‘โตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง กรุ๊ป’ บริษัทเครือโตโยต้า เปิดตัว ‘T-Innovation Center’ หรือศูนย์นวัตกรรมคลังสินค้าอัจฉริยะแห่งแรกในอาเซียนของโตโยต้า ชูจุดเด่น มากกว่าโชว์รูม แต่เป็นศูนย์นวัตกรรมพร้อมส่งมอบโซลูชันครบวงจร ตั้งแต่ระบบแมนนวลและกึ่งอัตโนมัติ เช่น รถลากพาเลท, รถยกซ้อน, รถหยิบเลือกสินค้า และรถยกเสาสูงสำหรับพื้นที่แคบ ไปจนถึงระบบ Full Automation ตั้งเป้าเจาะกลุ่มค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ หนุนศักยภาพโลจิสติกส์ไทยมุ่งสู่ Smart Logistics
บริษัท โตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง กรุ๊ป จำกัด (Toyota Material Handling Group: TMHG) เปิดตัว “T-Innovation Center” ศูนย์นวัตกรรมคลังสินค้าอัจฉริยะและระบบอัตโนมัติครบวงจรแห่งแรกของโตโยต้าในประเทศไทย บนถนนกิ่งแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่มีศูนย์นวัตกรรมครบวงจรที่สุด จากเดิมที่โตโยต้ามีศูนย์นวัตกรรมครบวงจรเช่นนี้ในญี่ปุ่นเท่านั้น
โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมคลังสินค้าไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานโลก พร้อมสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของภาคธุรกิจเข้าสู่ยุค Industry 4.0 และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปสู่ Smart Economy อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงศรี (Krungsri Research) วิเคราะห์ว่า ในช่วงปี 2568–2570 ธุรกิจคลังสินค้าไทยยังคงมีทั้งโอกาสและความท้าทาย โดยจะได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการค้าระหว่างประเทศ และการเติบโตของธุรกิจ E-Commerce และ Cross-Border ที่จะเพิ่มความต้องการใช้พื้นที่คลังสินค้าอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ เช่น โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ท่าเรือแหลมฉบัง และสนามบินสุวรรณภูมิ จะช่วยผลักดันให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์สำคัญของภูมิภาคอาเซียน
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังคงต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ต้นทุนดำเนินงานที่สูง และข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม (ESG Regulations) ที่เข้มงวดขึ้น การลงทุนในระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีคลังสินค้าจึงกลายเป็น “หัวใจสำคัญ” ของการปรับตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนแรงงาน และสร้างความยั่งยืนในระยะยาว
ภายใต้บริบทดังกล่าว “T-Innovation Center” จึงถือเป็นหมุดหมายสำคัญของโตโยต้าในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (B2B Strategic Partner) ที่พร้อมส่งมอบโซลูชันครบวงจร ตั้งแต่ระบบแมนนวลและกึ่งอัตโนมัติ เช่น รถลากพาเลท รถยกซ้อน รถหยิบเลือกสินค้า ไปจนถึงระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (Full Automation) เช่น Storage, Robotics และ Sortation ภายในศูนย์ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าระดับองค์กรทดลองระบบจริง เพื่อประเมินประสิทธิภาพและผลตอบแทนการลงทุน (ROI) ก่อนตัดสินใจนำไปปรับใช้จริง

ชิเงรุ มัตสึโมโต้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงศูนย์แห่งนี้ว่า “T-Innovation Center ไม่ใช่เพียงโชว์รูม แต่เป็นพื้นที่ที่ผู้ประกอบการสามารถเข้ามาเรียนรู้และสัมผัสเทคโนโลยีการจัดการคลังสินค้าได้จริง เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล และอุตสาหกรรม 4.0 อย่างยั่งยืน”
ขณะที่ โนริฮารุ เทราโอกะ รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า “T-Innovation Center จะเป็นจุดเชื่อมระหว่างธุรกิจไทยกับมาตรฐานระดับโลก การลงทุนใน Smart Logistics ไม่เพียงเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้ไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตและกระจายสินค้าของภูมิภาค”

ภายใต้ที่ดินรวมของเครือโตโยต้าริมถนนกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ กว่า 10,000 ตารางเมตร ศูนย์แห่งนี้มีพื้นที่รวมกว่า 1,000 ตารางเมตร ภายในรวบรวม 6 องค์ประกอบหลักของ Smart Logistics เพื่อสร้าง Warehouse Automation ที่ตอบโจทย์ธุรกิจไทย ได้แก่
1. Data Analysis & Consulting เพื่อวางแผน วิเคราะห์ และสร้างผลลัพธ์อย่างเหนือความคาดหมาย
2. Storage ที่ยกระดับโซลูชันการจัดเก็บเพื่อประหยัดเวลา และเพิ่มพื้นที่การใช้งาน
3. Robotics ช่วยประยุกต์การทำงานอย่างรวดเร็วและคล่องตัวด้วยระบบโรโบติกส์อัจฉริยะเข้ากับระบบการขนถ่ายสินค้า
4. Goods to Person การพัฒนาขั้นตอนการเติมสินค้าด้วยการผสานระหว่างระบบการจัดเก็บอัตโนมัติที่แม่นยำ และหลักการออกแบบสรีรศาสตร์อย่างลงตัว
5. Sortation System ระบบการคัดแยกสินค้าอัตโนมัติไปยังตำแหน่งปลายทางอย่างรวดเร็ว
6. Transportation การขยายขีดความสามารถของการขนถ่ายสินค้าให้มีความปลอดภัยขั้นสูงและทำงานอย่างเป็นระบบ

ด้าน จามีกร เผือกสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง แวร์เฮ้าส์ โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การลงทุนในโซลูชันที่เหมาะสมคือการสร้าง ROI ที่ชัดเจน ซึ่ง T-Innovation Center จะเป็นพื้นที่ให้ผู้ประกอบการเห็นคุณค่าของนวัตกรรมอย่างเป็นรูปธรรม”
ขณะที่ อริชัย อรัญนารถ รองประธาน บริษัท โตโยต้า ทูโช ฟอร์คลิฟท์ (ไทยแลนด์) จำกัด เสริมว่า “นี่คือก้าวสำคัญของโตโยต้าในการยกระดับอุตสาหกรรมคลังสินค้าไทยให้ทันกับมาตรฐานโลก ทั้งในด้านเทคโนโลยีและความยั่งยืน โลจิสติกส์ถือเป็นต้นทุนหลักของผู้ประกอบการ อีกทั้งในปัจจุบันยังมีปัญหาเรื่องแรงงาน จึงเชื่อว่าระบบอัตโนมัติและกึ่งอัตโนมัติจะเข้ามาตอบโจทย์ แม้จะอาศัยการลงทุนในช่วงต้น แต่ในระยะยาวจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาได้
ปิดท้ายที่ สุพจน์ ตั้งภักดี ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท โตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง แวร์เฮ้าส์ โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง กรุ๊ป ครอบคลุมตั้งแต่กลุ่มค้าปลีก อีคอมเมิร์ซ กลุ่มธุรกิจคลังสินค้า โลจิสติกส์ ไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรม โดยไม่จำเป็นต้องเป็นองค์กรขนาดใหญ่ อาจจะเป็นโรงงานเล็กๆ หรือ SME ก็ได้ เพราะบริษัทมีโซลูชันที่รองรับตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็ก

ทั้งนี้ เงินลงทุนเริ่มต้นสำหรับเจ้าของกิจการที่ต้องการนำนวัตกรรมและโซลูชันของโตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง กรุ๊ป ไปใช้ อยู่ที่หลักแสนบาท ก็จะได้ระบบอัตโนมัติ เช่น รถยกไฟฟ้าขนาดเล็ก ระบบชั้นวางที่ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ได้มากขึ้น ตอบโจทย์เจ้าของกิจการที่ไม่ต้องการลงทุนสร้างคลังสินค้าใหม่ เป็นต้น
สำหรับ โตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง กรุ๊ป (Toyota Material Handling Group: TMHG) เป็นกลุ่มบริษัทในเครือโตโยต้าที่ดำเนินธุรกิจด้าน Material Handling Solutions ทั่วโลก โดยในประเทศไทย TMHG ประกอบด้วย 3 บริษัท คือ โตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด, โตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง แวร์เฮ้าส์ โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ โตโยต้า ทูโช ฟอร์คลิฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งร่วมกันให้บริการโซลูชันด้านระบบคลังสินค้า รถฟอร์คลิฟท์ และระบบโลจิสติกส์ครบวงจร
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : SCX Corporation มั่นใจยอดเช่าคลังสินค้าปี 68 แตะ 150,000 ตร.ม. เล็งตั้งกอง REIT ภายในปีหน้า
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine