บริษัท อินเด็กซ์ครีเอทีฟ วิลเลจ จํากัด (มหาชน) และ บริษัท คีรีมายา จํากัด ร่วมกับ ททท. ทุ่มจัดงานเทศกาลประดับไฟ “Forest of Illumination at Kirimaya” กระตุ้นท่องเที่ยวเขาใหญ่ หวังสร้างความเชื่อมั่นการท่องเที่ยว หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระบาด คาดมีเงินสะพัดราว 1,000 ล้านบาท ระหว่างการจัดงาน
“Forest of Illumination at Kirimaya” จะถูกจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 – 29 มกราคม 2565 พร้อมด้วยมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด คาดว่าจะขายตั๋วได้ 60,000 ใบ ราคาใบละ 300 บาท โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ ปัจจุบันมีการจองตั๋วล่วงหน้าแล้วกว่า 1,500 ใบ
ภาวนา ประจิตต์ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา กล่าวว่า คาดว่าจะมีเงินสะพัดในพื้นที่ราว 1,000 ล้านบาท ระหว่างการจัดงาน เนื่องจากเป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยวและยังมีงานอีเว้นท์อื่นๆ เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น ไม่ว่าจะเป็นเขาใหญ่มาราธอน หรือ สตรีทอาร์ท สีสันโคราช (Thailand Biennale Korat 2021) ซึ่งจะช่วยสร้างความคึกคักให้กับการชุมชนท่องเที่ยวในพื้นที่และเกิดการจับจ่ายมากขึ้น
เกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ครีเอทีฟวิลเลจ จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้ผ่านการจัดงาน Immersive Digital Art มาหลากหลายรูปแบบ แต่ครั้งนี้มีความแปลกใหม่และท้าทายมากขึ้น เนื่องจากใช้เทคนิคในการสร้างประสบการณ์ให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมของพื้นที่ และถือเป็นครั้งแรกที่ได้เนรมิตผืนป่ายามคํ่าคืนให้สว่างไสว ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์
ขณะที่ กิตติ ธนากิจอํานวย ประธานบริษัท คีรีมายา จํากัด บอกว่า ปัจจุบันเขาใหญ่เป็นจุดมุ่งหมายอันดับต้นๆ ของกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทย และการจัดงานในครั้งนี้ทางคีรีมายาตั้งใจจัดงานเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและภาพรวมให้กับพื้นที่เขาใหญ่ พร้อมๆ ให้กําลังใจเพื่อนๆ ผู้ประกอบการหลังจากต้องเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 ให้กลับมาแข็งแกร่งพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง
ขณะที่การเปิดประเทศรับท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กิตติบอกว่า เป็นเรื่องดีที่รัฐบาลตัดสินใจเช่นนั้นและตนเองไม่รู้สึกกลัวเพราะหากถ้าไม่ทำเช่นนั้น คนไทยก็ไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติได้เนื่องจากโควิดไม่มีวันตายไปจากพวกเรา
อย่างไรก็ตาม เจ้าของคีรีมายาเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกัน ไม่ว่าจะภาคประชาชน ภาครัฐหรือภาคเอกชน เริ่มตั้งแต่การป้องกันตนเอง มีการฉีดวัคซีน และการรักษาอย่างทันถ่วงที โดยเฉพาะอย่างหลังนี้ มีความสำคัญมากเพราะการรักษาได้อย่างทันถ่วงทีจะช่วยทำให้อาการของโรคผ่อนหนักเป็นเบาได้
สำหรับคีรีมายาก็มีมาตรการการดำเนินงานที่เข้มงวดเช่นกัน เช่น ทางโรงแรมได้มีการตรวจการติดเชื้อทุกคนในทุกๆอาทิตย์จากเดิมตรวจทุกๆ เดือน ขณะที่ประสบการณ์กับโควิดในช่วงที่ผ่านมา ทางโรงแรมไม่มีปัญหาอะไรที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากสถานที่ตั้งของโรงแรมตั้งอยู่กับธรรมชาติบนพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ (พัฒนาไปแค่บางส่วน) ขนาดห้องก็ใหญ่ ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่อง social distancing
โดยคีรีมายามีอัตราการเข้าห้องพักราวรที่สัดส่วนร้อยละ 70-80 มาตลอด ขณะที่วันหยุดก็มีความต้องล้น ปัจจุบันมี 3 โรงแรม มี 400 ห้อง (จำนวนไม่น้อยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวครอบครัว) และเชื่อว่า ภาพการท่องเที่ยวโดยรวมของเขาใหญ่น่าจะฟื้นกลับมาสู่ภาวะปกติในฤดูกาลท่องเที่ยวนี้ เพราะเป็นที่เที่ยวลำดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวคนไทย ต่างจากภูเก็ตที่ต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติ น่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปีที่จะกลับมาเหมือนเดิมได้
แม้จะโควิดจะยังเป็นเรื่องที่ทุกคนเป็นห่วง แต่กิตติกลับสวนกระแส โดยวางแผนที่จะลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท สร้าง “ultra luxury wellness” บนพื้นที่ 300 ไร่จากพื้นที่เดิม 1,200 ไร่ โดยความเป็น “ultra” จะเป็นวิลล่าเกี่ยวกับ wellness อย่างสมบูรณ์แบบ
มีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาผสมผสานกับธรรมชาติบริการให้ลูกค้า จะใส่ใจรายละเอียดในการบริการในทุกๆ ด้านให้กับผู้พัก เช่น ผู้เข้าพักจะได้หลับนอนอย่างมีคุณภาพ โดยจะมีการควบอุณหภูมิและความชื้น เน้นจับกลุ่มลูกค้าจากประเทศในเอเชีย เช่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย และญี่ปุ่น เป็นต้น คาดภายในสองปีจะเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ปัจจุบันเริ่มการวางแผนและการออกแบบแล้ว
อ่านเพิ่มเติม: “เซ็นทรัลพัฒนา” ทุ่ม 400 ล้านดันกลยุทธ์ Destination Plus+ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine