เรนวูด ปาร์ค เผยถึงโครงการมิกซ์ยูสระดับเมกะโปรเจกต์ที่ทุ่มงบลงทุน 3 หมื่นล้านบาท บนที่ดิน 2,000 ไร่ ย่านคลอง 11 จ.ปทุมธานี เบื้องหลังคือ ดึง 3 บริษัทอย่าง ฤทธา, A49 และ PIA ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างและออกแบบดีไซน์ ในการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมพัฒนาโมเดลเมืองอย่างยั่งยืน รองรับวิกฤตน้ำท่วม หรือแผ่นดินไหวไม่น้อยกว่า 7 ริกเตอร์ รวมถึงเหตุก่อการณ์ร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
วรพนิต รวยรุ่งเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เรนวูด กรุ๊ป เผยว่า หลังสถานการณ์ COVID-19 เราได้เรียนรู้ว่าผู้คนให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ความสงบ และความมั่นคงในชีวิตเพิ่มขึ้นกว่าในอดีต โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ 'เรนวูด ปาร์ค' จึงออกแบบมาให้เป็นเมืองที่พร้อมรับมือต่อความเปลี่ยนแปลง นับตั้งแต่โครงสร้างอาคารที่ทนแรงสั่นสะเทือนได้สูงกว่ามาตรฐานกำหนด ไปจนถึงระบบบริการมาตรฐานโรงแรมที่ทำให้ชีวิตประจำวันราบรื่นหมดความกังวล แม้ในวันที่โลกภายนอกจะไม่แน่นอน พร้อมเป็นพื้นที่ First-Class Destination ที่มอบความรู้สึกอุ่นใจในทุกๆ วัน จากความร่วมมือของ 3 บริษัท อย่าง ฤทธา, A49 และ PIA ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างและออกแบบดีไซน์
"ด้วยงบลงทุนสูงถึง 3 หมื่นล้านบาท เราให้ความสำคัญในการปรับที่ดินและวางโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดให้แข็งแกร่งก่อนที่จะก่อสร้างออกมาเป็น บ้าน โรงเรียน สนามกอล์ฟ โรงแรม และส่วนต่างๆ โดยหัวใจหลักของโครงการ คือ การมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ มีระบบพลังงานสะอาด บริการหลังการขายแบบ One-Stop Service รวมถึงการวางระบบบริหารจัดการที่ดี ที่บริษัทจะเป็นผู้ดูแลเองทั้งหมด 100% ลูกบ้านจะได้มั่นใจถึงคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในทุกวัน ช่วยตอบโจทย์วิถีชีวิตแก่ผู้คนในหลายเจเนอเรชัน หลายเชื้อชาติและวัฒนธรรม ควบคู่ไปกับการสร้างประโยชน์ต่อชุมชนโดยรอบ ช่วยสร้างงานให้ผู้คนในพื้นที่ได้มากถึง 40% และคาดว่าภายใน 5 ปี พื้นที่แห่งนี้จะมีมูลค่าโครงการเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท" วรพนิต กล่าว

ด้าน รศ.ดร. โชติชัย เจริญงาม ผู้อำนวยการพัฒนาโครงการ เรนวูด ปาร์ค กล่าวว่า เรนวูด ปาร์ค ได้ศึกษาปัจจัยด้านภูมิประเทศ ภูมิอากาศ สภาพดิน น้ำ ลม และไฟ เพื่อประเมินความเสี่ยงทั้งในปัจจุบันและระยะยาว อาทิ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ไปจนถึงคุณภาพอากาศ และนำข้อมูลที่ได้เหล่านี้มาออกแบบระบบให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคตข้างหน้าในเชิงวิศวกรรมได้เป็นอย่างดี
ยกตัวอย่าง เช่น การเลือกใช้เสาเข็มยาวรองรับพื้นที่ที่มีกายภาพของดินอ่อน ระบบบำบัดน้ำเสียที่ครอบคลุมทุกจุด ระบบผลิตน้ำสะอาดสำรอง บ่อกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ ต่อเนื่องไปถึงระบบพลังงานแสงอาทิตย์แบบ Floating Solar ขนาดกว่า 2 เมกะวัตต์ที่สามารถจ่ายไฟฟ้าให้โครงการได้อย่างเพียงพอหากเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝัน โดยระบบสาธารณูปโภคเหล่านี้สามารถทำให้ เรนวูด ปาร์ค ดำรงอยู่ได้ด้วยตนเองในภาวะฉุกเฉินเสมือนเมืองอิสระที่มีความมั่นคงในตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ

ทั้งนี้ เรนวูด ปาร์ค ได้แบ่งพื้นที่ออกเป็นโซนต่างๆ ประกอบด้วย โซนอยู่อาศัย 19% โซนบริการ 42% และโซนสาธารณะ 39% เพื่อในอนาคตประชาชนในพื้นที่รอบโครงการสามารถเข้ามามีส่วนร่วมใช้พื้นที่และได้รับประโยชน์ร่วมกันมากขึ้น เช่น การเปิดพื้นที่วิ่ง ตลาดชุมชน และการส่งเสริมผู้ผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยในท้องถิ่นให้สามารถประกอบอาชีพภายในพื้นที่ของโครงการได้ โดยทั้งหมดอยู่ภายใต้ระบบความปลอดภัยที่ควบคุมด้วยเทคโนโลยี อาทิ กล้อง CCTV จำนวน 650 ตัว ทั่วทั้งโครงการ โดรนตรวจการณ์ และระบบวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม โครงการพัฒนาที่ดินบนพื้นที่รวมกว่า 2,000 ไร่ ที่ตั้งอยู่ใน จ.ปทุมธานีแห่งนี้ ยังออกแบบโดยผสานแนวคิดด้าน ESG (Environmental, Social and Governance) ได้อย่างสมดุล อาทิ การออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวมากถึง 700 ไร่ หรือคิดเป็น 35% ของพื้นที่ทั้งหมด พร้อมต้นไม้ขนาดใหญ่กว่า 10,000 ต้นที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศ ช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศให้มีความหลากหลายทางชีวภาพมากยิ่งขึ้น

ขณะที่ระบบแหล่งน้ำขนาดใหญ่ อย่าง 'Heart Lake' หรือ บ่อน้ำรูปหัวใจ มีพื้นที่กว่า 57 ไร่ และบึงโดยรอบสนามกอล์ฟอีก 89 ไร่ มีการวางระบบหมุนเวียนน้ำภายในโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ปล่อยน้ำเสียสู่ภายนอก พร้อมติดตั้งเครื่องเติมอากาศ 28 เครื่อง เพื่อรักษาคุณภาพน้ำให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างยั่งยืน
การติดตั้งระบบ Solar Floating ในบ่อรูปหัวใจ สามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 2 เมกะวัตต์ เสริมด้วย Solar Cell อีก 16 จุดทั่วพื้นที่ ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 400 กิโลวัตต์ รวมถึงสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 2 สถานี (รวม 6 หัวจ่าย) รองรับวิถีชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยตลอด 5 เดือนแรกของปี 2568 ที่ผ่านมา โครงการสามารถลดค่าไฟฟ้าลงได้กว่า 5 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน
นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้พนักงานและผู้พักอาศัยมีส่วนร่วมในการช่วยลดขยะผ่านโครงการ 'ขวดแลกไข่' สามารถรีไซเคิลขวดพลาสติกและกระป๋องได้มากกว่า 1 ตัน ภายในปีเดียว ต่อเนื่องไปถึงการสนับสนุนภาครัฐและชุมชนโดยรอบ เช่น การบริจาคที่ดิน 4 ไร่ เพื่อจัดตั้งสถานีไฟฟ้าย่อยขนาด 100 เมกะวัตต์ ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อช่วยเพิ่มเสถียรภาพการจ่ายไฟในพื้นที่ และการสนับสนุนอุปกรณ์บรรเทาน้ำท่วมในฤดูฝน เป็นต้น

ภาพ : เรนวูด ปาร์ค
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘เรนวูด กรุ๊ป’ ทุ่ม 840 ล้านบาท จ่อเปิดตัวคอมมูฯ โฉมใหม่ ‘PARK11’ คาด Soft Opening ปลายปี 68
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine