"ถ้าให้เปรียบเทียบความยิ่งใหญ่ของรางวัล AMWC ก็น่าจะเทียบได้กับรางวัลออสการ์แห่งวงการแพทย์ความงาม ดังนั้น สำหรับผมการที่ได้เป็นหมอไทยคนแรก และคนเดียวของเอเชียที่สามารถคว้ารางวัลนี้ได้สำเร็จ จึงเป็นมากกว่าความภาคภูมิใจ แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ว่า หมอไทยเก่งไม่แพ้หมอชาติไหนในโลก"
นี่คือความรู้สึกส่วนหนึ่งของนพ.ณัทธร นฤปเวศม์ หรือ หมอท็อป แพทย์อเมริกันบอร์ดด้านศัลยกรรมการปลูกย้ายเซลล์รากผมที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี อีกทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้ง The Skin Clinic by Dr.Top Hair Hospital แน่นอนว่าเบื้องหลังความสำเร็จบนเวทีระดับโลกนี้ ไม่ได้เกิดจากโชคช่วยหรือความบังเอิญ แต่หล่อหลอมจากความมุ่งมั่น ความตั้งใจ และหัวใจที่ไม่เคยหยุดพัฒนาและเรียนรู้ของหมอท็อป

ทำไม AMWC ถึงได้ชื่อว่าออสการ์แห่งวงการแพทย์ความงาม
หมอท็อป ฉายภาพให้เห็นถึงความน่าสนใจของ AMWC 2025 Aesthetic & Anti-Aging Medicine World Congress ว่า เป็นงานประชุมแพทย์ความงามและเวชศาสตร์ชะลอวัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ มอนติคาร์โล ประเทศโมนาโก ถือว่าเป็นบิ๊กอีเว้นต์ที่รวบรวมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและเวชศาสตร์ชะลอวัยจากทั่วโลกกว่า 20,000 คนมาไว้ในงานเดียว เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนวัตกรรมล้ำสมัยในงาน
ความพิเศษของงานประชุมสุดยอดนี้ คือ ไม่เพียงเป็นเวทีโชว์เคสการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ แต่ทุกปียังมีการมอบรางวัลอันทรงเกียรติแก่แพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญในการรักษา รวมถึงยกย่องบุคคลและองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการคิดค้นผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่พลิกโฉมอุตสาหกรรมความงามระดับโลกอีกด้วย
นอกจากความยิ่งใหญ่ของงานประชุม ด้วยกระบวนการในการคัดสรรแพทย์ เพื่อมอบรางวัลอันทรงเกียรติที่เข้มข้นมาก ทำให้ AMWC จึงได้ชื่อว่าออสการ์แห่งวงการแพทย์ความงาม โดยในแต่ละปีจะมีแพทย์จากทั่วโลกหลายพันคน ส่งผลงานเข้ามาร่วมประกวด โดยผลงานทั้งหมดจะผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ และมีการโหวตจากเพื่อนร่วมวิชาชีพหรือผู้ที่มีความรู้ในสาขานั้นๆ กว่า 20,000 คน รวมทั้งหมด 13 สาขา

ในปีล่าสุด หมอท็อปกล่าวว่า มีผลงานที่ส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น 1,000 เคส ผ่านการคัดเลือกสู่รอบสุดท้าย 220 คน ก่อนถูกเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัล 100 คน และมีแพทย์เพียง 28 ท่านเท่านั้นที่ได้เข้าชิงรอบสุดท้าย (Finalists) โดยหมอท็อป เป็นแพทย์ปลูกผมเพียงคนเดียวจากประเทศไทยและเอเชีย ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 6 ผู้เข้ารอบสุดท้าย ก่อนจะคว้าได้รับรางวัลชนะเลิศด้านศัลยกรรมปลูกย้ายเซลล์รากผมในสาขา Best Case in Hair Restoration

"ผลงานที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย เป็นผลงานของแพทย์จากหลายประเทศด้วยกัน อาทิ สหราชอาณาจักร, บราซิล, เอกวาดอร์,ไอร์แลนด์ และไทย แต่ละผลงานล้วนมีความน่าสนใจและมีการใช้เทคนิคในการรักษาที่หลากหลาย สำหรับผลงานที่ผมส่งเข้าร่วมประกวด เป็นเคสคนไข้เพศหญิง อายุ 37 ปี ที่ประสบปัญหาศีรษะล้านจากไฟไหม้ มีแผลเป็นรุนแรงระดับ 3 ในบริเวณกว้าง 2 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นเคสที่ทำการรักษาค่อนข้างยาก ผมเลือกทำการรักษาด้วย Combination Techniques ซึ่งเป็นการผสานนวัตกรรมล้ำสมัยเข้าด้วยกัน ตั้งแต่การกระตุ้นหนังศีรษะก่อนปลูกด้วยเซลล์ไขมันตัวเองที่เรียกว่าเทคนิค Nano Fat และเซลล์รากผมตัวเองที่เรียกว่าเทคนิค Autologous Micrograft ควบคู่กับการปลูกผมแบบไม่ต้องโกน (Long Hair FUE) ไปจนถึงการฟื้นฟูผมหลังปลูกด้วย Exosome Rich Plasma ทำให้สามารถฟื้นฟูผมให้กลับมาเป็นธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน"
อย่างไรก็ตาม กว่าจะมาถึงวันนี้ หมอท็อป ยอมรับว่า เส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เคยผ่านทั้งความผิดหวังและเสียดายมาหลายครั้ง แต่เพราะหัวใจที่แน่วแน่และไม่มีคำว่ายอมแพ้ในพจนานุกรม ทำให้หมอท็อปสามารถพิชิตเป้าหมายที่ตั้งไว้
"ก่อนจะคว้ารางวัลชนะเลิศ ผมเคยส่งผลงานเพื่อเข้าร่วมประกวดตั้งแต่ 2 ปีก่อน ถามว่า ผมคาดหวังรางวัลชนะเลิศตั้งแต่ปีแรกที่ส่งผลงานเลยมั้ย คำตอบคือใช่ เพราะเวลารักษาคนไข้ ผมตั้งใจทำเต็มที่ ทำอย่างดีที่สุดในทุกเคส ผมมีความเชื่อว่า คนเราถ้าจะพิสูจน์ว่าเราทำได้ดีหรือไม่ ไม่ใช่แค่ตัวเองบอก แต่ต้องให้คนอื่นช่วยยืนยัน ผมจึงตัดสินใจเลือกผลงานที่ภูมิใจ และคิดว่าสู้คนอื่นได้ส่งไปประกวด ผมเป็นแพทย์ปลูกผมไทยคนเดียวที่ผลงานติดอันดับ 1 ใน 3 เคสศัลยกรรมปลูกย้ายเซลล์รากผมที่ดีที่สุดในงาน AMWC 2023 พอปีถัดมาผลงานได้เข้ารอบสุดท้าย จนมาถึงปีล่าสุด จึงสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ"
คุณหมอท็อป กล่าวว่า นอกจากจะขอบคุณอาจารย์ที่ให้ความรู้ และภรรยาที่คอยซัพพอร์ต ต้องขอบคุณคนไข้ทุกเคส ที่อนุญาตให้นำเคสการรักษามาเผยแพร่ เพื่อเป็นวิทยาทานให้กับแพทย์ทั่วโลกและผู้ที่สนใจ
"สิ่งที่ผมภูมิใจทุกครั้งที่ขึ้นเวทีระดับโลก คือ ได้เห็นธงไตรรงค์ขึ้นไปแสดงในเวทีระดับนานาชาติ เป็นการตอกย้ำว่าแพทย์ไทยไม่เป็นรองใครในโลก และผมหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนร่วมวิชาชีพ เพื่อพัฒนาวงการแพทย์ไทยต่อไป"

เปิดเส้นทางหมอนักเรียนรู้และแบ่งปัน
ตลอด 20 ปีบนเส้นทางการเป็นแพทย์ปลูกผมของหมอท็อป กระทั่งก้าวสู่ความสำเร็จบนเวทีระดับโลก ถ้าถามว่าอะไรคือ Key Success ของหมอท็อป คงหนีไม่พ้นความมุ่งมั่นในการรักษาคนไข้ ควบคู่ไปกับความกระหายที่จะเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ขณะเดียวกันยังไม่ลืมที่จะส่งความรู้และประสบการณ์ให้กับเพื่อนร่วมวิชาชีพ
แม้หมอท็อป จะเป็นหนึ่งในคุณหมอคิวทอง ดูแลคนไทยปีละไม่ต่ำกว่าพันเคส คุณหมอท็อปยังขยันอัปเดตความรู้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปร่วมงานประชุมหรือสัมมนาทั่วโลก ได้รับเชิญเป็นวิทยากรด้านการปลูกย้ายเซลล์รากผม ทั้งในไทยและต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ตุรกี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และโมนาโก รวมถึงได้รับรางวัลจากเวทีระดับโลก ทำให้ได้รับการยอมรับในฐานะ World-Renowned Speaker ด้านศัลยกรรมปลูกผม
"ผมเริ่มต้นจากการเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัยมหิดล โรงพยาบาลรามาธิบดี จากนั้นผมมีโอกาสได้ไปเรียนต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ University of Wales และต่อยอดเป็นแพทย์ American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS) ด้านศัลยกรรมปลูกย้ายเซลล์รากผม ซึ่งทั่วโลกมีเพียงประมาณ 300 คนปัจจุบันในประเทศไทย มีอยู่ประมาณ 22 คน ตั้งแต่เรียนจบ จนมาก่อตั้ง The Skin Clinic ศูนย์ดูแลทุกปัญหาเส้นผมและผิวหนัง ที่แพทย์หลายคนไว้วางใจมารักษาด้วย ผมและธุรกิจเติบโตขึ้นพร้อมกับการพัฒนาของเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการปลูกผม ผมมองว่า การที่พาตัวเองออกไปเปิดโลกกว้าง ทั้งในฐานะผู้ร่วมงานหรือเป็นวิทยากร นอกจากจะเป็นการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ยังสามารถนำความรู้และประสบการณ์มาส่งต่อ เพื่อพัฒนาบุคลากรและวงการแพทย์ไทยต่อไป เพราะจากประสบการณ์ทำให้ตกผลึกว่าการปลูกผมไม่มีเทคนิคใดดีที่สุด แต่ต้องเลือกให้เหมาะกับคนไข้แต่ละราย ดังนั้น บนโลกของหมอการเรียนรู้จึงไม่มีคำว่าสิ้นสุด"
ยิ่งปั้นบุคลากร ยิ่งช่วยเหลือคนไข้ให้มากขึ้น
สำหรับเป้าหมายในอนาคต หลังจากพิชิตรางวัลระดับโลก หมอท็อป ตั้งใจว่าปีหน้าจะเปิดโรงพยาบาลปลูกผมเฉพาะทาง เพื่อรองรับการรักษาคนไข้ที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นการตอกย้ำกับแรงบันดาลใจในการเป็นแพทย์ปลูกผมของหมอท็อป ที่ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาศีรษะล้าน หรือผมบาง เพื่อความสวยงาม แต่ยังเป็นการช่วยเติมความหวังและช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะ เหมือนเป็นการช่วยเหลือคนในอีกรูปแบบ
"ในอนาคต ผมตั้งใจจะสานต่อความสำเร็จนี้ด้วยการ ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์เพื่อสร้างแพทย์รุ่นใหม่ เพราะยิ่งมีบุคลากรที่เก่งกาจมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์ และจะสามารถต่อยอดสู่การ ขยายโรงพยาบาลปลูกผมไปยังจังหวัดต่างๆ ได้ อีกสิ่งที่ผมตั้งใจจะสานต่อ คือ โครงการปลูกผมให้กับกลุ่มคนไข้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งเราทำมาตลอด และจะทำต่อไป เพราะสำหรับผม การได้ช่วยเหลือผู้คนและเติมเต็มความหวัง คือ ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต" หมอท็อปกล่าวทิ้งท้าย
ช่องทางการติดต่อ
Website: https://www.theskinclinic-hair.com/
Facebook: The Skin Clinic Link: https://www.facebook.com/TSCthailand
Line OA: @theskinjtc Link: https://lin.ee/4HnVk44
Tel: 066-115-6837 และ 083-033-2830
YouTube: https://www.youtube.com/@TheSkinClinicS
TikTok: https://www.tiktok.com/@theskinclinic1
IG: https://www.instagram.com/theskin.clinic/
Email: tsctheskin.ads@gmail.com