101 The Third Place คืนมาตรฐานความสุขสู่สังคม เติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ของคนเมือง - Forbes Thailand

101 The Third Place คืนมาตรฐานความสุขสู่สังคม เติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ของคนเมือง

“เราไม่ได้มองว่า 101 The Third Place จะมายกระดับมาตรฐานของการใช้ชีวิตให้คนเมือง แต่เรากำลังคืนมาตรฐานความสุขแห่งการใช้ชีวิตที่คนเมืองเคยเป็นเจ้าของให้เกิดขึ้นอีกครั้ง” นี่คือวิสัยทัศน์อันแรงกล้าที่ณิชา ศรีสงวนสกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายงานบริหารพื้นที่พาณิชย์ และค้าปลีก บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเมนต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวไว้อย่างจับใจ ก่อนที่จะค่อยๆ ฉายภาพให้เห็นถึงความพิเศษที่บรรจงถักทอไว้ภายใน 101 The Third Place ไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์ที่พร้อมจะสร้างประสบการณ์ใหม่ในการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบให้เกิดขึ้นกับคนเมืองอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถอดรหัสแนวคิด The Third Place พื้นที่ความสุขอยู่แค่เอื้อม ณิชา บอกเล่าด้วยแววตาเป็นประกายถึงแนวคิดเบื้องหลังกว่าจะเป็น ​“101 The Third Place” ว่า จากการทำการบ้านอย่างหนักของทีมงาน ทั้งการวิจัยและการลงพื้นที่จริงด้วยการออกเดินทางไปสำรวจเมืองต่างๆทั่วโลก จนค้นพบว่าสุนทรียะแห่งการใช้ชีวิตที่คนเมืองมองหา ไม่ใช่ที่พักอาศัยที่หรูหรา เดินทางสะดวกสบาย อยู่ใกล้ที่ทำงานเท่านั้น แต่คนเมืองยุคใหม่ยังมองหาสถานที่โปรดสักแห่งที่พร้อมเชื่อมต่อทุกกิจกรรมของชีวิตและทำให้ความหมายของ Work-Life Balance เป็นจริงได้ สามารถมาใช้เวลาได้บ่อยและเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในทุกวันรองจากบ้านซึ่งเป็น First Place และที่ทำงาน ซึ่งเป็น Second Place “เราไม่ใช่ห้างสรรพสินค้า แต่เราเป็นไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์ที่อยู่ภายในคอมมูนิตี้ระดับสากลอย่าง True Digital Park เราไม่ได้กระตุ้นให้ลูกค้ามาเพื่อจับจ่ายใช้สอย แต่เราเชิญชวนให้มาใช้ชีวิตที่นี่ ซึ่งจากการทำการวิจัย ศึกษาพฤติกรรมคนเมืองยุคใหม่ เราพบว่าความต้องการของคนยุคนี้ไม่ได้ต้องการแค่ที่อยู่อาศัย หรือที่ทำงานที่สะดวกสบาย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเท่านั้น แต่ทุกคนต้องการพื้นที่แห่งการใช้ชีวิตที่มาพร้อมความครบครัน เราจึงเนรมิตให้ ​“101 The Third Place” เป็นที่รวมความต้องการของไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายเข้าไว้ในพื้นที่เดียวกัน ตอบโจทย์ได้ทั้งการใช้สถานที่และการเป็นสังคมยุคใหม่ สามารถใช้ชีวิตยามว่างได้ตลอดทั้งวัน ด้วยพื้นที่ขนาด 40,000 ตารางเมตร ครบครันด้วยร้านอาหาร ร้านค้า บริการ สิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่สำหรับออกกำลังกาย พื้นที่สีเขียวสำหรับพักผ่อนหย่อนใจกว่า 5,000 ตารางเมตร พื้นที่สำหรับครอบครัวและสัตว์เลี้ยง ตลอดจนพื้นที่สำหรับกิจกรรมทางสังคม เพื่อมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของคนเมืองควบคู่ไปกับการพัฒนาสภาพแวดล้อมโดยรอบ ทั้งนี้ ผู้บริหารคนเก่งเล่าต่ออย่างออกรสว่า เทรนด์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปนี้เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งจากการเดินทางไปสำรวจเมืองชั้นนำที่ประชากรมีคุณภาพการใช้ชีวิตที่ดีทั่วโลก ล้วนพบว่ามีโปรเจกต์สร้าง Third Place เช่นกัน ยกตัวอย่างที่ซิลิคอน วัลเลย์ ซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของสตาร์ทอัพ มีการสร้างพื้นที่ที่เป็นฮับ ประกอบด้วยทั้งมหาวิทยาลัย ที่ทำงาน โรงเรียน และร้านค้าในที่เดียว “หรืออย่างญี่ปุ่น ถามว่าทำไมคนไทยชอบไป คำตอบคือเดินทางสะดวกสบาย ที่สำคัญไม่ว่าจะไปย่านไหนก็มีเสน่ห์เพราะมีทุกอย่างครบในย่านเดียว ไม่ว่าจะเป็นโซนรีเทล ที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน ใกล้ๆ ยังมีสวนสาธารณะให้มาพักผ่อนหย่อนใจ เรียกว่ารวมทุกไลฟ์สไตล์ไว้ครบในจุดเดียว” จากไอเดียในฝัน กลายเป็นโครงการสุดอินเทรนด์ เมื่อได้แนวคิดที่แข็งแรงและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ทั่วโลก ณิชาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในผู้ปลุกปั้นไอเดียมาตั้งแต่วันแรก ได้ผนึกกำลังกับทีมงานคุณภาพที่มีหัวใจเดียวกันทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาและต่อยอดให้ ​“101 The Third Place” เป็นโครงการที่ก้าวล้ำทั้งแนวคิดและมีมาตรฐานเทียบเท่าระดับนานาชาติ ใช้เวลา 3 ปีเต็ม จนมาถึงวันนี้โครงการ ​“101 The Third Place” ก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมเผยโฉมและเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาสัมผัสกับนิยามของคำว่า ​“The Third Place” ที่คนไทยอาจไม่คุ้นเคยแต่รับรองว่าถ้าได้มาแล้วจะต้องติดใจและตกหลุมรักจนอยากมาซ้ำ “​หนึ่งในบทพิสูจน์แห่งความภาคภูมิใจของเรา คือ “101 The Third Place” ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติระดับประเทศและนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นรางวัลแนวคิดเมืองอัจฉริยะ Smart Cities – Clean Energy จากกระทรวงพลังงาน, รางวัลโครงการมิกซ์ยูสยอดเยี่ยมจาก Asia Pacific Property Award ประจำปี 2016-2017, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ทางด้านความยั่งยืน จากเวที AEC Excellence Awards ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา โดยสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในฐานะโครงการแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับรางวัลนี้ ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำ "แนวคิดหลักของ MQDC คือ "For All Well – Being" ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ตั้งใจพัฒนาโครงการที่ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างประโยชน์ให้ผู้อยู่อาศัยและชุมชนโดยรอบให้มากที่สุด” ทั้งนี้ เพื่อให้เห็นภาพของการลงมือทำจริงไม่ใช่เพียงแค่เกมการสร้างจุดขายทางการตลาด จนทำให้ “101 The Third Place” เป็นที่ยอมรับ ณิชา พาลงลึกถึงรายละเอียดตั้งแต่การพัฒนาโครงการโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อลดการใช้พลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ การใช้ BIM เชื่อมต่อการออกแบบเพื่อความยั่งยืนและมีประสิทธิภาพสูง ใช้ซอฟต์แวร์ของ Autodesk มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการอนุรักษ์พลังงานและสร้างความยั่งยืน เช่น รูปแบบการหมุนเวียนของลมธรรมชาติ และการระบายน้ำ การใช้ District Cooling Plant หรือระบบทำความเย็นแบบรวมศูนย์ที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อช่วยในการประหยัดพลังงาน ตลอดจนการใช้พลังงานทางเลือกอย่างแสงอาทิตย์ และการนำระบบที่ช่วยเปลี่ยนแรงสั่นสะเทือนจากการเดินบนทางเชื่อมระหว่างโครงการกับสกายวอล์ก สถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถีมาเป็นพลังงานไฟฟ้า โดย 1 ก้าวเดินจะให้พลังงาน 5 วัตต์ ซึ่งพลังงานไฟฟ้าที่ได้ จะนำไปใช้เป็นไฟส่องสว่างในตอนกลางคืน นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ที่เข้ามาใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นบริการเช็คและจองที่จอดรถล่วงหน้า บริการแจ้งโปรโมชั่น จองร้านอาหารหรือบริการต่างๆ ภายในไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์ เป็นต้น คนละไม้คนละมือ กู้โลกไปด้วยกัน ไม่เพียงแต่ “101 The Third Place” จะเป็นโครงการที่นำเทรนด์ในการเติมเต็มความสุขของคนเมือง อีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการคือ ตอบโจทย์เรื่อง Creating Shared Value (CSV) หรือการสร้างประโยชน์ร่วมกันทุกภาคส่วน โดยกระตุ้นให้เกิดการสร้างระบบนิเวศ หรือ Ecosystem ที่เอื้อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้เช่า ตลอดจนผู้ที่เข้ามาใช้บริการที่ “101 The Third Place” ได้มีส่วนร่วมในการดูแลโลกใบนี้ ผ่านช่องทางต่างๆ “ร้านค้าที่มาเปิดในพื้นที่ของเรา เรารณรงค์ให้มีการแยกขยะเปียก ซึ่งเรานำเข้าเครื่อง OKLIN จากออสเตรเลียเพื่อแปลงขยะเปียกเป็นปุ๋ยสำหรับใช้ที่พื้นที่สวน เราติดตั้งตู้ Reverse Vending Machine สำหรับลูกค้าที่นำขวดพลาสติกมาคืนจะได้พอยต์กลับไป โดยเราจะนำขวดที่ได้ไปรีไซเคิลต่อไป ส่วนขยะที่เป็นกระดาษ และ กล่อง เรานำไปแปรรูปกลับมาเป็นถุงเพื่อใช้ในร้านวันโอวันแกลอรี่ ที่เราเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่นำสินค้ามาขายโดยเราไม่จำกัดกรอบว่าต้องเป็นสินค้ารักษ์โลกทั้งหมด เพราะเราอยากให้ตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการจุดประกายและสร้างแนวร่วมการรักษ์โลกต่อไป” อย่างไรก็ตาม หลังจาก “101 The Third Place” เปิดตัวอย่างเป็นทางการ หลายคนมองว่านี่คือ การสร้างปรากฏการณ์ใหม่ที่จะมายกระดับคุณภาพชีวิต แต่ผู้บริหารคนเก่งกล่าวอย่างถ่อมตัวว่า “101 The Third Place” สร้างปรากฏการณ์ไปแล้วตอนที่เปิดตัวโครงการ แต่วันนี้ “101 The Third Place” จะเข้ามาช่วยเติมเต็มการใช้ชีวิตอย่างเป็นรูปธรรม “เราไม่ได้มองว่า 101 The Third Place จะมายกระดับมาตรฐานของการใช้ชีวิตให้คนเมือง แต่เรากำลังคืนมาตรฐานความสุขแห่งการใช้ชีวิตที่คนเมืองเคยเป็นเจ้าของให้เกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะการทำงานของเราทั้งหมดเกิดจากการกลับไปที่พื้นฐานความต้องการของมนุษย์ ในอดีตเรามีพื้นที่สีเขียวในเมืองมากมาย ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยสิ่งปลูกสร้าง เพราะฉะนั้น วันนี้หน้าที่ของเราคือคืนมาตรฐานความสุขในการใช้ชีวิตให้กับคนเมือง ที่ไม่ได้ต้องการอะไรที่หรูหราโอเวอร์ แต่ไม่ยั่งยืน เพราะคนยุคใหม่ต้องการที่อยู่อาศัยที่สบาย ตอบโจทย์การใช้ชีวิต เดินทางสะดวก มีเพื่อนบ้านที่ดี อยู่ใกล้ที่ทำงาน และมีพื้นที่โปรดที่ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิต” สำหรับความท้าทายกว่าจะมาถึงวันนี้ ณิชายอมรับว่าฝ่าด่านหินมาไม่น้อย ตั้งแต่การสร้างความเข้าใจเพื่อให้ทีมงานเชื่อในสิ่งเดียวกัน และจูงมือกันไปสู่เป้าหมาย ทำให้ไอเดียในกระดาษไม่ใช่ไอเดียขายฝันแต่ทำได้จริง “โชคดีที่แก่นของบริษัทเรา ไม่ได้มองกำไรเป็นบรรทัดแรก แต่เรามองเรื่องสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม เป็นอันดับแรก เรามองถึงการสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน ไม่ได้มองแต่เชิงธุรกิจ แต่สังคม ชุมชนโดยรอบก็ต้องได้ประโยชน์ 101 The Third Place เข้ามาช่วยเพิ่มคุณค่าให้ชุมชนโดยรอบ ให้มีสถานที่สำหรับมาใช้ประโยชน์ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ดีในทุกๆ วัน ที่ชัดเจน คือ การเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่เป็นธรรมชาติให้ทุกคนสามารถใช้เวลาของตัวเองอย่างใกล้ชิดกับธรรมชาติได้ มากไปกว่าการใช้เวลาว่างอยู่ในร้านค้าหรือสถานที่เพื่อการพาณิชย์อื่นๆ เพียงอย่างเดียว เราเชื่อว่าที่นี่จะเป็นสถานที่นัดพบแห่งใหม่สำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่ใช้ชีวิตอยู่ในโซนพื้นที่ใกล้เคียงกับโครงการ” อย่างไรก็ตาม ณิชา ทิ้งท้ายว่า คอนเซ็ปท์ไอเดียของ 101 The Third Place นี้เพิ่งเริ่มต้นและยังไปได้อีกไกล “เราไม่ได้มองว่าเราเป็นผู้สร้างปรากฏการณ์ แต่เรากล้าที่จะเป็นผู้เริ่มและอยากให้  Developer เจ้าอื่นๆ มาช่วยกันทำให้ประเทศของเราน่าอยู่ขึ้น ทุกวันนี้มีหลายประเทศเข้ามาดูงานที่โครงการของเรา ซึ่งเราดีใจที่จะได้เป็นแบบอย่างในการสร้างความยั่งยืนต่อไป ส่วนคอนเซ็ปท์ของ 101 The Third Place จะปรากฏให้ได้ชมในรูปแบบไหนต่อไป ขอให้รอติดตามในโครงการอื่นๆ ของ MQDC” ณิชาทิ้งท้าย