ส่ง UAPC เข้าตลาด mai ปี 61 หวังนำเงินระดมทุนขยายกำลังการผลิต-บุกตลาด CLMV มั่นใจสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นอย่างน่าพอใจ เผยอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการธุรกิจเทคโนโลยี 2 ราย หวังพลิกโฉมภาคการผลิตเคมีภัณฑ์



ทั้งนี้ สินค้านำร่องคือลาเท็กซ์อีมัลชั่น เพราะยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ต่ำ ขณะที่ตัวสินค้าเองก็มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ทั้งในตลาดเดิมซึ่งก็คือตลาดในประเทศไทยและตลาดใหม่ในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน และหากยอดขายจากลาเท็กซ์อีมัลชั่นติดตลาดตามเป้าหมายแล้ว จะมีส่วนผลักดันให้การเติบโตของกำไรสุทธิสูงกว่าเป้าหมายที่ประเมินไว้ เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่มีมาร์จินค่อนข้างดี
“ตอนนี้เราต้องเริ่มขยายตลาด เพราะลาเท็กซ์อีมัลชั่นมีขนาด ตลาดที่ใหญ่และกว้างมาก การจะไปหาตลาดแม้ไม่ยากแต่การแข่งขันและความต้องการลูกค้าแตกต่างจากที่เราเคยทำ เราต้องมีการปรับสูตร มีการให้ข้อมูลลูกค้า มีอะไรอีกค่อนข้างมาก แต่ตอนนี้ก็เริ่มสำเร็จแล้ว”
UAPC ยังมองสินค้าเคมีภัณฑ์อื่นเพื่อขยายฐานการผลิตออกไป อาทิ เคมีภัณฑ์ที่ใช้ภายในบ้าน ประเภทน้ำยาทำความสะอาด น้ำยา ขัดพื้นผิวหิน โดยขณะนี้ ได้มีการคุยกับต่างประเทศซึ่งมีสินค้าที่เราเห็นศักยภาพการเติบโต ทั้งนี้ ก็เพื่อขยายสินค้าของเราออกไปสู่หลายๆ ตลาด
นอกจากนี้ ยังมองหาโอกาสควบรวมกิจการหรือเข้าซื้อกิจการธุรกิจ เทคโนโลยีที่เอื้อต่อภาคการผลิต โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าของเทคโนโลยีต่างประเทศ 2 ราย ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้
กิตติเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์มีศักยภาพที่ยังเติบโตได้อีกมาก ขณะที่เคมีภัณฑ์ที่ UAPC ผลิตและจำหน่ายนั้นประเมินการเติบโตไว้ไม่ต่ำกว่า 5%
ขณะที่เป้าหมายในการเป็นหลักทรัพย์หรือหุ้น UPAC วางจุดยืน เป็น growth stock โดยจะเน้นสร้างสรรค์กำไร เพื่อปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นในฐานะ dividend stock
“จริงๆ แล้วการทำเคมีภัณฑ์ ทุกบริษัทจะมองถึงกำไร เราก็มองถึงผลกำไรและเงินปันผล เพื่อจะได้ส่งเสริมบริษัทแม่ด้วย เพราะอย่างน้อยก็ถืออยู่กว่า 60% ซึ่งโดยนโยบายคือ เมื่อเข้าตลาดเมื่อไหร่ ก็จะจ่ายเงินปันผลทันที ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับมติผู้ถือหุ้นและ คณะกรรมการบริษัทด้วย”
เรื่อง: ศนิชา ละครพล
ภาพ: จันทร์กลาง กันทอง
คลิกอ่าน Forbes Thailand ฉบับพิเศษ "WEALTH MANANAGEMENT & INVESTING 2018" ในรูปแบบ e-Magazine


