ผู้บริหารหญิงแกร่งจากดิ เอราวัณ กรุ๊ป หลังเกษียณอายุเมื่อปีก่อน เธอเข้ามารับตำแหน่งซีอีโอให้กับ วัน ออริจิ้น บริษัทย่อยในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ที่กำลังสร้างอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าเป็นฐานรายได้สำคัญอีกขาหนึ่งให้กับองค์กร
เมื่อต้นปี 2561
พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ กางแผนการเติบโตระยะ 5 ปีของบริษัท โดยมีฐานรายได้จาก Recurring Income ผ่านการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่ออริจิ้นโฟกัส
ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ออริจิ้นประกาศเปิดตัวผู้บริหารคนใหม่
กมลวรรณ วิปุลากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด บริษัทย่อยทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท โดยบริษัทย่อยนี้จะดูแลงานด้านอสังหาฯ เพื่อเช่า เช่น โรงแรม อะพาร์ตเมนต์ ออฟฟิศบิลดิ้ง และธุรกิจบริการใหม่ๆ ตามแผนงานที่วางเอาไว้
กมลวรรณ วิปุลากร ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการ เธอคืออดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หนึ่งใน Top 5 บริษัทผู้เป็นเจ้าของและบริหารโรงแรมมากที่สุดในไทยด้วยจำนวนห้องบริการ 7,328 ห้อง (ณ สิ้นปี 2560) โดยเธอร่วมงานกับดิ เอราวัณกรุ๊ปมาตั้งแต่ปี 2554 ก่อนเกษียณอายุในวัย 55 ปีตามนโยบายบริษัทเมื่อสิ้นปี 2560
ระหว่างทำงานกับดิ เอราวัณ กมลวรรณผลักดันกลยุทธ์องค์กรมากมาย เช่นการพัฒนาบริหารจัดการแบรนด์โรงแรมต้นทุนต่ำอย่าง HOP INN (ฮ็อป อินน์) ด้วยตนเองทดแทนที่เดิมเคยใช้แบรนด์ของคู่ค้า ก่อนเกษียณอายุ เธอฝากผลงานใหญ่คือการวางโร้ดแม็ป 5 ปี (2559-63) ใช้งบลงทุน 1 หมื่นล้านบาท ขยายจำนวนโรงแรมทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ถึง 1 หมื่นห้องซึ่งคาดว่าดิ เอราวัณ กรุ๊ปจะยังเดินหน้าต่อไป
สำหรับการมาร่วมงานที่ออริจิ้น เป็นช่วงที่ออริจิ้นเพิ่งเริ่มต้นอย่างจริงจังกับธุรกิจอสังหาฯ เพื่อเช่า ซึ่งกมลวรรณเข้ามาช่วยวางแผนการเงินการลงทุน จนออกมาเป็นผังงาน 3 ขาหลักของกลุ่มธุรกิจ เทน้ำหนัก 70% ที่โรงแรม-อะพาร์ตเมนต์ 20% ที่ออฟฟิศบิลดิ้ง-รีเทล และ 10% ในกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่ออริจิ้นหมายมั่นปั้นมือหวังเปิดโรงแรมให้ถึง 4,000 ห้องเพื่อชิงตำแหน่ง Top 5 ประเทศ
(คลิกอ่านเพิ่มเติมแผนงาน 5 ปีของวัน ออริจิ้นฉบับเต็ม)
“ที่นี่เปิดโอกาสอื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่โรงแรมให้เรา เพราะนโยบายองค์กรต้องการพัฒนาโครงการ Mix-used ในแง่นี้ทำให้เราทำงานสนุกขึ้น ได้ทำอะไรหลากหลายขึ้น” กมลวรรณกล่าว
เธอยังกล่าวถึงบรรยากาศการทำงานรูปแบบใหม่ เนื่องจากออริจิ้นมีอายุบริษัทเพียง 9 ปี ทำให้มีความเป็นคนรุ่นใหม่สูงมาก “เขาเป็น young organization ทำให้การเปลี่ยนแปลงอะไรทำได้เร็ว คุณโด่ง (พีระพงศ์ จรูญเอก) บอกว่าค่าเฉลี่ยอายุคนในองค์กรแค่ 28 ปีเท่านั้นเอง”
อย่างไรก็ตาม วัน ออริจิ้นเป็นอาณาจักรใหม่ยิ่งกว่าบริษัทแม่ นอกจากกมลวรรณจะเข้ามาช่วยวางแผนการลงทุน เธอยังต้องวางวัฒนธรรมองค์กรใหม่ที่แยกต่างหากออกมาจากบริษัทแม่ด้วย
“เราต้องทำให้บริษัทโตด้วยตนเอง ตอนนี้เรากำลังรวบรวมคนทำงานเข้ามาเพิ่มเพื่อแยกออกจากบริษัทแม่ เรายังพึ่งพาบริษัทแม่ได้ ประสานงานได้ แต่ไม่ใช่การพึ่งพิงทั้งหมด” กมลวรรณกล่าวทิ้งท้าย
ประสบการณ์ของ กมลวรรณ วิปุลากร ผสานกับฝีมือผู้บริหารรุ่นใหม่อย่าง พีระพงศ์ จรูญเอก ที่พาออริจิ้นทะยานก้าวกระโดดน่าจะเรียกความสนใจจากเจ้าตลาดเดิมได้ไม่น้อย ยิ่ง “วัน ออริจิ้น” แย้มว่าอาจจะเปิด IPO ในอนาคตยิ่งน่าจับตามอง