เศรษฐกิจยังชะลอตัว! เฟรเซอร์สฯ กลัวกำลังซื้อผู้บริโภคหดหาย เลยกางแผนรุกตลาดอสังหาฯ ปีนี้แบบพอประมาณ! ด้วยการเปิดตัว 6 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 9,803 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านหรู เจาะกลุ่มตลาดกลาง-บน 5 โครงการ และคอนโด KLOS อีก 1 โครงการย่านรามอินทรา หลังกระแสตอบรับดีจากย่านรัชดาที่เปิดตัวไปในปีก่อน
สมบูรณ์ วศินชัชวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” เผยว่า ไตรมาสแรกของปีงบการเงิน 2568 (ตุลาคม - ธันวาคม 2567) ท่ามกลางความท้าทายของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย
โดยบริษัทฯ สามารถสร้างรายได้จากธุรกิจที่อยู่อาศัยถึง 2,003 ล้านบาท เติบโตขึ้น 15.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนเป็นผลมาจากกลยุทธ์และการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย และโครงการศักยภาพหลายแห่ง อาทิ Grandio บางนา กม.5, Grandio เกษตร-นวมินทร์, Grandio ฟิวเจอร์-รังสิต, Golden Town ศิริราช-ราชพฤกษ์ และ Golden Neo สุขุมวิท-ลาซาล รวมไปถึงการนำเสนอแคมเปญการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายสร้างการรับรู้ กระตุ้นการตัดสินใจซื้อพร้อมฟังก์ชันภายในบ้านให้ครบตอบโจทย์ลูกค้าทุกเจเนอเรชัน

สำหรับปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโต 23% ด้วยยอดรายได้ 11,200 ล้านบาท เน้นเข้าถึงลูกค้ากลุ่มพรีเมียม และลักซ์ชัวรี่ โดยวางแผนเปิดตัว 6 โครงการใหม่ ครอบคลุมทำเลศักยภาพในกรุงเทพมหานคร นครราชสีมา และขอนแก่น มูลค่ารวม 9,803 ล้านบาท แบ่งเป็น
แนวราบ 5 โครงการ มูลค่ารวม 9,353 ล้านบาท ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว และบ้านแฝดระดับลักซ์ชัวรี่ ไปจนถึงระดับบนอย่าง The Grand, Grandio และไฮไลต์แบรนด์ใหม่ที่เปิดตัวไปแล้วอย่าง Gramour ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้ากลุ่ม mid -high พร้อมนำเสนอทาวน์โฮมพรีเมียมแบรนด์ใหม่ Goldina ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดทาวน์โฮมอย่างต่อเนื่อง
คอนโดมิเนียม 1 โครงการ มูลค่า 450 ล้านบาท แบรนด์ KLOS รามอินทร-แฟชั่น ต่อยอดความสำเร็จของคอนโดแบรนด์ KLOS รัชดา
ทั้งนี้ ภาพรวมธุรกิจที่อยู่อาศัยของเฟรเซอร์สฯ ในปี 2568 จะมีสัดส่วนโครงการแบ่งเป็นแนวราบรวมทั้งหมด 79 โครงการ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ รวมมูลค่า 114,738 ล้านบาท
"ในส่วนของที่ดิน Freehold บนพื้นที่ Mayfair Marriott หลังสวน หลังจากเริ่มทำการทุบตึกไปเมื่อต้นปีก่อน ขั้นตอนต่อไปจะทำการขอยื่น EIA ก่อนที่จะทำการก่อสร้างคอนโดหรูระดับไฮเอนด์ที่คาดว่าจะมีราคาขายอยู่ที่ 400,000-500,000 บาท/ตร.ม. ขึ้นไป คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 ส่วนคอนโดแบรนด์ KLOS หลังจากกระแสตอบรับดีเกินคาดจากการเปิดตัวย่านรัชดาในคอนเซ็ปต์ CLOSE = ใกล้รถไฟฟ้าและห้างสรรพสินค้า และมีราคาขายไม่แพงเหมาะสำหรับกลุ่มวัยทำงานช่วงเริ่มต้น จนทำให้ต้องเปิด 1 โครงการเพิ่มขึ้นในปีนี้ย่านรามอินทรา พร้อมเล็งเปิดเพิ่มอีก 2 โครงการในปีหน้าและอาจจะขยายโครงการให้ใหญ่ขึ้นจากระดับ 500 ล้าน เป็น 1,000-2,000 ล้านบาท" ผู้บริหารเฟรเซอร์ส กล่าว

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัท ยังวางแผนขยายโครงการขนาดเล็กในเมืองมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าปัจจุบัน และดึงดูดลูกค้าใหม่ ด้วย 3 กลยุทธ์หลักภายใต้แนวคิด Together for the Greater Living-โลกที่ดี เริ่มจากชีวิตที่ดี
1. Function and Care - ใส่ใจทุกรายละเอียดการออกแบบทั้งยังสอดคล้องกับแนวทาง ESG ที่เน้นการเติบโตของธุรกิจไปพร้อมกับการขับเคลื่อน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจถึงคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
อาทิ การออกแบบช่องแสง ลม และพื้นที่เพดานที่สูงกว่ามาตรฐานในบ้านซีรี่ย์ใหม่เพื่อการถ่ายเทอากาศที่สะดวกยิ่งขึ้น ลดอุณหภูมิภายในบ้านในช่วงกลางวัน, ระบบกรองอากาศ Clean and Cool Air ที่ช่วยกรองเชื้อรา สารระเหย และฝุ่นได้ถึงระดับ PM 2.5, บริการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ให้ลูกบ้าน, ฟังก์ชันห้องซัก ตาก รีดในร่มหมดกังวลเรื่องฝุ่น และฝนขณะตากผ้า รวมไปถึงการออกแบบพื้นที่สวนสาธารณภายในโครงการสอดรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ายุคใหม่ เป็นต้น
2. Real Estate as a Service - ผ่านแนวคิด customer centric ในการนำเสนอบริการหลังการขายที่เข้าถึง และเข้าใจลูกบ้านนำนวัตกรรมเข้ามาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพผ่านแอพพลิเคชัน FTX ที่ช่วยลูกบ้านในการเข้าถึงกิจกรรม สิทธิพิเศษ แจ้งงานซ่อม และติดตามสถานะงานซ่อมได้สะดวก และรวดเร็ว
3. Sustainable Living - โดยเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารเขียว LEED v4.1 (Leadership in Energy and Environmental Design) สำหรับที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวในระดับ Gold ซึ่งเป็นมาตรฐานรางวัลที่ได้รับความน่าเชื่อถือสำหรับอาคารสีเขียวในระดับโลกจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยนับเป็นโครงการบ้านเดี่ยวแห่งแรกในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการรับรองสำหรับบ้านต้นแบบมาตรฐาน ภายใต้แบรนด์ The Grand ริเวอร์ฟร้อนท์ ราชพฤกษ์-พระราม 5
โดยจะมีการนำหลักเกณฑ์การออกแบบบ้านที่ได้รับมาตรฐาน LEED มาปรับใช้ในทุกโครงการต่อจากนี้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้ายกระดับมาตรฐานที่อยู่อาศัยไทยอย่างต่อเนื่อง วางแผนยื่นขอรับรองมาตรฐาน TREES (Thai’s Rating of Energy and Environmental Sustainability) ซึ่งเป็นการประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทย โดยสถาบันอาคารเขียวไทย (TGBI)

ภาพ : เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : แนวโน้มอสังหาฯ ปี 68 ‘คอนโดฯ-ออฟฟิศ’ ผจญซัพพลายล้น ส่วนโรงแรม-โรงงานเดินหน้าโตต่อ
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine