The Best Name in the World.. “ถ้าไม่ใช่ A.C. Milan เราไม่ทำ” - Forbes Thailand

The Best Name in the World.. “ถ้าไม่ใช่ A.C. Milan เราไม่ทำ”

เรื่อง: พรพรรณ ปัญญาภิรมย์ ภาพ: ภัทรพล ตันตรงภักดิ์
ครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการลูกหนังที่คนไทยมีชื่ออยู่ในสโมสรฟุตบอลระดับตำนานแห่งอิตาลี ภายใต้มุมมองและวิสัยทัศน์ฉบับนักลงทุนขนานแท้ของ บี เตชะอุบล ผู้ซึ่งได้รับแรงเชียร์จากแฟนบอลในดินแดนมักกะโรนีอย่างท่วมท้นให้เข้าซื้อหุ้น A.C. Milan

เมื่อปีศาจแดงดำถึงคราวเปลี่ยนแปลงหลังจากอดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี 3 สมัย และมหาเศรษฐีโลกอันดับที่ 179 (ทรัพย์สิน 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการจัดอันดับของ Forbes ปี 2558) Silvio Berlusconi ส่งสัญญาณขายหุ้นส่วนหนึ่ง ใน A.C. Milan ที่เขานั่งเก้าอี้ประธานสโมสร ตั้งแต่ปี 2529 ทุกความเคลื่อนไหวล้วนได้รับการจับตา โดยเฉพาะภาพของนักธุรกิจไทยที่เข้านอกออกในคฤหาสน์หรูหลายต่อหลายครั้งก็ไม่อาจจะรอดพ้นสายตาของสื่อทั่วโลก และแฟนในวงการ

ลูกหนังที่ให้ความสนใจค้นหาชื่อ “มิสเตอร์บี” หลังจากออกคำาแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเรื่องการบรรลุข้อตกลงกับ บริษัท ฟินอินเวสต์ ซึ่งเป็นบริษัทของ Berlusconi ในการเข้าถือหุ้นสโมสรฟุตบอล A.C. Milan มิสเตอร์บีพร้อมให้ข้อมูลบางส่วนแบบ exclusive กับซีอีโอของ Forbes Thailand และทีมงานเกี่ยวกับความคืบหน้าและโอกาสที่มองเห็นจากการลงทุนในสโมสรฟุตบอล

"งานของผมเน้นด้าน private equity investment ทั้ง Infrastructure, Real Estate, Finance และ Sport มีทั้ง Listed และ Non-Listed ทุกอย่างที่ลงทุนต้องเป็นธุรกิจที่เราเห็นแนวทางชัดเจนว่า เราจะทำอย่างไร หลักการทุกอย่างคล้ายกัน คือ ต้องมี career path ชัด และ make sure ว่าเราทำได้ รวมทั้ง plan ให้ดี เช่น บอลที่เข้ามา เพราะเราเห็นแล้วว่าจะขยายอย่างไร” มิสเตอร์บี หรือ บี เตชะอุบล เริ่มต้นเล่าถึงการทำงานในฐานะ ซีอีโอ บริษัท ไทยไพร์ม จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจหลายประเภท ได้แก่ บริการด้านการเงิน ก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ เทคโนโลยี การบริหารที่จอดรถ ระบบจราจร กีฬา และธุรกิจด้านระบบการจ่ายเงิน โดยมีสโมสรฟุตบอลระดับโลกเป็นการลงทุนล่าสุด
 
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการตัดสินใจลงทุนที่ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล ดีลระดับโลกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากคำว่า “Passion” อย่างแน่นอน ในทางตรงกันข้าม การซื้อหุ้นในสโมสรฟุตบอลเกิดจากมุมมองของนักลงทุนที่ถูกหล่อหลอมในฐานะทายาทคนโตของ สดาวุธ เตชะอุบล ผู้บริหารแห่ง คันทรี่ กรุ๊ป แมว 9 ชีวิตผู้มีชีวิตพลิกผันจากธุรกิจหมื่นล้าน กลายเป็นหนี้จำนวนมหาศาลเพียงชั่วข้ามคืนในปี 2540 ทำให้เด็กชายบีต้องเริ่มต้นทำงานแรกในวัย 14 ปี ด้วยการเป็นเด็กล้างจานในร้านอาหารของบิดามารดาก่อนเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในวัย 16 ปี โดยการจัดตั้งบริษัทค้าอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ และเริ่มต้นการลงทุนแบบซื้อถูกขายแพงในหลายอุตสาหกรรมก่อนเขย่าวงการลูกหนังโลก

บีเคยทดลองชิมลางในธุรกิจกีฬา ด้วยการร่วมก่อตั้ง โกลบอล เลเจนด์ ซีรีส์ หรือ GLS ซึ่งได้รับสิทธิจัดการแข่งขันฟุตบอลรายการพิเศษที่ระดมสุดยอดนักเตะในตำนานปะทะแข้งกันแบบซีรีส์ 4 นัดระหว่างนักฟุตบอลระดับตำนานจากทั่วโลก เช่น ฟาบิโอ คานาวาโร่, ไมเคิล โอเว่น, หลุยส์ ฟิโก, คาฟู, โรนาลโด้ ฯลฯ โดยเริ่มนัดปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2557 รวมทั้งร่วมมือกับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนดำเนินโครงการฝึกอบรมนักฟุตบอลเยาวชนจีน จำนวน 200 ล้านคน

“หลักการของผมคือ เราไม่ได้ expert ในธุรกิจนั้น ถ้าลงทุนอะไร ต้องหาคนที่เก่งที่สุดในธุรกิจนั้นช่วยดูแล โดยเราทำงานร่วมกับซีอีโอและทีมงานในด้านนโยบาย ความต้องการ หรือธุรกิจควรเป็นอย่างไร และช่วย support เขาให้มากที่สุด ขณะที่การลงทุนใน A.C. Milan เราต้องเคลียร์ก่อนว่า ถ้าเข้าไปแล้วจะเสริมอะไรได้ ผมมี GLS Academy เด็ก 200 ล้านคน จะทำอย่างไรให้มาเสริม A.C. และ connection ของเราที่เรามีใน middle east กับเอเชีย จะทำอย่างไรให้ชื่อ A.C. Milan ขยายไปทางนี้ได้” นักธุรกิจวัย 40 ปีกล่าวถึงแนวทางการต่อยอด A.C. Milan ที่ชัดเจน ซึ่งมีส่วนส่วนสำคัญทำให้สามารถผ่านขั้นตอนที่เข้มงวด

เพื่อได้เข้าเป็นผู้เจรจาเพียงรายเดียวในการเข้าถือหุ้นสโมสรฟุตบอล A.C. Milan แห่งอิตาลีหากย้อนไปยังจุดเริ่มต้นนับตั้งแต่วันที่ The Edmond de Rothschild Group เป็นผู้นำเสนอดีลระดับโลกในเดือนตุลาคม บีใช้เวลา 2 เดือนในการตัดสินใจ ก่อนติดต่อกลับไปในเดือนธันวาคมเขาวางแนวทางการดำเนินงานทางธุรกิจที่ชัดเจน ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจนำเสนอแผนธุรกิจที่สามารถต่อยอดการเติบโตให้กับ A.C. Milan อย่ำงเป็นขั้นตอน ทำให้ชื่อของมิสเตอร์บี เป็นนักธุรกิจไทยที่มีความเหมาะสมและเข้าตา Silvio Berlusconi มากที่สุด บียังคงระลึกถึงความประทับใจในวันที่พบกับ Silvio Berlusconi

“ลองนึกภาพ จะไปคุยกับอดีตนายกฯ 3 สมัย ผู้ที่รวยที่สุดในอิตาลีสร้างทีมนี้มา 30 ปี มันเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก เพราะมันไม่ใช่แค่ดีลธุรกิจ แต่มันคือดีลกับครอบครัว ดีลกับตัวเขาเองเรื่องจิตใจเขาด้วย นับว่าเป็นการคุยที่ดีมาก เขาเป็นคนที่ very nice very smart และคำไหนคำนั้น”

สำหรับแผนธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการของ Silvio Berlusconi คีย์สำคัญอยู่ที่ความชัดเจนในการสร้างการเติบโตให้กับ A.C. Milan และการขยายฐานความนิยมไปยังกลุ่มประเทศในเอเชียโดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งบีได้สร้างฐานเยาวชนไว้แล้วจำนวน 200 ล้านคนใน GLS Academy รวมทั้งความตั้งใจที่จะนำ A.C. Milan เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และเสนอขายหุ้นไอพีโอในฮ่องกงและมิลาน ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่หุ้นสโมสรฟุตบอลของอิตาลีได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์

ขณะที่ Silvio Berlusconi ยังคงเป็นผู้ถือหุ้น แม้โพลจากสื่ออิตาลีจะระบุชัดถึงคะแนนความนิยมที่ชาวอิตาเลียนจำนวนกว่า 77% ของผลสำรวจเทใจให้มิสเตอร์บีเข้าซื้อหุ้น A.C. Milan ก็ตาม

“A.C. Milan เป็นทีมอิตาลี ต้องเป็นของชาวอิตาเลียนต่อไปเราเพียงเข้าไปเสริม เราเป็น investor ช่วยขยายธุรกิจ ไม่ใช่เทคเพื่อให้เป็นของคนไทย ซึ่งถ้าทำแบบนั้น ยิ่งทำให้ชื่อเสียมากกว่าเราต้องการไปสร้างทีมธุรกิจให้ขยายออกไป ซึ่งในกำรทำงานทุกครั้งผมจะหำคนที่เก่งด้านนั้นและให้เขาทำ ไม่ใช่เราทำเองถ้าไม่ถนัดอย่าไปยุ่ง เราแค่รู้ว่าต้องการลงทุนอะไรจากตรงนี้ก็พยายาม manage ให้ดีที่สุด และไปถึงจุดนั้นให้ได้”

โอกาสการลงทุนในสโมสรฟุตบอลอยู่ที่ชื่อของ “A.C. Milan” ที่ครองใจ fan base มากที่สุดจำนวน 374 ล้านคน โดยเป็นแชมป์ รวม 46 รายการ และมีจำนวนถ้วยรางวัลมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รวมทั้งนักเตะแข้งทองทั้งหลายในโลกล้วนเคยเตะให้กับทีมปีศาจแดงดำ เช่น Franco Baresi, Roberto Donadoni, Paolo Maldini, Alessandro Costacurta, Genaro Gattuso, Roberto Baggio และ David Beckham เป็นต้น หรือในยุครุ่งเรืองของสามทหารเสือ ได้แก่ Marco Van Basten, Ruud Gullit และ Franklin Edmundo Rijkaard มิสเตอร์บีกล่าวปิดท้ายเกี่ยวกับความมั่นใจในการลงทุนครั้งนี้ว่า

“ผมไม่เคยสนใจทีมอื่นเลย เพราะฟุตบอลก็เหมือนอสังหาฯ ถ้าจะลงทุนทั้งทีต้องลงทุนใน location ที่ดีที่สุด ถ้าลงทุนบอลก็ลงทุนในชื่อที่ดีที่สุดทีเดียว เมื่อเรามีโอกาสลงทุนใน The Best Name in the World เราจึงทำ ถ้ำไม่ใช่ A.C. Milan เราไม่ทำ ผมเชื่อว่า สามารถทำให้ดีได้ รายได้สามารถเติบโตได้หลายเท่าแน่นอน performance ของทีมอย่างน้อย top 4 ภายในปีหน้า และในท้ายที่สุดความสำเร็จเราจะเห็นเอง ถ้าแฟนพอใจ และรักทีม stadium ของเราเต็ม นั่นคือ ความสำเร็จ”

อ่าน "Forbes Thailand: The Essential Guide for Enrichment" ฉบับพิเศษประจำ JUNE 2015