในการปล่อยเช่าพื้นที่สำนักงานอาคาร
มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะมีคำถามในใจว่า ในขณะที่โครงการ Mixed-use ส่วนใหญ่ จะชูทำเลและฟังก์ชันในอาคารมาเป็นแนวคิดหลัก แต่ทำไม Happitat at The Forestias กลับเลือกที่จะนำความสุขของลูกค้าที่มาใช้บริการและผู้เช่ามาเป็นตัวตั้ง
คุณอรดา กล่าวว่า มีผลการวิจัยของ Harvard Study ระบุว่าความสุขเกิดจากการอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ การทำกิจกรรมร่วมกัน และการมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ซึ่ง Happitat at The Forestias มีครบทั้งธรรมชาติ และกิจกรรมที่ให้ทุกเจนทำร่วมกัน ดังนั้นจึงตอบโจทย์ในการสร้างความสุขอย่างชัดเจน และหากพูดถึงความสำเร็จของโครงการ Happitat at The Forestias คือ การที่ได้เห็นทั้งคู่ค้าที่มาเป็นส่วนหนึ่งของ Happitat at The Forestias และลูกค้าที่เข้ามาเที่ยวที่นี่ ไม่เพียงกลับบ้านไปพร้อมความสุข แต่ยังสามารถส่งต่อ หรือกระจายความสุขไปยังผู้คนรอบข้างด้วย เพราะจากการวิจัยของศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) ซึ่งเป็นทีมวิจัยภายใต้ MQDC พบว่าความสุขสามารถส่งต่อไปยังคนใกล้ชิดถึงได้ถึง 25% ในกลุ่มคนรูปแบบการใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ที่คล้ายคลึงกัน ในรัศมี 1.6 กม. โดยเฉพาะกับคู่สมรส พี่น้อง และเพื่อนบ้าน ดังนั้น ถ้าเราตั้งต้นว่า ความสุขสามารถส่งต่อหรือกระจายไปยังเพื่อนที่ใกล้ชิดและคนอื่นๆ อีกมากถึง 3 คน เพราะฉะนั้นหากลูกค้าของ Happitat at The Forestias ทำให้เพื่อนที่ใกล้ชิดคนหนึ่งมีความสุขมากขึ้น 15.3% เพื่อนที่ใกล้ชิดของเพื่อนก็จะมีความสุขมากขึ้น 9.8% และเพื่อนที่ใกล้ชิดของคนที่สองก็จะมีความสุขมากขึ้น 5.6%
"แนวคิดส่งต่อความสุขนี้ สอดคล้องกับแนวคิดของเรา ที่มองว่าหากคนเรามีความสุขกับสถานที่ไหน ก็มีโอกาสที่จะกลับมาสัมผัสประสบการณ์แห่งความสุขนั้นอีก ดังนั้นหากสามารถทำให้ลูกค้าพึงพอใจ มีความสุขและกลับมาที่ Happitat อีกครั้ง นอกจากจะเป็นความสำเร็จของทีมงาน ความสำเร็จนี้ยังส่งผลดีไปถึงผู้เช่า รวมถึงเป็นการสร้าง Word of Mouth ให้กับ Happitat ยิ่งเป็นที่รู้จัก เป็นสถานที่ที่ใครก็อยากมา และกลายเป็นรากฐานสำคัญที่จะทำให้เราเติบโตอย่างยั่งยืน"
ทั้งหมดนี้ คือ แนวคิดเบื้องหลังในการพัฒนา Happitat at The Forestias ซึ่งต้องบอกว่าฉีกกรอบจากโครงการ Mixed-use ทั่วไปตั้งแต่คอนเซปต์ ที่หยิบเอาเรื่องใกล้ตัวอย่าง "ความสุข" มาตีความในมิติใหม่ได้อย่างน่าสนใจ จนกลายเป็นดีเอ็นเอในการพัฒนาโครงการเพื่อเนรมิตจุดหมายใหม่แห่งความสุขเหนือจินตนาการของคนทุกเจนเนอเรชั่นให้เกิดขึ้นจริง จนไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมคุณอรดาถึงทิ้งท้ายอย่างน่าประทับใจว่า สำหรับเธอ Happitat at The Forestias คือ การทำธุรกิจจากการสร้างความสุขให้กับผู้คน