เจน 3 เจียรวนนท์ ลุยอสังหาฯ หรู เปิดตัว “อีเดน เอกมัย” สุดไพรเวทเพียง 17 ยูนิต เริ่มต้น 70 ล้านบาท - Forbes Thailand

เจน 3 เจียรวนนท์ ลุยอสังหาฯ หรู เปิดตัว “อีเดน เอกมัย” สุดไพรเวทเพียง 17 ยูนิต เริ่มต้น 70 ล้านบาท

ทายาทรุ่น 3 แห่งตระกูล “เจียรวนนท์” ส่งบริษัท “อีเดน เอสเตท” สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการอสังหาฯ ระดับลักชัวรีของไทย เปิดตัวโครงการ “อีเดน เอกมัย” ที่อยู่อาศัย Low-Rise ในสไตล์ Ultra-luxury Low-Density แห่งแรกของไทย สุดไพรเวทด้วยจำนวนเพียง 17 ยูนิต มีลิฟต์ส่วนตัวให้ทุกห้อง ราคาเริ่มต้น 70 ล้านบาท


    ย้อนไปในปี พ.ศ. 2560 หลายคนในวงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี อาจเคยได้ยินชื่อของ “ธัญทิพ เจียรวนนท์” เจเนอเรชั่นที่ 3 ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ บุตรสาวของ “สุภกิต-มาริษา เจียรวนนท์” หลังจากเธอเข้ามาปลุกปั้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์อย่าง “บริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น” เจ้าของโครงการ เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ

    7 ปีให้หลัง เปิดศักราชปีมังกร 2567 นี้ ธัญทิพยังคงเดินหน้าในฐานะซีอีโอบริษัทดีเวลอปเปอร์อย่าง บริษัท อีเดน เอสเตท คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่เปลี่ยนชื่อมาจาก 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ ซึ่งเธอให้เหตุผลว่าสาเหตุที่ทำให้เปลี่ยนชื่อเพราะ “คนจำไม่ค่อยได้”


    ล่าสุด อีเดน เอสเตท ได้เปิดตัวโครงการ “อีเดน เอกมัย” บนทำเลเอกมัย ซอย 12 โดยเป็นโครงการที่อยู่อาศัยในรูปแบบโลว์ไรส์ (Low-Rise) ที่มาพร้อมกับจุดเด่นในการเป็น Ultra-Luxury Low-Density หรือจำนวนยูนิตหนาแน่นน้อย รายแรกของไทย ที่ทั้งโครงการมีเพียง 17 ยูนิตเท่านั้น

    ธัญทิพ กล่าวว่า “อีเดน เอสเตท อยากนำเสนอวิธีการพัฒนาแบบใหม่ จากความเชื่อของเราที่ว่าที่อยู่อาศัยควรเป็นทรัพย์สินที่ควรถือครองระยะยาว เป็นมรดกการลงทุนที่สืบทอดต่อไปจากรุ่นสู่รุ่นได้ ทำให้เราให้ความสำคัญในการพัฒนาเป็นอย่างมาก


    “โดยโครงการอีเดน เอกมัย เป็นโครงการแรกในไทยที่ฉีกมาตรฐานการออกแบบทางสถาปัตยกรรม คือ Low Density หรือจำนวนยูนิตหนาแน่นน้อยคือ 17 ยูนิตเท่านั้น อีกทั้งการออกแบบยังร่วมกับดีไซเนอร์ระดับโลก เพื่อสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าในระยะยาว”

    สำหรับโครงการ อีเดน เอกมัย (EDEN EKKAMAI) ประกอบด้วยจำนวนเพียง 17 ยูนิต ตั้งอยู่ในอาคารสูง 7 ชั้น แบ่งเป็น ห้องชุดเพื่อการอยู่อาศัย ได้แก่ ห้องดูเพล็กซ์ (Duplex) ขนาดเริ่มต้นที่ 350 ตารางเมตร มีทั้งหมด 6 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 130 ล้านบาท 

    และห้องซิมเพล็กซ์ (Simplex) ขนาดเริ่มต้นที่ 220 ตารางเมตร มีทั้งหมด 11 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 70 ล้านบาท


    โดยเฉลี่ยราคาอยู่ที่กว่า 350,000 บาทต่อตารางเมตร มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท ค่าส่วนกลางตารางเมตรละ 200 บาท แต่ละยูนิตมาในรูปแบบ fully fitted

    แม้จะเป็น “ยูนิต” ในตึก แต่ให้ความรู้สึกเหมือน “บ้าน” เนื่องจากขนาดพื้นที่ที่กว้างขวาง โปร่งโล่งสบาย และให้ความเป็นส่วนตัวในระดับสูงสุด นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอํานวยความสะดวกที่เหนือชั้นซึ่งสะท้อนถึงสิทธิประโยชน์จากการพักอาศัยในโครงการที่มีจำนวนยูนิตน้อย

    อาทิ ลิฟต์ส่วนตัวให้ทุกห้อง, ที่จอดรถมาตรฐานกว่า 300%, เลานจ์ส่วนกลางสุดหรู, ไพรเวตฟิตเนส 2 ห้อง, สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้, ห้องซาวน่าเกลือหิมาลัยส่วนตัว และเคาน์เตอร์ต้อนรับของโครงการพร้อมผู้ช่วยส่วนตัวที่จะคอยดูแลและอํานวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้านแบบเอ็กซ์คลูซีฟตลอด 24 ชั่วโมง


    โครงการ อีเดน เอกมัย ออกแบบและพัฒนาโครงสร้างโดย SCDA Architects บริษัทออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่การันตีด้วยรางวัลระดับนานาชาติ ในส่วนของการออกแบบภายใน ดำเนินการโดย PIA Interior ทั้งยังได้ PLandscape (PLA) มารับผิดชอบการออกแบบภูมิทัศน์ ทำให้โครงการดังกล่าวมีความโดดเด่นด้วยสุนทรียศาสตร์แบบร่วมสมัย แต่ยังสวยงามอย่างเหนือกาลเวลา พร้อมสอดแทรกสัมผัสแห่งความเป็นไทยเพื่อแสดงถึงความเคารพต่อวัฒนธรรมของบริษัท

    ไฮไลต์การออกแบบคือแต่ละชั้นจะมีจำนวนยูนิตมากที่สุดคือ 4 ยูนิตเท่านั้น ทุกยูนิตมาพร้อมกับทำเลที่ติดมุม หน้าต่างกระจกสูง 6 เมตร และเพดานห้องสูง 5.8 เมตร พื้นที่ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และโซนรับประทานอาหาร ออกแบบให้เป็น open plan คือเชื่อมต่อถึงกันหมด

    นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นถึงความเป็นมิตรกับครอบครัวและสัตว์เลี้ยงอย่างเด่นชัด ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่ให้ความยืดหยุ่น เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานอันหลากหลายและสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ สร้างความมั่นใจได้ว่าบ้านทุกหลังจะรองรับการเติบโตของแต่ละครอบครัวได้ในอีกหลายทศวรรษที่จะผ่านไป


    โดยผังของแต่ละชั้นถูกออกแบบและสร้างขึ้นเพื่อรองรับความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่อาจเปลี่ยนแปลงไปของแต่ละครอบครัว โครงการ อีเดน เอกมัย จึงเป็นที่พักอาศัยสําหรับการเป็นเจ้าของที่สามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น

    กิตติศักดิ์ ธีรอักษรพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารโครงการ บริษัท อีเดน เอสเตท คอร์ปอเรชั่น จํากัด กล่าวว่า สำหรับเหตุผลที่เลือกทำเลบนซอยเอกมัย 12 เนื่องจากมองว่าบนทำเลสุขุมวิทนั้นแทบจะไม่มีโครงการแบบ Duplex รวมถึงโครงการที่ให้ยูนิตขนาดใหญ่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านแล้ว เราจึงเห็นโอกาสในการพัฒนาโครงการบนที่ดินตรงนี้


    “นอกจากนี้ เอกมัย ซอย 12 ยังเป็นทำเลที่ดีเนื่องจากสามารถเชื่อมต่อไปยังสถาบันการศึกษาครบทุกระดับชั้น ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ไม่ไกลจากบีทีเอส และยังเชื่อมต่อไปพื้นที่อื่น เช่น ทองหล่อ เพชรบุรี จนถึงอ่อนนุชได้อย่างสะดวก”

    นอกจากความตั้งใจพัฒนาให้ลูกค้าสามารถส่งต่อสินทรัพย์นี้ไปยังรุ่นถัดไปได้ ธัญทิพยังบอกอีกว่าอีกสิ่งหนึ่งที่ตั้งใจคือการมุ่งมั่นการอนุรักษ์เส้นขอบฟ้าอันสวยงามของกรุงเทพฯ โดยการสร้างตึกระฟ้าให้น้อยลง และพัฒนาอาคารที่มีความหมายยิ่งขึ้น สะท้อนถึงความตั้งใจของเธอรวมถึงบริษัทที่อยากพัฒนาโครงการรูปแบบใหม่ที่นอกจากจะเป็นประโยชน์อย่างสูงสุดต่อลูกค้า ก็ยังเป็นประโยชน์กับสังคมอย่างเช่นกรุงเทพมหานครด้วย

    แนวคิดนี้ของเธอยังสะท้อนชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อเธอตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงแผนพัฒนาโครงการในอนาคตของอีเดน เอสเตท ที่ระบุว่า “คงค่อยๆ พัฒนา และพัฒนาเท่าที่จำเป็น เราไม่ต้องขึ้นโครงการใหม่ทุกปี แต่เป็นโครงการที่ไม่ค่อยมีความหมายเท่าไหร่”

    สำหรับโครงการอีเดน เอกมัย บริษัทคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2026


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : สิ้นสุดการรอคอย! The Forestias เสร็จสมบูรณ์ พร้อมโอนและเข้าอยู่ในปี 2567

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine