พฤกษา เปิดตัว IHC ส่ง 3 แบรนด์ขยายพอร์ตธุรกิจ รุกก่อสร้าง-รับสร้างบ้าน-ให้เช่าที่อยู่อาศัย เสริมเเกร่งการเงิน สร้างรายได้ประจำ

พฤกษา เปิดตัว IHC ส่ง 3 แบรนด์ขยายพอร์ตธุรกิจ รุกก่อสร้าง-รับสร้างบ้าน-ให้เช่าที่อยู่อาศัย เสริมเเกร่งการเงิน สร้างรายได้ประจำ

พฤกษา โฮลดิ้ง เปิดตัวบริษัท อินโน โฮม คอนสตรัคชั่น จำกัด (IHC) ส่ง 3 แบรนด์เดินหน้าขยายพอร์ตธุรกิจ IHC รุกธุรกิจก่อสร้างและพัฒนาอสังหาฯ-Plantnery by PRUKSA เจาะธุรกิจรับสร้างบ้าน-iPlearn ธุรกิจให้เช่าที่อยู่อาศัย สร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน และสร้างรายได้ประจำ


    พฤกษา โฮลดิ้ง มองเห็นโอกาส เดินหน้าขยายพอร์ตธุรกิจด้วยการเปิดตัวบริษัท อินโน โฮม คอนสตรัคชั่น จำกัด (IHC) อย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด สร้างการอยู่อาศัย ที่ยั่งยืน ด้วยความเชี่ยวชาญ และนวัตกรรม (Building sustainable living through innovation)

โดยมี 3 แบรนด์ที่เน้นเจาะกลุ่มธุรกิจแตกต่างกันไป ประกอบด้วย แบรนด์ IHC (ไอเอชซี) ดำเนินธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ, แบรนด์ Plantnery by PRUKSA ดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้าน และแบรนด์ iPlearn ธุรกิจให้เช่า เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินในระยะยาว ตลอดจนสร้างรายได้ประจำ

    ปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโน โฮม คอนสตรัคชั่น จำกัด (IHC) เผยว่า การเปิดตัว IHC ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมกลยุทธ์สร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนของพฤกษา เพื่อต่อยอดพอร์ตธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศ

    รวมถึงเติมเต็ม Ecosystem ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำของการอยู่อาศัยที่ครอบคลุม ตั้งแต่วัสดุ การก่อสร้าง ที่อยู่อาศัย ไปจนถึงการลงทุนในอนาคตที่จะต่อยอดธุรกิจ จากผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สู่การเป็นผู้นำที่ให้บริการด้านการก่อสร้างและที่อยู่อาศัย


​ส่ง IHC รุกธุรกิจก่อสร้าง

    ปิยะ กล่าวว่า สำหรับแบรนด์ IHC ดำเนินธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ โดยเจาะกลุ่มลูกค้าแบบ B2B และ SMEs เพื่อให้บริการแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ แนะนำโมเดลธุรกิจ การตั้งราคา การกำหนดต้นทุน ประเมินผลกำไรที่เหมาะสมกับการแข่งขันในตลาด การออกแบบงานสถาปัตยกรรม ไปจนถึงการบริหารงานก่อสร้าง และบริการหลังการขาย

    "IHC ครอบคลุมทั้งอพาร์ตเมนต์ โรงแรม หอพัก โฮมออฟฟิศ คลังสินค้า และโรงงาน โดยมีทีมก่อสร้างที่มีศักยภาพสูงและมีประสบการณ์กว่า 30 ปี มากกว่า 60 ทีม ที่พร้อมให้บริการลูกค้า โดยมีความสามารถในการก่อสร้างทาวน์เฮาส์ หรือบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ได้ถึง 700 หลังต่อเดือน เนื่องจากข้อได้เปรียบคือมีโรงงานพรีคาสท์ในการรองรับการก่อสร้าง โดยธุรกิจนี้จะมีมาร์จินราว 5%" ปิยะ กล่าว


Plantnery เจาะตลาดกลางบน ธุรกิจรับสร้างบ้าน

    ปิยะ กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัยพ์ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นตลาดรับสร้างบ้านถึง 1.5 แสนล้านบาท หรือครึ่งหนึ่ง และมีเพียง 10% หรือประมาณ 15,000 ล้านบาท ที่เป็นผู้เล่นรายใหญ่ ส่วนอีกกว่า 90% ยังเป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและรายย่อย แสดงให้เห็นถึงโอกาสมหาศาลสำหรับผู้พัฒนาอสังหาฯ รายใหม่ที่ต้องการสร้างมาตรฐานการก่อสร้างและการบริหารจัดการที่เป็นมืออาชีพ

    สำหรับธุรกิจรับสร้างบ้าน ภายใต้แบรนด์ Plantnery by PRUKSA เน้นเจาะกลุ่มลูกค้า B2C ระดับกลาง-บน ในราคา 3-20 ล้านบาท โดยมีจุดเด่น คือ ทีมช่างมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในการสร้างบ้านมาแล้วกว่า 200,000 หลัง พร้อมการรับประกันงานโครงสร้างนานถึง 20 ปี มีราคาชัดเจน ไม่บานปลาย สร้างเสร็จเร็วภายใน 6 เดือน การันตีไม่ทิ้งงาน และแบบบ้านที่มีให้เลือกกว่า 100 แบบ ไปจนถึงการก่อสร้างตามแบบของลูกค้า



    ความโดดเด่นคือนวัตกรรม Inno-Tech ที่มุ่งยกระดับคุณภาพบ้านและคุณภาพการอยู่อาศัยของทุกครอบครัว ตอบโจทย์การใช้ชีวิต ภายใต้คอนเซ็ปต์ Building Homes, Crafting dream, Made Possible สร้างบ้าน สร้างฝัน สร้างได้

    ทั้งนี้ 3 ไตรมาสที่ผ่านมา Plantnery มีรายได้แล้วกว่า 4 ร้อยล้านบาท ให้มาร์จิ้นที่สูงกว่า 10-15% โดยคาดว่าจบปี 2568 จะมีรายได้ 7-8 ร้อยล้านบาท และตั้งเป้าแตะ 1 พันล้านบาทภายในปี 2569 สู่ 2.5 พันล้านบาท ในปี 2573 และ 5 พันล้านบาท ในปี 2578 ตามลำดับ


เปิดตัว iPlearn ที่อยู่อาศัยให้เช่า สร้างรายได้ประจำ-รับเทรนด์เจนใหม่

    นอกจากสองธุรกิจหลักแล้ว IHC เปิดตัวแบรนด์ใหม่ในชื่อ iPlearn เดินหน้าสู่การสร้างรายได้ประจำที่มั่นคงและยั่งยืน ด้วยการขยายสู่ธุรกิจที่อยู่อาศัยให้เช่า รองรับการอยู่อาศัยยุคใหม่ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น ทันสมัย และฟังก์ชั่นห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งาน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ระบบเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยออนไลน์ 24 ชั่วโมง

    ปิยะ กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดที่อยู่อาศัยให้เช่าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีกว่า 8 แสนหน่วย คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.7 หมื่นล้านบาท เติบโตปีละประมาณ 30% เนื่องจากเทรนด์ที่เปลี่ยนไป เจน Z นิยมการเช่าที่อยู่อาศัยมากกว่าการซื้อ

    สำหรับ iPlearn จะนำร่อง 3 ทำเลแรก ได้แก่ ลำลูกกา, รังสิต คลอง 2, และบ่อวิน จังหวัดระยอง ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในไตรมาส 4 ปี 2568 และมีแผนขยายสู่ 10,000 ห้องใน 3 ปี ซึ่งพื้นที่นำร่องมีอัตราเช่าสูงกว่า 90% แล้วในปัจจุบัน



    โดยจับกลุ่มผู้เช่าหลากหลาย ตั้งแต่กลุ่มพนักงานโรงงาน ค่าเช่าเดือนละ 2,000-3,000 บาท กลุ่มนักศึกษา ค่าเช่าเดือนละ 4,000-5,000 บาท กลุ่มพนักงานออฟฟิศ ค่าเช่าเดือนละ 8,000-10,000 บาท โดยเน้นทำเลใกล้แหล่งงานและสถาบันการศึกษา ซึ่งคาดว่าจะให้ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าเฉลี่ย 8-10% ต่อปี

    นอกจากนี้ ยังมีแผนในการพัฒนา iPlearn ในทำเลมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ย่านรังสิต จับตลาดล่างที่ลดลงกว่า พลัม คอนโด ลงมาเพื่อขายในราคาห้องละ 6-7 แสนบาท ภายในปี 2569 ด้วย

    ทั้งนี้ ปิยะ ตั้งเป้าว่า ธุรกิจทั้ง 3 แบรนด์ จะมีรายได้ราว 4-5 พันล้านบาท และจะระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อรายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท หลังจากนั้นอาจนำ iPlearn เข้ากอง REITs ซึ่งมูลค่าจะต้องอยู่ที่ราว 6 พันล้านบาท



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : SC Asset ปิดดีลแรงส่งท้ายปี ยกขบวน 89 โครงการจัดอีเวนต์ มอบส่วนลดสูงสุดถึง 10 ล้าน พร้อมเปิดตัวโครงการใหม่ “บางกอก บูเลอวาร์ด วิภาวดี-พหลฯ 2”

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine