‘บันยัน กรุ๊ป‘ จับมือ ‘อุรัสยา พร็อพเพอร์ตี้’ ลุยเปิดตลาดอสังหาฯ ระดับลักชัวรีเจ้าแรกใน จ.นครศรีธรรมราช ด้วยโครงการ ’บันยันทรี เรสซิเดนซ์ สิชล‘ วิลล่าหรูติดริมทะเล 15 หลัง มูลค่าโครงการ 800 ล้าน หวังตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงและนักลงทุนได้เป็นอย่างดี แถมยังหนุนราคาที่ดินพุ่ง 25-30% ในปีก่อน
บริเวณสามเหลี่ยมชายฝั่งทางใต้ของไทยที่เป็นจุดบรรจบของสนามบินนานาชาติเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช กำลังก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางสำคัญที่ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวและการลงทุนตลอดแนวชายฝั่งอ่าวไทย ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 1.46 พันล้านบาท (43 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ในสนามบินนานาชาตินครศรีธรรมราช
โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานครั้งนี้เร่งพลิกโฉมในภูมิภาคดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว เห็นได้จากข้อมูลการรายงานของ C9 Hotelworks บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริการชั้นนำของเอเชียในการพัฒนาที่พักอาศัยและการพัฒนาแบบผสมผสาน
ที่ระบุว่าในปี 2567 ที่ผ่านมา ไทยมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกราว 35 ล้านคน โดยมีแนวโน้มการเดินทางขยายไปสู่จุดหมายปลายทางหรูหราแห่งใหม่ นอกเหนือจากเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างกรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา และหัวหิน
บิล บาร์เน็ตต์ กรรมการผู้จัดการ C9 Hotelworks กล่าวว่า "การเชื่อมต่อทางอากาศ คือกุญแจสำคัญของการเติบโตด้านการท่องเที่ยว ผู้คนสามารถเข้าถึงนครศรีธรรมราชได้ผ่านสนามบินนานาชาติถึงสามแห่ง ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ที่จะดึงดูดพร้อมตอบโจทย์เหล่านักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น"
ทั้งนี้ จากรายงาน Nakhon Si Thammarat: Tourism, Hotel & Real Estate Market Update ของ C9 Hotelworks ยังเผยด้วยว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชกำลังก้าวขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว โดยเดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน 2567 มีนักเดินทางมาเยือนกว่า 3.8 ล้านคนอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 69% และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 1.32 หมื่นล้านบาท
ด้วยจุดเด่นของจังหวัดที่มีชายหาดอันสวยงาม ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เปี่ยมเสน่ห์ และการเดินทางที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นทั้งทางรถ เรือ หรือทางอากาศ นครศรีธรรมราชกำลังก้าวสู่เส้นทางการเติบโตที่เสมือนภูเก็ตเมื่อสามทศวรรษก่อน และจากวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของ KP Ho ผู้ก่อตั้ง บันยัน กรุ๊ป ในฐานะผู้บุกเบิกความสำเร็จของโครงการลากูน่า ภูเก็ต ที่พลิกโฉมเหมืองแร่ร้างให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางระดับลักซ์ชัวรี
ล่าสุดจึงได้บุกเบิกโครงการ "บันยันทรี เรสซิเดนซ์ สิชล" ที่อยู่ภายใต้แบรนด์เรสซิเดนซ์ระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรีสอร์ตในภาคใต้ของประเทศไทย โดยได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์อย่างเป็นทางการและมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากภาครัฐ รวมถึงผู้บริหารจากบันยัน กรุ๊ป และ อุรัสยา พร็อพเพอร์ตี้ ผู้พัฒนาโครงการ ร่วมงานในวันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ราวี ชานดราน กรรมการบริหารของ อุรัสยา พร็อพเพอร์ตี้ และอดีตประธานเข้าหน้าที่บริหารของ ลากูน่า ภูเก็ต กล่าวว่า "นี่คือโปรเจกต์ใหญ่โครงการแรกที่ทางอุรัสยาร่วมมือกับทางบันยัน กรุ๊ป โดยมีมูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท และยังถือเป็นแบรนด์ระดับอินเตอร์ฯ แบรนด์แรกที่เข้ามาบุกเบิกตลาดอสังหาฯ ระดับลักชัวรี ใน จ.นครศรีธรรมราช โดยหลังจากโครงการเริ่มจัดสรรที่ดินเพื่อดำเนินการ ก็ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ให้ขยายการเติบโตได้มากขึ้น เห็นได้จากราคาที่ดินที่ขยับตัวพุ่งขึ้นจากเดิมในปีก่อนราว 25-30%“
อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวนี้คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2568 และขณะนี้สามารถปิดการขายล่วงหน้าไปแล้วจาก Beach Front 2 หลัง และ Ocean View 1 หลังจากลุ่มลูกค้าคนไทยจำนวน 2 รายและจีนอีก 1 ราย คิดเป็นมูลค่ารวม 235 ล้านบาท ผู้บริหารของอุรัสยา พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวเสริม
ด้าน สจวร์ต รีดดิง กรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ บันยัน กรุ๊ป กล่าวว่า "บันยันทรี เรสซิเดนซ์ สิชล เปิดโอกาสให้นักลงทุนและผู้ที่มองหาบ้านหลังที่สองระดับลักชัวรี ได้เป็นเจ้าของอสังหาฯ ที่มีเอกลักษณ์ พร้อมสัมผัสไลฟ์สไตล์สุดเอ็กซ์คลูซีฟภายใต้การรับประกันคุณภาพจากแบรนด์บันยัน ทรี
โดยบันยัน ทรี เรสซิเดนซ์ สิชล ได้นำเสนอคอลเลกชันพิเศษผ่านวิลล่าส่วนตัว 15 หลัง ขนาด 4-5 ห้องนอน พร้อมสระว่ายน้ำวิวทะเลแบบพาโนรามา ดีไซน์ภายในทันสมัย และสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน โดยราคา Beach Front สำหรับวิลล่าชั้นเดียวริมชายหาดพร้อมสระว่ายน้ำ เริ่มต้นที่ 85 ล้านบาท และ Ocean view วิลล่าสองชั้นวิวทะเลพร้อมสระว่ายน้ำ เริ่มต้นที่ 65 ล้านบาท“
ทั้งนี้ ทางโครงการยังมอบประสบการณ์เหนือระดับด้วย บริการเรือส่วนตัว (เดินทางถึงเกาะสมุยในเพียง 45 นาที) คอนเซียร์จ 24 ชั่วโมง บริการสปาและเวลเนส คลับเฮาส์ริมชายหาด พร้อมร้านอาหารและบาร์ เป็นต้น
สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มมูลค่าการลงทุน บันยัน ลิฟวิ่ง (Banyan Living) โซลูชันการปล่อยเช่าครบวงจรที่เพิ่งเปิดตัวโดยบันยัน กรุ๊ป สามารถช่วยให้เจ้าของผู้ลงทุนสามารถสร้างรายได้จากการปล่อยเช่า พร้อมเข้าถึงเครือข่ายการจัดจำหน่ายระดับโลก แพลตฟอร์มจองที่พักแบบครบวงจร และยังให้บริการลูกค้าได้หลากหลายภาษา ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการสนับสนุนโดยบริการโรงแรมระดับเวิลด์คลาส และมาตรฐานการดูแลรักษาที่เข้มงวด เพื่อให้ที่พักคงคุณภาพระดับสูงสุด
ภาพ : อุรัสยา พร็อพเพอร์ตี้
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : แอสเซทไวส์ ตั้งเป้าปี 68 ยอดขาย 19,500 ล้าน โตจากปีก่อน 20% เตรียมเปิดตัว 10 โครงการ รุกตลาดภูเก็ตต่อเนื่อง พร้อมขยายธุรกิจใหม่เพิ่ม
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine